เว็บศูนย์รวม "โยคะสารัตถะ" |
|||
(๑)การปรุงแต่งของจิตในโยคะสูตร (๒)โยคะสูตรว่าด้วย การปรุงแต่งของจิต ๕ ประการ (๓)โยคะสูตรว่าด้วย การปรุงแต่งของจิต ๕ ประการ (๔)โยคะสูตรว่าด้วย การปรุงแต่งของจิต ๕ ประการ (๕)โยคะสูตรว่าด้วย การปรุงแต่งของจิต ๕ ประการ (๖) โยคะสูตรว่าด้วย การปรุงแต่งจิต ๕ ประการ (ตอนจบ) และการบรรลุถึงการดับการปรุงแต่งของจิต -(๖.๑)- ; -(๖.๒)- ; -(๖.๓)- |
โยคะสูตรว่าด้วย การปรุงแต่งของจิต ๕ ประการ (ตอนจบ)
และการบรรลุถึงการดับการปรุงแต่งของจิต
- ๒ -
อรรถกถาจารย์บางท่าน เช่น ท่านโกลหัตการ์ ได้กล่าวถึงการฝึกปฏิบัติเทคนิคเฉพาะบางอย่างว่าเป็นอภยาสะ ซึ่งดูเหมือนว่าบ่อยครั้งที่ปตัญชลีไม่ได้พูดถึงเทคนิคเหล่านี้อย่างชัดเจนว่าเป็นอภยาสะ ดังนั้นมันจึงยังคงเป็นคำถามอยู่ว่าการตีความของอรรถกถาจารย์เหล่านั้นเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลตามมุมมองของปตัญชลีหรือไม่
โยคะสูตรบทที่ ๑ ประโยคที่ ๑๔ ยังกล่าวต่อไปว่า "สะ ตุ ทีรฆกาลไนรันตรยสัตการาเสวิโต ทฤฒภูมิห์" หมายถึง
การฝึกปฏิบัติเหล่านั้นจะหยั่งรากได้อย่างมั่นคงก็ต่อเมื่ออาศัยเงื่อนไข ๓ อย่างคือ
๑) การทำต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน
๒) การทำเป็นประจำสม่ำเสมอ
๓) การมีทัศนคติหรือจิตใจที่เปิดว่างและพึงพอใจ
เรามาพิจารณาเงื่อนไขแรก คำว่า "ทีรฆัตวะ" คือ ความยาว "กาละ" คือ ช่วงเวลา ซึ่งช่วงเวลาที่ยาวนานในการฝึกปฏิบัตินี้ไม่ได้ถูกระบุไว้เป็นหน่วยวัดที่แน่ชัดแต่อย่างใด แต่ความยาวนานนี้อาจจะมีระยะเวลาเป็นปีๆ หรือแม้แต่นานตลอดชีวิต เพราะว่าการบรรลุถึงสิ่งสูงสุดหรือความสมบูรณ์ในโยคะไม่ใช่เป็นเรื่องที่ง่าย และอันที่จริงแล้วตามแนวคิดของชาวอินเดียมีความเชื่อกันว่าเรื่องราวต่างๆ ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพียงในชีวิตนี้เท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับชีวิตในอดีตชาติที่ผ่านๆ มาที่อุทิศให้กับการฝึกฝนเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดของโยคะจนเกิดความสำเร็จก้าวหน้าอีกเป็นจำนวนมาก กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือความสำเร็จในการฝึกโยคะในช่วงชีวิตนี้ย่อมขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าในการฝึกฝนโยคะของตัวเราในชีวิต(ชาติ)ก่อนๆ ที่ผ่านมาด้วย
โดยสรุปคำว่า "ทีรฆกาละ" ที่ปตัญชลีใช้ในที่นี้ก็เพื่อชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นของความอดทนอย่างตั้งใจมั่นในการฝึกปฏิบัติโยคะนั่นเอง หากผู้ปฏิบัติคาดหวังที่จะบรรลุถึงเป้าหมายสูงสุดอย่างรีบเร่งในระยะเวลาอันสั้นมันจะนำไปสู่ความท้อแท้สิ้นหวัง ซึ่งเป็นอันตรายต่อความก้าวหน้าในการปฏิบัติอย่างมาก ความผิดหวังจากการที่ไม่สามารถเข้าถึงสภาวะใดสภาวะหนึ่งที่ต้องการนี้หากมีมากอาจจะทำให้ผู้ปฏิบัติล้มเลิกความพยายามในการฝึกฝนอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงปัญหานี้ผู้ฝึกปฏิบัติควรเตรียมจิตใจของตนเองให้พร้อมที่จะรับการฝึกฝนต่อเนื่องอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจนกระทั่งสามารถบรรลุถึงสภาวะที่ต้องการได้ ถ้าในช่วงเริ่มต้นของการฝึกปฏิบัติโยคะเรามีความเข้าใจในเรื่องเวลาที่ถูกต้องและมีความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะบรรลุถึงเป้าหมายของโยคะเช่นนี้แล้ว ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาในการฝึกปฏิบัตินานเท่าใดก็ตามความหมดหวังและการล้มเลิกความพยายามในการฝึกย่อมจะไม่เกิดขึ้นเป็นแน่!!!
เงื่อนไขต่อไปคือการฝึกเป็นประจำสม่ำเสมอ เป็นเรื่องที่ชัดเจนว่าคงไม่มีผู้ฝึกปฏิบัติคนใดที่จะสามารถฝึกได้อย่างต่อเนื่องตลอด ๒๔ ชั่วโมงโดยไม่หยุดพักเพื่อทำภารกิจส่วนตัวที่จำเป็นบ้าง (ถึงผู้ฝึกคนนั้นจะเป็นคนฉลาดหลักแหลมและจริงใจต่อการฝึกเพียงใดก็ตาม)
ดังนั้นความหมายในเงื่อนไขนี้น่าจะเป็นว่าผู้ฝึกปฏิบัติควรจะฝึกสม่ำเสมอทุกๆ วันจะเป็นเวลาใดก็ตามขึ้นอยู่กับประสบการณ์ส่วนตัวของเขาหรือขึ้นอยู่กับคำแนะนำของครูผู้สอน มันเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในทิศทางที่น่าพึงพอใจ จึงไม่ควรจะมีการเว้นว่างจากการฝึกปฏิบัติแม้เพียงวันเดียว แม้ว่าการกระทำเช่นนี้จะเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับการดำเนินชีวิตตามปกติก็ตาม ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ควรทำความเข้าใจกันว่า เราต้องพยายามหาทางฝึกปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอทุกๆ วันโดยมีช่วงที่ขาดการฝึกน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามอาจกล่าวได้อย่างค่อนข้างชัดเจนว่า ยิ่งผู้ฝึกมีความจริงใจและเข้าใจเรื่องนี้มากเพียงใด โอกาสที่จะหยุดฝึกก็จะยิ่งน้อยลงเพียงนั้น!
ภายใต้มูลนิธิหมอชาวบ้าน
2220/101 ซอยรามคำแหง 36/1 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
โทรศัพท์ 02-732-2016 - 17, โทรสาร 02-732-2811 มือถือ 081-401-7744 ;
E-mail: [email protected] ; www.thaiyogainstitute.com
.....
ไม่มีความเห็น