ใครบางคนเล่าว่า หมาเป็นสัตว์ที่ห่วงเจ้าของแต่ไม่ห่วงที่อยู่ ซึ่งต่างกับแมวที่เป็นสัตว์ห่วงที่อยู่แต่ไม่ห่วงเจ้าของ ...ใครเห็นด้วยกับเรื่องนี้บ้าง หรือใครสนใจเรื่องนี้ก็ลองเฝ้าสังเกตดู...
กุฏิผู้เขียนขาดแมวไปหลายเดือน หลังจากมีแมวประจำกุฏิอยู่หลายปี... พอแมวหมดไปจากุฎิ บางสิ่งบางอย่างในกุฏิก็เริ่มเปลี่ยนไป เช่น กลิ่นหมิ่นบูดของอาหารแมวหน้าห้องก็ค่อยๆ หายไป หรือพรมผืนใหญ่ซึ่งเมื่อก่อนเคยปูหน้าโต๊ะหมูพระประธานประจำกุฏิก็ได้รับการรื้อมาปูอีกครั้ง หลังจากเก็บไว้หลายปี เป็นต้น... ส่วนหมาที่เคยแวะเวียนมาขอแบ่งหรือแย่งอาหารแมวชุดก่อนก็โดนยาเบื่อ ทำให้ที่กุฏิขาดหมาขาดแมวไประยะหนึ่ง...
ประมาณเดือนหนึ่งมานี้ กุฏิผู้เขียนเริ่มมีแมวมาอยู่อีกแล้ว สาเหตุก็คือ หลวงตารูปหนึ่งซึ่งอยู่กุฏิติดกำแพงด้านหน้าวัด ท่านได้มรณภาพไปตามธรรมดาสัตว์โลก... ทำให้แมวที่ท่านเคยให้มันกินข้าว เริ่มไร้ที่พึ่ง เจ้าแดง ซึ่งเป็นแมวใหญ่ตัวผู้ จึงค่อยๆ เดินมาเที่ยวแถวกุฏิ เมื่อผู้เขียนเอาปลากระป๋องแห้งให้กิน มันก็ค่อยๆ มาถี่ยิ่งขึ้น ทำให้ที่กุฏิเริ่มมีจานใส่อาหารแมวขึ้นมาอีกครั้ง....
..............
เจ้าแดงใหญ่ นี้ มิใช่แมวที่เกิดในวัด เป็นแมวใกล้ๆ วัดนี้แหละ แต่เมื่อหลวงตาวางจานข้าวไว้ให้มันกินทุกวัน มันจึงมาอยู่วัด... นอกจากเจ้าแดงใหญ่นี้แล้วก็มี เจ้าแดงน้อย อีกตัว ซึ่งหลวงพี่ที่กุฏิบอกว่าน่าจะเป็นน้องของมัน เพราะรูปร่างและสีขนเหมือนกัน เพียงแต่อายุเท่านั้น บอกได้ว่าต่างคลอกกัน...
หลังจากเจ้าแดงใหญ่เริ่มมาอ้อนหาปลากระป๋องกินที่กุฏิได้ไม่นาน เจ้าแดงใหญ่ก็เริ่มพาเจ้าแดงน้อยมาด้วย... เมื่อผู้เขียนเปิดปลากระป๋องให้กิน เจ้าแดงใหญ่ก็จะไม่กิน ให้เจ้าแดงน้อยกินตัวเดียว นั่นคือ เจ้าแดงใหญ่ เสียสละให้เจ้าแดงน้อย ซึ่งเป็นน้องกินก่อน ...
เล่ามานาน สิ่งที่ต้องการบอกก็คือ ในแมวฝูงเดียวกันนั้น ปกติของแมวใหญ่ จะให้แมวเล็กกินก่อน หากแมวใหญ่กินอยู่ มีแมวเล็กแมวน้อยมากวน แมวใหญ่จะเสียสละให้แมวเล็กแมวน้อย... หลวงพี่ที่กุฏิบอกว่า แมวก็เหมือนกับเสือ ให้ตัวเล็กกินก่อน ใครเคยสังเกตบ้าง ?
..............
หลังจากหมาวัดโดนยาเบื่อไปหลายตัว เหลืออยู่ก็เพียงตัวเดียว ทำให้หมาใกล้ๆ วัด ถือโอกาสมาอยู่ในวัดประจำอีกสองตัว... ดังนั้น ในวัดจึงมีหมาอยู่สามตัวในขณะนี้ กล่าวคือ เจ้าขาว เป็นหมาไทยร่างทะมัดทะแมง กับ เจ้าผอม ร่างอมโรค สองตัวนี้เพิ่งย้ายมาอยู่... รวมทั้ง เจ้าป๋อง ซึ่งเกิดในวัด ที่รอดตายมาจากยาเบื่อครั้งก่อน...
เมื่ออยู่ได้ระยะหนึ่ง เจ้าขาวก็กลายเป็นเจ้าพ่อหมาในวัด เพราะอีกสองตัวไม่กล้าสู้... เจ้าผอมนั้น เคยเห่าผู้เขียน จึงเคยโดนไล่ออกนอกวัด บางครั้งมันเห็นผู้เขียนเดินมาก็จะเห่าแล้ววิ่งออกนอกวัดไปเอง (เกรงเจ้าถิ่น 5 5 5)... เจ้าขาวมาอยู่หลัง คงสังเกตได้ว่าผู้เขียนมีอำนาจบางอย่างในวัด จึงค่อนข้างประจบผู้เขียน (5 5 5) ซึ่งผู้เขียนก็ให้มาม่าหรืออะไรมันกินบ้างตามโอกาส...
เจ้าป๋อง เจ้าผอม และเจ้าขาว สามตัว... แม้จะเที่ยวด้วยกัน อยู่ด้วยกันในวัด แต่เวลากิน จะแย่งกัน ไม่สามารถกินร่วมกันได้... กล่าวคือ เจ้าขาวจะกินตัวเดียว ส่วนตัวอื่นๆ ในเวลากิน จะถูกเจ้าขาวไล่กัดทุกครั้ง ซึ่งผู้เขียนยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้... ยังคิดอยู่ว่า ถ้าเลี้ยงมันจริงๆ จังๆ ทั้งสามตัว คงจะให้พวกมันสมานฉันท์ในการกินได้ (5 5 5)
สิ่งที่ต้องการจะบอกก็คือ บรรดาหมานั้น แม้จะอยู่ฝูงเดียว เที่ยวเล่นด้วยกัน แต่เวลากิน ตัวที่ใหญ่หรือมีอำนาจที่สุดจะได้กินก่อน ส่วนตัวเล็กๆ หรือไร้อำนาจต้องคอยก่อนหรืออดกิน.....
............
ตามที่เล่ามาจะเห็นข้อแตกต่างได้ว่า
ถามว่า ธรรมชาติของคนคล้อยตามไปทางหมาหรือแมวมากกว่ากัน ?
เนื่องจากผมเลี้ยงแมว ผมขอสนับสนุนว่าคนควรไปทางแมวครับ
กราบนมัสการ พระคุณเจ้าค่ะ
อาตมาว่า คนคงจะผสมกันทั้งหมาทั้งแมว หรือบางคนอาจหนักไปทางหมา แต่บางคนก็อาจโน้มเอียงมาทางแมว...
...........
เห็นด้วยกับคุณโยมทุกความเห็น... ส่วนคำเล่าเรื่องรกแมว เพิ่งเคยได้ยิน จะจำไปเล่าต่อ....
..........
ฟังว่า แมวเป็นสัตว์ที่เอาใจยาก คนเลี้ยงแมวได้จึงเป็นคนมีอำนาจ หรือใครอยากมีอำนาจก็ให้หัดเลี้ยงแมว.... ประมาณนี้
........
เจริญพร ทุกท่าน
นมัสการ พระคุณเจ้าค่ะ
หมากับแมวคงไม่ถูกกันบางสังคมเท่าั้นั้น บางสังคมมันก็อยู่กันได้ (สังเกตจากหมาแมวในวัด เคยเห็นทั้งที่ไม่ถูกกันและอยู่ด้วยกัน...)
ตามความเห็นส่วนตัว หมาหรืแมวก็มีจิตใจและความรู้สึก พวกที่เราเลี้ยงไว้ ถ้าเราทำร้ายมัน มันก็คงจะโกรธเหมือนกัน แต่มันอาจไม่ถือเป็นอารมณ์มากนัก... คล้ายๆ ลูกหลานกับญาติผู้ใหญ่ เพื่อนฝูง หรือสามีภรรยา ถ้าทะเลาะวิวาทกันก็ย่อมโกรธบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็ไม่ถือเป็นอารมณ์มากนัก...
เจริญพร
นมัสการพระอาจารย์
กระผมเองไม่ชอบเลี้ยงสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะ หมา แมว
คนอื่นเลี้ยงกระผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไร นานาจิตตัง
รังเกียจก็แต่ คนเลี้ยงหมาที่จูงหมามาถ่ายมูลไว้หน้าบ้าน
รังเกียจก็แต่ คนเลี้ยงแมว ที่ปล่อยแมวมาถ่ายในสนามหญ้าในบ้าน
ก็ได้แต่ ทำใจ ดมกลิ่นเหม็นและเก็บทิ้ง แทน เจ้าของหมาแมว ที่เห็นแก่ตัว ส่วนกระผมก็กลายเป็น ผู้เสียสละ (โดยไม่ตั้งใจ)
สรุปไม่ได้ว่า หมา หรือ แมว ใครดีกว่ากัน
แต่เมื่อกระผมต้องถูกประเมินสมรรถนะ (Competency) ตอบเรื่อง ความชอบเลี้ยงสัตว์ ไว้ท้ายทุกข้อ (คือไม่ชอบเลี้ยงสัตว์นั่นแหละครับ) ผลวิเคราะห์ทางจิตออกมาว่า
เป็นคนไม่มีมนุษยสัมพันธ์ .....อิอิ
ประเด็นคนเลี้ยงสัตว์แล้วรบกวนชาวบ้านนี้ มีมานานแล้ว... ตอนที่อาตมาอยู่กรุงเทพฯ ก็มีเรื่องเล่าว่า บ้านหนึ่งนำนกดุเหว่ามาเลี้ยง ซึ่งมันจะร้องหนวกหู ไม่เป็นเวล่ำเวลา....
พวกข้างเคียงรำคาญจัด จึงใช้อุจจาระ ใส่ถุงขว้างเข้าไปในบ้านนี้... โดนไม่กิ่ครั้ง เสียงนกดุเหว่าก็หายไป...
เจริญพร
นมัสการค่ะท่าน
เข้ามาเยี่ยมค่ะ
เจริญพร
กราบนมัสการ พระอาจารย์ 3 ที.
เรื่องหมาก่อนก็แล้วกัน ทุกเช้าที่มาตักบาตรหน้าบ้าน ตอนแรกจะมีหมาสีด่างๆมาเป็นเพื่อนก่อน1ตัวหลังตักบาตรเสร็จก็ไปซื้อไก่ทอด มาสมนาคุณให้ในฐานที่อยู่เป็นเพื่อน ต่อมาไม่นานมันพาสามีมาด้วยตัวสีดำเรียกไอ้ดำ หลังจากตักบาตรเสร็จก็ไปซื้อไก่ทอดมาสมนาคุณเหมือนเดิมแต่ ไอ้ดำสามีอีด่างแย่งกินตัวเดียวหมด ถ้าแบ่งให้อีด่างกินมันจะคำรามขู่เข็ญอีด่างจนไม่กล้าที่จะกินไก่ที่โยนให้ สรุปว่าไอ้ดำเป็นสามีที่เห็นแก่ตัวมาก อีด่างคิดว่าไม่น่าพามันมาเลย เพราะว่ามันต้องหวานอมขมกลืนอยู่(คิดแทนหมาไปได้)
2อาทิตย์ที่แล้วแฟนพบลูกแมวที่เขาเอามาปล่อยใกล้แยกไฟแดง แฟนสงสารเอามาเลี้ยงอยู่ในบ้าน มันเป็นแมวที่ซุกซนมากชอบปีนขึ้นมาบนหลังคน และชอบเล่นเวลามันเขี้ยวก็งับคนที่เล่นด้วย บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า เลี้บงหมาหรือแมวดีกว่ากัน เพราะว่า2ตัวแรก หมายถึงหมา มาจากไหนก็ไม่รู้ เวลาใหกินเสร็จก็หายหัวไปเลยพบกันตอนมาใส่บาตรทุกเช้า ส่วนแมวมาประจำที่บ้าน ตอนนี้ยังเป็นแมวเด็กที่ซุกซนมาก อ่านเรื่องที่พระอาจารย์เล่าก็อยากจะเล่าสู่กันฟัง.
กราบพระอาจารย์ 3 ที
ยุทธศักดิ์ ว.
ยุทธศักดิ์ ว.
คุณโยมเล่ามา ทำให้เห็นว่า หมาใช้ระบบอำนาจนิยมชัดเจนเลย
เรื่องลูกแมวซุกซน อาตมาเคยเจอตัวหนึ่ง (หลายปีแล้ว) มันชอบวิ่งขึ้นหน้าแข้ง (มันคงคิดว่าเป็นต้นไม้) ตอนเล็กๆ ก็ไม่เป็นไรนัก อาตมาก็ค่อยๆ ปัดมันไป...
แต่พอโตขึ้นหน่อย มันก็ยังเล่นเหมือนเดิม... ครั้งหนึ่ง มันตะกายหน้าแข็งเลือดไหลเป็นทางเลย อาตมาเตะเหวี้ยงกระเด็นไป มันคงจุกเล็กน้อยถึงปานกลาง ตั้งแต่นั้นมา มันก็เลิก (5 5 5....)
............
ไอเดียเพิ่มเติมจากข้อคิดของโยมคุณหมอ...
.........
เจริญพร
ส่วนตัว ชอบเลี้ยงหมาค่ะท่าน
กราบ 3หนค่ะ
ที่วัดก็มีหมา หมาตัวเมียที่คลอดลูกออกมาสวยๆ นั้น มักจะมีญาติโยมมาจับจองแล้วนำไปเลี้ยง ในคราวที่วัดไม่ค่อยมีหมา บางคราวก็คุยกับเพื่อนพระ-เณรด้วยกันทำนองว่า ไม่อยากจะให้ไป เพียงแต่รู้สึกร่วมว่า ถ้ามันได้ไปอยู่อื่นก็น่าจะดีกว่า...
จำได้ว่า ตอนแรกๆ บวชนั้น อาตมาชอบตั้งชื่อลูกหมาในวัด ตอนหลังเสียความรู้สึก เพราะมีคนขอหรือขโมยไปเลี้ยงที่อื่นเสมอ...
เจริญพร
ไม่แน่เสมอไปครับ ที่ว่าแมวใหญ่จะให้แมวเล็กกินก่อน เป็นบางตัวเท่านั้นครับ
เคยเห็นแมวใหญ่ แย่งอาหารแมวเล็ก ก็มีครับ