พี่นุช (คุณนายดอกเตอร์) ได้นำภาพท้องฟ้ายามเย็นมาฝาก (ในบันทึกนี้)
สีสันสวยงามชวนฉงนจริงๆ ครับ
ส่วนน้องมะปรางมีคำถามพื้นฐานที่น่าสนใจ
นั่นคือ ทำไมท้องฟ้ายามเช้า หรือยามเย็น จึงเป็นสีเหลืองๆ หรือ ส้มๆ แดงๆ?
ไม่เห็นเหมือนท้องฟ้าตอนกลางวันซึ่งเป็นสีฟ้า
ลองมาดูแผนภาพอย่างง่ายนี้กันครับ
แสงสีขาวจากดวงอาทิตย์ประกอบด้วยสีรุ้ง 7 สี
ม่วง-คราม-น้ำเงิน-เขียว-เหลือง-แสด-แดง
หากเลือกเฉพาะตัวอักษรที่ขีดเส้นใต้มาเรียงกันจะได้
ม-ค-น-ข-ล-ส-ด
ซึ่งมีคนสมองซนคิดรหัสช่วยจำไว้ว่า
แม่-คน-นี้-ขา-ลาย-สิ้น-ดี ;-)
เมื่อแสงสีขาวพุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลก
ก็จะจ๊ะเอ๋กับโมเลกุลของแก๊สในอากาศ
ผลก็คือ แสงสีต่างๆ จะกระเจิดกระเจิงไม่เหมือนกัน
(ภาษาฟิสิกส์เรียกว่า การกระเจิงแบบเรย์ลี - Rayleigh scattering)
แสงสีเหลือง-แสด-แดง มีแนวโน้มที่จะพุ่งไปตรงๆ ตามแนวเดิม
ส่วนแสงสีม่วง-คราม-น้ำเงิน จะกระเจิงเฉจากแนวเดิมมากหน่อย
ดูดีๆ สิครับ ผู้ใหญ่อยู่บนตำแหน่งของโลกที่มีดวงอาทิตย์อยู่บนท้องฟ้า
ซึ่งเป็นเวลากลางวัน ที่มีแสงสีฟ้าและสีม่วงพุ่งเข้าหามาก
แต่เนื่องจากตาคนไวต่อแสงสีฟ้ามากกว่าสีม่วง ท้องฟ้ายามกลางวันจึงปรากฏเป็นสีฟ้า
ส่วนเด็กที่ถีบจักรยานอยู่บนตำแหน่งของโลกที่ดวงอาทิตย์อยู่ใกล้ขอบฟ้า
นั่นคือ เป็นยามเช้า หรือยามเย็น จะเห็นแสงสีแดง สีส้ม & สีเหลือง พุ่งเข้ามา
ท้องฟ้ายามเช้าหรือยามเย็น จึงมีสีออกเหลืองๆ ส้มๆ แดงๆ
ด้วยประการฉะนี้!
ภาพจากบันทึก : ก่อนอรุณรุ่ง
ก่อนจบมีกลอนฝรั่งมาฝาก...
Tell me why the stars do shine. บอกฉันหน่อยเถิดว่าทำไมดวงดาราจึงส่องแสง
Tell me why the ivy twines. บอกฉันหน่อยเถิดว่าทำไมไม้เลื้อยจึงเลื้อยพัน
Tell me why the sky is blue. บอกฉันหน่อยเถิดว่าทำไมท้องฟ้าจึงเป็นสีฟ้า
And I'll tell you why I love you ... แล้วฉันจะบอกเธอว่าทำไมฉันจึงรักเธอ …
ส่วนกลอนตอบโดยนักฟิสิกส์จาก MIT เป็นอย่างนี้ครับ
Nuclear fusion makes the stars shine. นิวเคลียร์ฟิวชันไงล่ะที่ทำให้ดวงดาราส่องแสง
Tropism makes the ivy twine. ส่วนทรอปิซึมก็ทำให้ไม้เลื้อยเลื้อยพัน
Rayleigh scattering makes the sky so blue. การกระเจิงแบบเรย์ลีก็ทำให้ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า
Glandular hormone is why I love you! ก็ฮอร์โมนจากต่อมไงล่ะที่ทำให้ฉันรักเธอ!