"ความหลง" เกิดได้กับทุกคน แม้แต่คนที่ได้ชื่อว่า "มีปัญญา"


แวดวงอุดมศึกษาท้องถิ่น จะว่าไปก็มีเรื่องราวอะไรแปลก ๆ หลายอย่างที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ส่วนใหญ่ก็เกิดจาก "ความหลง" อันมีเหตุจากความเชื่อมั่นว่า ตัวเองคิดถูก ทำถูก โดยไม่ได้ใช้หัวสมองระดับปัญญาชนไตร่ตรองความถูก หรือ ผิดให้ดีเสียก่อน สักแต่ว่า "ตูเก่ง" อยู่เสมอ ใคร ๆ ก็มาว่าไม่ได้ ประมาณนั้น

 

หลงคิดว่า "ตัวเองเก่งกว่าใคร"

แน่นอนว่า เปอร์เซ็นต์ของอาจารย์ส่วนใหญ่จะต้องจบ ป.โท เพื่อสอนนักศึกษา ป.ตรี ได้ หากเรียนเก่ง ได้รับโอกาสมากหน่อยได้ศึกษาต่อ ก็ได้ ป.เอก จากเมืองไทย หรือเมืองนอกเมืองนา ดูโก้ดี ... หน้าชื่อเวลาเรียกก็เรียกว่า อาจารย์ ดร. (อ่านว่า อาจารย์ด็อกเตอร์) ... หลายคนแสดงกึ๋นความเก่งเฉพาะตัวออกมา แต่หลายคนกึ๋นระดับปริญญาตรี-โท บางทียังไม่ถึง พูดคุยกับคนอื่นไม่ค่อยรู้เรื่อง ... เคยเห็นไหมครับ จบเอกมาใหม่ ๆ ยังไม่ทันได้รับปริญญาบัตร หรือ Transcript เลย ... ใครไม่เรียก ด๊อก ... โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง หาว่า เขาเกลียดตัวเอง ... คนพวกนี้ หลงวุฒิการศึกษาชั้นสูง เท้าไม่ติดดิน

เมื่อสอนหนังสือไปได้สักระยะ ก็เขียนเอกสารประกอบการสอน เขียนตำรา ทำผลงานวิชาการเป็น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ ต่าง ๆ ... ได้แล้ว ใครไปเรียกอาจารย์เฉย ๆ ล่ะ โอ้โห ... แทบหาอะไรขว้างหัวคนเรียก มันต้องเรียก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ .... เข้าใจ๋ ... ไม่ใช่ไม่มีนะครับคนประเภทนี้ เยอะเหมือนกัน แบบนี้เรียกว่า หลงในตำแหน่งทางวิชาการ ... บางทีความรู้ก็อยู่แค่ในตำราที่เขียนนั่นแหละ ถามเรื่องอื่นรอบ ๆ ตัว ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง คนถามก็ได้นั่งแต่ยิ้ม เพราะคิดว่า คงไม่ได้คำตอบเร็ว ๆ นี้แน่

คนที่คิดว่าตัวเองเก่งหนักหนา มักมีอุปนิสัย เชิด หยิ่ง ยโส อย่างเห็นได้ชัด ... การแสดงความฉลาดทับคนที่เรียนต่ำกว่า หรือฐานะต่ำกว่าเป็นเรื่องที่กระทำได้อย่างไม่อาย เรียกว่า เกทับ กันกลางที่ประชุม ... แต่อ่าน ๆ ไป เดี๋ยวหาว่า กล่าวหา ... เกทับ กับ แสดงกึ๋น เป็นคนละความรู้สึกนะครับ ... ดร.บางคนพูดจามะนาวไม่มีน้ำ ว่าง ๆ จะให้ไปเงินไปซื้อมะนาวมาหยอดคอสักลูก ... ชี้นิ้ว สั่งการ หวานไม่เป็น

"ความหลง" เกิดได้กับทุกคน แม้แต่คนที่ได้ชื่อว่า "มีปัญญา"

 

 

หลงคิดว่า "ใครไม่เชื่อเหมือนตัวเอง เป็นคนโง่"

เคยเห็นคนเรียนสูง ๆ ระดับอาจารย์มหาวิทยาลัยเชื่อในเรื่อง "การตัดกรรม" หรือ "บริจาคเงินมาก ๆ แล้วจะขึ้นสวรรค์" ไหมครับ ? ... ผมเองก็ไม่ได้เถียงว่า เรื่องราวชวนลึกลับเหล่านี้ไม่มีจริง เพียงแต่ควรต้องใช้จิตพิจารณาให้ดี ๆ ว่า การทำบุญ ทำทาน ให้กับบางที่ บางคน มันเป็นการทำให้เราพ้นกรรมได้จริง ๆ หรือ ? ... หรือไม่ทำบุญ ทำทานจนขนาดตัวเองต้องยอมกู้หนี้ยืมสินเพื่อนำมาซื้อ "กรรมเก่า" ที่ตัวเองเคยก่อเอาไว้ หรือ ซื้อบ้านหลังใหม่ในสวรรค์ชั้นฟ้า ถือเป็นการลงทุนแบบหมดหน้าตัก ... ตอนเย็นต้องกลับบ้านไปกินกล้วยน้ำว้าประทังความหิวแทน ... แบบนี้มันคือ การทำบุญทำกุศลไหม ?

คำของพระพุทธเจ้า คือ "ทาน" หรือ "บริจาค" สามารถทำได้ แต่ผู้ทำย่อมต้องไม่เดือดร้อน คนรอบข้างต้องไม่เดือดร้อน ภรรยาต้องไม่เดือดร้อน บุตรต้องไม่เดือดร้อน หากการทำทาน หรือ บริจาคนั้น ทำให้ตนเดือดร้อน สิ่งนั้นย่อมไม่เรียกว่า "บุญ" แต่เป็น "บาป" นอกจากไม่ไปสวรรค์แล้ว ยังตกนรกอีกต่างหาก

คนเรียนสูง ๆ มีปัญญา ทำเรื่องแบบนี้ด้วย ... ทำบุญแลกความทุกข์ใจ แต่ทำบุญจนหมดตัว ... ผมมองอย่างไรก็ไม่เห็น "บุญ" สักกะแอ๊ะ ... เหมือนเราเคยได้ยินข่าวที่วัด ๆ หนึ่งรับบริจาคจนครอบครัวแตกสลายนั่นแหละ ไม่ต่างกันเลย

เราทุกคนมีความเชื่อและศรัทธาเป็นเรื่องส่วนตัวด้วย หากมันมากเกินไป ทำให้ตัวเองและคนรอบข้างต้องเดือดร้อน แบบนี้เรียกว่า "หลง" งมงายเสียมากกว่า ขาดสติยั้งคิดอย่างน่าอาย

พระพุทธองค์ สอนให้เดิน "ทางสายกลาง" ไม่ใช่ เอียงซ้ายบ้าง ขวาบ้าง ...

ไม่รีบเดินกลับมาสู่เส้นทางเดิม ระหว่างจะสายเกินไป พังทั้งชีวิต

"ความหลง" เกิดได้กับทุกคน แม้แต่คนที่ได้ชื่อว่า "มีปัญญา"

 

 

หลงคิดว่า "เรามีอำนาจ"

อาจารย์มหาวิทยาลัยโดยส่วนใหญ่จะใส่รองเท้าเบอร์เดียวกัน ไม่ว่าจะตำแหน่งไหน หากแต่เมื่อมีสรรหา หรือหยั่งเสียงขึ้นสู่ตำแหน่งการบริหาร ก็จะได้เกียรติเข้าไปบริหารจัดการหน่วยงานนั้น ๆ

ก่อนเข้าไปสู่ตำแหน่งนั้น เป็นอาจารย์ที่แสนดี สอนตลกขบขัน แต่เมื่อเข้าสู่ตำแหน่ง ใครไม่เรียก ท่านรองฯ ท่านคณบดี จะโกรธ ๆ ไม่พอใจ (มีนะครับแบบนี้)

หรือเมื่อเข้าสู่ตำแหน่ง ใครมาออกความคิดเห็นไม่ได้ หาว่า ตีรวน ไม่ฟังผู้บริหาร ซึ่งอาจจะนำไปสู่การขัดขวางการทำงานของอาจารย์ผู้นั้นให้ไม่ได้รับความสะดวกในการปฏิบัติงาน เช่น เกรดส่งช้าให้รายงานอธิการบดีแทนที่จะเป็นคณบดี หรือ ไม่คัดเลือกให้ได้เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น หรือไม่ขึ้นเงินเดือนให้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด

ไม่ว่าจะ "หลง" มัวเมาในอำนาจนานแค่ไหน พอหมดวาระ ก็มีเดินพื้นดินเท่ากัน เป็นครูเหมือนกัน สอนหนังสือเหมือนกัน ผมเห็นหลายคนแทบทำหน้าไม่ถูก เพราะตอนเป็นผู้บริหารเคยไปรังแกเขาอย่างไม่ยุติธรรม

"หลง" แล้ว "ทุกข์" ในอนาคต

"ความหลง" เกิดได้กับทุกคน แม้แต่คนที่ได้ชื่อว่า "มีปัญญา"

 

 

ตัวอย่างที่ยกมา จะเห็นได้ว่า "ความหลง" ไม่ขึ้นอยู่ว่าจะเรียนจบทางโลกมาถึงระดับปริญญาไหน สูงเท่าใด แต่ทุกคนสามารถ "หลง" ได้หมดในกิเลส ตัณหา ความเชื่อถือส่วนตัว

ดังนั้น จงเลือกนับถือคนที่มีปัญญา ไม่หลงใหลได้ปลื้มในกิเลสที่รุมเร้าเท่านั้น ปริญญา ตำแหน่งทางวิชาการมันบ่งบอกไม่ได้ ท่านต้องลองไปสัมผัสเอง

ตั้งประเด็นไว้แค่คิดครับ ... ไม่ได้มีเจตนาก้าวร้าวหรือโจมตีใครเป็นการส่วนตัว

บุญรักษา คนไม่หลงกิเลสง่าย ๆ ครับ :)

 

หมายเลขบันทึก: 263388เขียนเมื่อ 26 พฤษภาคม 2009 00:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 06:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)
  • ตื่นเช้าขึ้นมาหลังนอนดึกเพราะ..เมามัน..กับงาน G2K forum ก็ได้มาอ่านบันทึกของอาจารย์
  • สะดุดบันทึกเพราะ กำลังคิดเรื่องเดียวกัน
  • คนไข้เพิ่งให้ซีดีคำสอนตอนเช้าของท่านอาจารย์ปราโมทย์ เลยเปิดฟังในรถ
  • นึกสงสัยว่า คำว่า ปัญญา เป็นคำที่มีสองลักษณะเหมือนคำอื่นหรือไม่ เช่น สมาธิ: สัมมาสมาธิ มิจฉาสมาธิ
  • ถ้าเป็นคำที่มีสภาวะเดียว คนที่มีปัญญาทางธรรม ก็น่าจะมีความหลงน้อยลงนะครับ ซึ่งต่างจากคนที่มีปัญญาแต่ทางโลก ความหลงอาจจะมากขึ้นด้วยซ้ำ อย่างกรณีที่อาจารย์เล่า

 

ความหลง กับ อำนาจ

โหย ไม่ต้องถึงดร. หรือมีตำแหน่งทางวิชาการหรอกค่ะ

ระดับเดียวกันเอง แค่ได้ไปประชุมแทนผู้บริหารบ่อยครั้งหน่อย

ลืมตัวไปเลยค่ะ นึกว่าตัวเองมีตำแหน่งนั้นเลย

เชิด คอแข็ง เหมือนคนเป็นโรคพิษสุนัขบ้า

ไม่ฟังเสียงใคร  บอกอะไร..รู้แล้ว!! รู้แล้ว!!

ถ้าวันใดไม่บอก ก็จะอ้างว่า" แล้วทำไมไม่บอกล่ะ "

เหอเหอเหอ เป็นซะงั้นแหละ ....

กรณีศึกษา ไม่ได้ว่าใครหรือเฉพาะจงเจาะใครเหมือนกันค่ะอิอิ..

              

                  ฝากกลิ่นหอมของดอกโมกที่บานรับน้ำฝนมาด้วยค่ะ

 

สวัสดีค่ะ อาจารย์ บางครั้งพอลล่าก็เป็น...หลงคิดว่า "ใครไม่เชื่อเหมือนตัวเอง เป็นคนโง่" และคนอื่นก็เป็นแบบนี้..ค่ะ

 

 

 

  • หากจะเรียกความสามารถ คิด นึก รู้สึกตน ที่คนเหล่านี้มี ว่า ปัญญา ก็ไม่ใช่ปัญญาแท้ หรือ ปัญญาเทียมก็ไม่อยากจะเรียก  เพียงมีสมอง และสมองมันยังทำงานอยู่ และมันทำงานของมันไป อย่างขาดสติมากกว่า 
  • เพื่อนผม เขามักเรียกว่า พวกปัญญาเกินสติ 
  • เออก็จริงนะ อาจารย์Wasawat Deemarn ใช้คำว่า "หลง" สำหรับเรียกอาการที่ยกขึ้นมาคุยกันคราวนี้ อาการหลง ก็คือ อาการขาดสติ  คนมีสติ ก็จะต้องรู้ว่าอะไร เป็นอะไร  และจะปฏิบัติ อะไรตามที่มันเป็นอย่างรู้ตัว อาการที่ถูก"ความไม่รู้"ครอบงำ คือ หลง
  • อย่างงั้น "คนหลง" จึงน่าสงสาร ถ้าไม่สงสาร ก็เป็นตัวตลก น่าขำ แต่อย่าไปขำเขาเลย มันเป็นการซ้ำเติมผู้อื่น ไม่ดี เมตตาเขาเถอะ แล้วก็แผ่เมตตาให้เขาไป
  • สัพเพสัตตา สรรพสัตว์ทั้งหลาย  ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น  จงเป็นสุข เป็นสุข เถิด...

                                                                 paaoobtong
                                                                     26/05/52
                                                                            6:39

  • ไม่งั้นจะเรียกว่าคนเหรอคะ อาจารย์ รวมๆ กัน ดีบ้างแย่บ้างผสมผสานกันไป
  • ดีหมดก็จืดชืด แย่หมดก็วุ่นวาย

 

สวัสดีครับพี่ Was

แม้จะเป็นคนร่าเริง แต่เมื่อไหร่ที่ผมได้พบคนหลงทางที่ ยินดีหลงอยู่อย่างนั้น ไม่ต้องบอกทางออกหรอก เพราะไม่อยากออก จะออกอาการ น่าเบื่อครับ ^_^

ผมไม่เชื่อเรื่องตำแหน่งครับ ผมเชื่อเรื่องหน้าที่และความเสมอภาคมากๆ เห็นใครมาเบ่งใส่ผู้น้อยแล้วน่าส่ายหัวครับ...เฮ้อ!!!

หวังให้เค้ากลับมาเป็นเด็กอีกครั้งนะครับ น่ารักกว่าเยอะเลย ^_^

ขอบคุณมากครับพี่ ;)

ขอบพระคุณ อาจารย์หมอ เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี ครับ ... มีคำที่ผมชอบครับ Focus ไว้เลย คือ

"คนมีปัญญาทางธรรม" กับ "คนมีปัญญาทางโลก"

:)

สำนวนไทยเขาว่า "กิ้งก่าได้ทอง" หรือเปล่าครับ คุณครูจุฑารัตน์ NU 11 ;)

กรณีศึกษาครับ กรณีศึกษา

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ คุณ ♥paula ♥ :)

คอมเม้นส์สั้น ๆ แต่มีความหมายครับ

ขอบคุณมากครับ :)

สวัสดีครับ อาจารย์ paaoobtong ;)

ได้คำดี ๆ จากอาจารย์อีกแล้วครับ

"ปัญญาเกินสติ"

อาการหลงเกิดจากการขาดสติ ไม่ใช่สติไตร่ตรองเสียก่อน

แผ่เมตตาเหมือนอาจารย์ว่า ครับ

สัพเพสัตตา สรรพสัตว์ทั้งหลาย  ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น  จงเป็นสุข เป็นสุข เถิด...

ขอบคุณมากครับ :)

"สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน"

ขอบคุณครับ คุณ Wanpen :)

สวัสดีครับ น้อง adayday :)

... คน "หลง" เค้าพอใจที่อยู่อย่างนั้น (คิดว่า สุข)

... อยากให้เขากลับเป็นเด็กอีกครั้ง (น่าคิด)

ขอบคุณครับ :)

 

แอบมาอ่านสาระเด็ดๆ ที่ท่านเสือบ่นค่ะ J  ...  วันนี้ฝนตกแต่เช้าเลยค่ะ

เปิดเทอมใหม่ ดอกไม้และบรรยากาศที่หอ และมอ. คงงาม อยากชมภาพจังค่ะ J

อากาศฝั่งกระโน้นเป็นไงบ้างคะ ... น้องจำปี จำปาที่บ้านอ. ออกดอกยังเอ่ย ?

"""

เป็นคนหลงเช่นกันค่ะ  หลงใหลได้ปลื้ม กับธรรมชาติงามๆ น้องฟ้ากะนายเมฆ J

สุดท้าย บางคน กว่าจะรู้ว่า แท้จริงแล้ว ตำแหน่ง เงินตรา ยศฐา ก็แค่นั้น

แค่นี้ แค่นั้น จะแค่ไหน ... แค่ได้ แค่มี แค่หลง ... แค่นี้ แค่นั้น แค่ไหน ได้แค่ ปลง

สุดท้าย ก็ลง  ...  เช่นกัน  นิรันดร์ไป ...

 

 

มีความเห็นเช่นเดียวกับท่านคะ  ที่คนที่มีความรู้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปหลงตน  หรือไปหลงงมงาย หรือลืมตน  สมควรแล้วว่า  คน  เพราะคน คน เพราะมันวกวน คนใส่กัน เลยขาดสติ  ปัญญาไม่เกิด

อ่านแล้วมันคะ

สวัสดีครับ คุณ poo ;)

อากาศตอนนี้ร้อนครับ ฝนไม่ตกมาหลายวัน

ผมก็หลงธรรมชาติเช่นกันครับ

ขอบคุณครับ

  • ได้ไปฟังธรรมของหลวงพี่ไพศาลที่คณะทันตะ ในเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับบันทึกนี้ จึงนำมาฝาก
  • หลวงพี่ไพศาลกล่าวถึงสั้นๆโดยอ้างอิงมาอีกที ว่า

มองเข้าใน ไม่เห็นตน คือ ปัญญา
มองข้างนอก เห็นตน คือ กรุณา

  • ได้นมัสการถามหลวงพี่ว่า ปัญญา มีสองลักษณะหรือไม่
  • ได้คำตอบว่า ปัญญา มีนัยยะเดียวในทางบวก
  • ไม่ได้ถามคำถามที่สอง จะทำให้พวกที่ปัญญาทางโลกมากๆ ไม่หลง ได้อย่างไร

ขอบพระคุณ อาจารย์หมอ นาย เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี ที่ได้เติมความรู้ทางธรรมให้ผมต่อไป

ขออนุโมทนาบุญครับ ;)

ขอบคุณค่ะอาจารย์

ต้องทบทวนตัวเองแล้วค่ะ หลงติดกับอะไรมากไปรึเปล่า

เพราะรู้สึกเหมือนช่วงนี้เหนื่อยๆ ใจค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ปล่อยแล้ววาง ... หนทางจะสดใส ครับ น้อง สี่ซี่ ;)

ขอบคุณครับ

พี่อาจารย์ขา

น้องเคย"หลงผิด"

จากสถานการณ์คล้ายๆกับที่พี่เขียนเลยค่ะ

กว่าจะรู้ตัวว่าเรานั้น "อวิชชา"ก็เกือบสายไปแล้ว

ขอขอบคุณกัลยาณมิตรทุกคนค่ะที่ทำให้น้อง

เข้าใจอะไรๆได้มากขึ้น

สวัสดีครับ น้องอาจารย์ peefone ;)

ชีวิตของคนเราแต่ละคน จะได้มี "กัลยาณมิตร" เพียงสักคน ก็ยากแล้วนะครับ แต่หากน้องโชคดีมี "กัลยาณมิตร" มากมาย ขอให้รักษาเขาเหล่านั้นไว้ให้ดีที่สุด สุขที่สุดครับ

ขอบคุณมากครับที่แวะมาเยี่ยมเยือนบันทึกความคิดนี้ ;)

สวัสดีค่ะ อาจารย์ แวะมาทักทายค่ะ

คนมีปัญญา แต่ขาดสติ ก็มีให้เห็นกันเยอะค่ะ

ขอให้มีความสุขกับทุกๆวันนะค่ะ

อ้าว เปลี่ยนนามแฝงเสียจนตกใจครับ ;)

ขอบคุณครับ คุณ NuiErnik ;)

ความหลงนี้เกิดได้กับทุกคนจริงๆค่ะ

ฉันหลงทางเดินเข้ามาCotoknow

ฉันหลงไหลในบันทึกและการแสดงความคิดเห็นของแต่ละท่าน

ความรู้มากมาย หลากหลายมุมมอง

ฉันหลงกับขอ้คิดดีๆ กำลังใจที่ได้รับ

ท้ายสุดก็หลงคนเขียนบันทึกนี้แหละ กว่าสิ่งอื่นใด (จริ๊ง จริ๊ง)

คุณแผ่นดินบอกว่า "ทุกสิ่งอย่างสำคัญที่สุุดคือ การเริ่มต้น"

ฉันก้าวข้ามจุดนั้นมาได้ ด้วยการช่วยเหลือของคุณ

อยากจะบอกว่า ขอบคุณมากถึงมากที่สุด

(ถ้าอยู่ใกล้ๆจะเข้าไปไหว้ที่หน้าอกด้านซ้ายงามๆสักสามครั้งค่ะ)

ขอบคุณในความชื่นชมที่มีต่องานเขียนของผมนะครับ

ยินดีที่ได้นำหลักคิดบางอย่างไปใช้ในชีวิตประจำวันครับ
เพราะนั่นเป็นวัตถุประสงค์ของการเขียนงานอยู่แล้ว
อันถือเป็นเรื่องการสร้างกุศลผลกรรมอันดีครับ

ผมคงต้องการใช้ชีวิตอยู่เงียบ ๆ คิดอะไรคนเดียวเงียบ ๆ
ไม่ได้อยากมี fan club หรืออะไรที่มาทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป
ในทางเดินที่เลือกเอาไว้นะครับ

ขอบคุณในความชื่นชมอีกครั้งครับ ;)...

โชคดีที่ไม่ได้ร่วมงานกับคนที่มี "ความหลง....." เพราะที่ผ่านมาเจอแต่ ดร. ศ. รศ. ที่ไม่มีความหลง มีแต่ความเมตตา มีความรู้เต็มภูมิ ให้คำแนะนำสั่งสอน ให้ประสบการณ์มากมาย ไม่เคยถูกกระทำแบบในบันทึกของอาจารย์เลยค่ะ

เราจะเรียกทุกท่านว่า "อาจารย์" และทุกท่านก็ยินดีที่จะให้พวกเราเรียกแบบนี้ บางท่านจะให้เรียกว่า "พี่" ด้วยซ้ำค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท