9.Trend ใหม่ การออกกำลังกายวิถีไทย ภาค 2


แลกเปลี่ยนเรียนรู้การออกกำลังกายแบบโนราบิก

เพื่อนๆ GTW  ที่รัก                  

ตามที่สัญญาไว้ว่าจะนำข้อมูลเชิงวิชาการเกี่ยวกับ

โนราบิกมานำเสนอสมาชิก GTW ขอนำเสนอด้วยเอกสารวิชาการ

ที่เพิ่งปรุงสุกใหม่ๆ ต้องขอขอบใจ คุณกาญจนา บัวเนียม

และ คุณอรทัย  ซ้ายเส้ง นักศึกษาปริญญาโทสาขาการพยาบาลผู้สูงอายุ

จากแดนใต้ ที่ทำให้พวกเราได้รู้จัก ของดีศรีทักษิณ เชิญศึกษาได้จากเอกสาร นี้ค่ะ

โนราบิกภูมิปัญญาใต้เพื่อการส่งเสริมสุขภาพ

ความเป็นมา

         

          โนราบิกเป็นนวัตกรรมทางด้านการออกกำลังกายและเป็นศิลปะการแสดงพื้นบ้าน ที่เกิดขึ้นแห่งแรกของประเทศไทยที่หมู่บ้านวัฒนธรรมถลาง จังหวัดภูเก็ต เมื่อปี 2543 ประกอบกับกระแสสังคมทางด้านการออกกำลังกาย ตามนโยบายสร้างเสริมสุขภาพ โดยการนำหลักการเคลื่อนไหวประกอบเสียงดนตรี มโนราห์มาผนวกกับหลักของโยคะที่เป็นการฝึกลมหายใจและการยืดกล้ามเนื้อ เอ็น รวมกับท่าหลักของการรำโนราห์มาผสมผสานออกมาในรูปโนราบิกซึ่งเริ่มต้นจากท่า พื้นฐาน บท ท่าและแปลงเป็นท่าออกกำลังกาย ขั้นต้น ท่าหลัก และพัฒนาปรับปรุงท่าต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มอายุ เช่นกลุ่มเยาวชน กลุ่มผู้สูงอายุ  (ว่าที่ร้อยตรีบัญญัติ จริยะเลอพงษ์, 2543)

 

วัตถุประสงค์ของการออกกำลังกายด้วยวิธีโนราบิก

 

        เพื่อให้ร่างกาย และกล้ามเนื้อแข็งแรง สุขภาพสมบูรณ์

        เพื่อให้ร่างกายมีความต้านทานต่อโรคภัยไข้เจ็บ

        เพื่อให้มีสุขภาพจิตดี

        เพื่อให้ร่างกายสวยงามและอ่อนช้อย

        ช่วยชะลอความชรา โดยวิธีธรรมชาติ

        เพื่อสืบทอดท่าโนราศิลปวัฒนธรรมของชาวไทย (ภาคใต้)

 

 

ใครได้ประโยชน์จากโนราบิกบ้าง

 

1.โรคหัวใจ

            การบริหารร่างกายแบบโนราบิกจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีโรคหัวใจมาก เพราะว่า  ร่างกายได้ออกกำลังทุกส่วน หัวใจสูบฉีดโลหิต ทั่วร่างกาย ช่วยให้หัวใจ ปอดแข็งแรง  ทำให้จิตใจสงบ และ มีความสุขจากการหลั่งของสารสุข (endorphines)

สรุปว่าสบายกายสบายใจ

 

2. โรคเกี่ยวกับข้อ

            ปัจจุบันที่มีความเจริญทางด้านเทคโนโลยี และเครื่องทุ่นแรงต่างๆ ทำให้ ร่างกายออกกำลังกาย หรือใช้แรงน้อยลง  โนราบิะทำให้ทุกส่วนของร่างกายได้เคลื่อนไหว ทำให้อาการขัดในข้อทุเลาลงและอาจหายขาดได้

 

3.โรคความดันโลหิตสูง

            ความเครียด ความวิตกกังวล และพฤติกรรมการดูแลตนเองไม่เหมาะสมเช่นการรับประทานอาหาร ขาดการออกกำลังกาย การออกกำลังกายด้วยโนราบิกช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของความดันโลหิตสูง และ การที่ระบบไหลเวียนโลหิตดีจะช่วยให้ความยืดหยุ่นของหลอดเลือดดีขึ้นซึ่งลดต้นเหตุของ โรคความดันโลหิตสูง ได้อีกทางหนึ่ง

 

4. โรคเบาหวาน

            ผู้ป่วยหลายคนที่เป็นเบาหวานและบริหารร่างกายแบบโนราบิก อาการต่างๆดีขึ้น และน้ำตาลในเลือดก็ลงลง สำหรับผู้ที่น้ำตาลในเลือดสูงการออกกำลังกายทุกชนิดช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ กรณีที่น้ำตาลในเลือดยังสูงอยู่ น้ำตาลจะแปรรูปเป็นไขมันแล้วไปเกาะตามผนังหลอดเลือดนี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ คนเป็นเบาหวานมีโรคความดันโลหิตสูง และ หัวใจขาดเลือด เพราะผนังหลอดเลือดที่มีความยืดหยุ่นลดลง หรือ แข็งตัวเลือดจะไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะเหล่านั้นได้ เมื่อเกิดที่หลอดเลือดไปเลี้ยงหัวใจจึงเป็นอันตรายอย่างมาก

 

5.โรคอ้วน

                โนราบิกช่วยให้น้ำหนักลด และอยู่ในสภาพปกติ เนื่องจากเป็นการบริหารร่างกายที่ต้องใช้การเผาผลาญอาหารที่สะสมในร่างกาย มีการกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ ทำให้น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว โนราบิกทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงผิวหนังตึงขึ้นและช่วยให้ผิวหนังกระชับขึ้น ทำให้ความย่อนยานหายไปด้วย

 

6. โรคหวัดและภูมิแพ้

                   การออกกำลังกายทุกชนิด ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกาย การที่ปอดได้ขยายตัว อย่างเต็มที่ช่วยให้เซลส์ต่างๆในร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ ระบบภูมิต้านทานโรคจะแข็งแรงขึ้น รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้จะนำเสนอต่อไป

 

งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

                  ยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องโนราบิกค่อนข้างน้อย ส่วนหนึ่งเพราะเป็นองค์ความรู้เฉพาะถิ่นอีกส่วนหนึ่งเพราะขาดการเผยแพร่ จากงานวิจัยของ วิวัฒน์ และ สุรางค์ศรี ศีตมโนชญ์ (2548) เรื่อง ผลการออกกำลังกายด้วยโนราบิกต่อภาวะสุขภาพของสมาชิกชมรมออกกำลังกายชุมชนบ้านแขนน อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต 

                   ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่าง อายุ 60 ปีขึ้นไป (ร้อยละ 46.4) ออกกำลังกายด้วยโนราบิกนานเฉลี่ย เดือน ส่วนใหญ่ออกกำลังกายทุกวัน (ร้อยละ 60.7)โดยกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุ อายุ 60 ปีขึ้นไป (ร้อยละ 91.7) มีชีพจรหลังการออกกำลังกายอยู่ในระดับมากกว่าร้อยละ 50 ของอัตราการเต้นสูงสุด ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุน้อยกว่า ปี มีเพียงร้อยละ 7.7 ที่มีชีพจรหลังการออกกำลังกายอยู่ในระดับมากกว่าร้อยละ 60 ของอัตราการเต้นสูงสุด

                   การประเมินสุขภาพด้วยตนเองของกลุ่มตัวอย่างเปรียบเทียบก่อนและหลังการออกกำลังกายด้วยโนราบิก พบว่า ด้านความแข็งแรงของกล้ามเนื้อความทนทานต่อระบบไหลเวียนเลือดและความสมดุลของร่างกายดีขึ้น ร้อยละ92.9 ส่วนความอ่อนตัวดีขึ้นร้อยละ89.3โดยส่วนใหญ่สามารถดูแลตนเองได้ดีขึ้น (ร้อยละ 89.3) มีความอยากรับปรานอาหารเพิ่มขึ้นร้อยละ 78.6 ความวิตกกังวล/ซึมเศร้าน้อยลง (ร้อยละ 71.4) การนอนดีขึ้น (ร้อยละ85.7) และกลุ่มตัวอย่างเกือบทั้งหมด(ร้อยละ92.9) ประเมินว่าตนเองมีสุขภาพโดยรวมดีขึ้น

           คุณวิวัฒน์ และ สุรางค์ศรี ศีตมโนชญ์ สรุปงานวิจัยไว้ว่า

                การออกกำลังกายด้วยโนราบิก เป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่สามารถสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความสมดุล และความอ่อนตัวของร่างกายให้ดีขึ้นในทุกกลุ่มอายุ ส่วนการสร้างความแข็งแรงของระบบไหลเวียนเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ แต่ไม่เพียงพอสำหรับกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปีดังนั้นในกลุ่มนี้จึงควรเพิ่มความเร็วและระยะเวลาการออกกำลังกายด้วยโนราบิกให้มากขึ้น หรือร่วมกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิกชนิดอื่น

 

 

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

ปรับปรุงใหม่ตามคำแนะนำของ

 

  

และ เชิญชม 19 ท่าโนราบิกมาที่link นี้

http://gotoknow.org/file/paradee/view/224073

หวังว่าคงสนุกสนานกับโนราบิกนะคะ

คำสำคัญ (Tags): #โนราบิก
หมายเลขบันทึก: 208684เขียนเมื่อ 14 กันยายน 2008 20:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:33 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

สวัสดีค่ะ มาขอเรียนรู้ โนราบิก อิอิ... จะทำได้ไหมคะ พอลล่าอ่ะ

สวัสดีค่ะป้าแต๋ง

  • ตามไปขุดขุมทรัพย์ของป้าแต๋งมาแล้วค่ะ ดีจังเลย
  • แต่อยากให้ป้าแต๋งเอาข้อมูลออกมาวางในบันทึกได้ไหมคะ จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลแล้วสืบค้นก็จะเจอได้ทันทีเลยค่ะ
  • ป้าแต๋ง copy ข้อความจากไฟล์มาแล้วก็เอามาใส่ร้าย เอ๊ย ป้ายสี ^^ ตามใจชอบเท่านั้นเองค่ะ
  • แอบกระซิบดังๆ เคล็ดลับง่ายๆ  เปลี่ยนฟอนต์ข้อมูลเป็นฟอนต์ Tahoma แล้ว copy วางในบันทึกเลยค่ะ
  • จากนั้นจับสองไฟล์มาผสมพันธุ์กัน  ป้าแต๋งทำภาพเป็นแล้ว...สบายมาก (ว้าววว มีคนอยากทำภาพเคลื่อนไหวแบบโนราบิกตามป้าแต๋งแล้วนะคะ เดี๋ยวลงบันทึกสอนเป็นเรื่องเป็นราวดีไหมคะ อิอิ)
  • ตามมาเรียนรู้เรื่อง
  • เรียนรู้ โนราบิก
  • ขอบคุณครับ
  • สบายดีไหมครับ

Thank you ค่ะน้องดาว ชวนคนมาชมเพิ่มนะคะ

  • ตกลงค่ะป้าแต๋ง
  • เตรียมน้ำท่ารอรับแขกด้วยนะคะ
  • ธุ ป้าแต๋งค่ะ..

ต้อมมาดูวิธีออกกำลังกายโนราบิกค่ะ  เผื่อตัวกลมๆ จะยุบลงไปบ้าง ^^ 

จบนาฎศิลป์ มา ค่ะ ถ้าทำได้ ผอมแน่ เจ๊า

ขอบคุณ ต้อม และเชิญคุณครูนาฏศิลป์บ้านำจูนมารำด้วยกันค่ะ

ท่าทางคงคล้ายการรำมโนราห์ของคนใต้หรือเปล่าครับ

ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท