โครงการอบรมคอมพิวเตอร์กราฟฟิกเพื่อสื่อสิ่งพิมพ์


สวัสดีครับ

        วันที่ 30 มีนาคม – 9 เมษายน 2552  ครูโย่งได้มีโอกาสเข้าโครงการอบรมคอมพิวเตอร์ กราฟฟิก เพื่อสื่อสิ่งพิมพ์  ซึ่ง ทางสำนักการศึกษาร่วมกับ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ จัดขึ้น โดยมีวัตุถุประสงค์ให้คณะครูสามารถผลิตสื่อ สิ่งพิมพ์ได้ด้วยตนเอง โดยจัดอบรมคณะครู สามรุ่น ซึ่งครูโย่งได้ร่วมอบรม รุ่นที่ 1 

 

        การอบรม จะมีการอบรม 3 โปรแกรม Adobe Photoshop Adobe IIIustrator และ Adobe Indesign  ส่วนใหญ่จะอบรม เน้นที่โปรแกรม Adobe Photoshop เพื่อให้ได้ใช้งาน แต่ก็มีโปรแกรม Photoscape ด้วย  เรื่อง Photoscape  เราค่อนข้างชำนาญ เพราะใช้มาเยอะ อิอิ

        สำหรับ การอบรมครั้งนี้ ทางวิทยากรเมื่อให้ความรู้แล้ว ก็จะให้ผู้เข้าอบรม ส่งงานโดยกำหนดโจทย์ว่า ให้ทำปกซีดี  ทำแผ่นป้ายงานวันสงกรานต์และ ให้ออกแบบกราฟฟิกวันสงกรานต์ เช่น แผ่นพับ โปสเตอร์ รถเผยแพร่ข่าวสาร  รถบัส    ของที่ระลึก   ขวดน้ำดื่ม 

        สำหรับครูโย่งแล้ว  Adobe Photoshop  ก็เคยเล่นมาบ้างแต่ไม่เป็น อาศัยมั่วๆ ไป  แต่เข้ามาอบรมแล้วก็ได้ความรู่ เทคนิค เยอะแยะเลย สามารถนำไป ออกแบบ สื่อ สิ่งพิมพ์ได้   ผลงานของครูโย่งจะเป็นอย่างไร ตามไปดูเลยครับ

ออกแบบ ปกซีดี

โปสเตอร์วันสงกรานต์

จบแล้วครับ ได้ใบประกาศเรียบร้อย

อิอิ

ขอบคุณที่แวะมาอ่านครับ

หมายเลขบันทึก: 254585เขียนเมื่อ 9 เมษายน 2009 10:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (26)

(*-*)หวัดดีค่ะ....ครูโย่ง

(*-*)ดีจังได้มีโอกาสเรียนรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ "กราฟฟิก"

(*-*)มีลูกเล่นเยอะมากเลยค่ะ  ว่าจะหาโอกาสไปเพิ่มเติมเหมือน

(*-*)ที่สวนดุสิตก็กำลังเปิดรับสมัคร หลายหลักสูตร  ประมาณ ๔๐ ชม. 

(*-*)ใกล้ถึงวันสงกรานต์แล้วขอให้ครูโย่งมีความสุข สดชื่นสมหวัง สุขภาพแข็งแรง จ๊ะ

             

ขอบคุณP สารินี ไกรพจน์

  • ใช่ครับ
  • ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้เรียนรู้ครับ
  • ขอบคุณที่แวะมาอวยพรวันสงกรานต์ครับ
  • ขอบคุณครับ
  • มีความสุขเช่นเดียวกันครับ
  • โอโห อบรมหลายวันมาก
  • อันนี้ท่าทางทำยาก
  •  ของที่ละรึก  
  • ของที่ระทึก ระทึกๆๆๆๆน่าจะทำได้ง่ายกว่า
  • อิอิๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
  • เดินทางกลับอย่างปลอดภัยครับ

ขอบคุณP ขจิต ฝอยทอง

  • ขอบคุณมากครับ
  • แบบ ว่าแก้แล้วนะครับ
  • อิอิ
  • ไปเที่ยวสงกรานต์ที่ไหนครับอาจารย์

อิอิ  แวะมาเยี่ยมพี่ชายค่ะ.....

ครู...รู้ทันเทคโนโลยี....

มาให้กำลังใจค่ะ

พี่โย่งคร๊าบบบบบบบบ

P 

ภาพนี้ขอซื้อคร๊าบ...เหมือนกำนัน ใส่สร้อยทอง ได้มาใหม่รึไงพี่ เห่อจัง อิอิ รู้น่าว่า...ซื้อให้ แป่ววววว

มีรูปจากปายมาฝากจ้า อิจฉาไหมล่ะตามไปอ่านเลย ทุกบันทึกและเม้นทุกบันทึก นี่คือคำสั่ง เอ๊ย!!! คำขอร้องจากน้องสาว อิอิ

กลับบ้านซื้อขนม กะลาแมมาฝากด้วนะคะ  พอลล่าไปปาย ยังไม่มีของฝากพี่เลย แป่ววว (แหม...พูดมาได้ อิอิ) มีรูปมาฝากไง ไส้อั่วยังไม่หมดนะคะ สนใจไหมล่ะ อยากไปนครพนมจังเร้ย....ขับรถใหม่ เดินทางปลอดภัยนะคะ  คิดถึงมากมายเด๊ออ้าย

พอลล่ารักเด็กค่ะ

 

สวัสดีครับคุณครู โย่ง อยากทำเป็นมั่ง แต่ยาก เพราะคนที่สอนเขาบอกว่า สว สยสย(คนสูงวัย สอนยาก สอนเย็น)5555555555

^

^

^

อิอิ มาขำข้างบนอ่ะครับ

  • หายไปนาน
  • กลับมาอีกที
  • เป็นโปรแกรมเมอร์ไปแล้ว
  • คิดถึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจัง

ได้ยินเต่ชื่อเสียงเรียงนามครูโย่งจากพี่ไก่ ประกายวันนี้ตามมาดูให้เห็นกับตา

หัวหน้าคนหน้าตาดี เออ! เห็นเป็นจริงดั่งนั้น

อย่าลืมมาสอนต่อด้วยนะคะคุณครู อยากเป็นมากๆเลย photoshop

พี่โย่งคะ คิดถึงทุกวันนะคะ กลับบ้านแล้วอย่าลืมกลับมานะคะ รออยู่ค่ะ มาเยี่ยมที่บล็อกพี่ทุกวันเลย เพราะคิดถึง หวังว่าคงไม่ทำให้พี่งานเข้านะคะ

สุขสันต์วันสงกรานต์เด๊ออ้าย อิอิ กลับมาน่าจะไปตรวจคอบ้างนะคะ เป็นห่วงมากมายค่ะ

สวัสดีคะครูโบ่ง หายไปนานเลยคะ คิดถึงนะคะ

พี่ไก่กหายไปไม่ได้มาทักทาย ไม่ค้นภาพใหม่ จำไม่ได้ ครูโย่งกลับบ้านนครพนม แวะขอนแก่นทานส้มตำไหมแล้วอย่าลืมนำภาพมาชมด้วยนะ

ภาพนี้เหมือนกำนันหนุ่มP

พี่ชอบภาพเดิม หรือผูกเนคไทด์เสื้อแดง เท่ห์กว่าเยอะ  อย่าว่าพี่นะคะ รักจึงบอก

รูปใหม่หล่อจัง..........ม่อนคิดถึงครับ

สวัสดีค่ะ ครูโย่งแวะมาทักทาย สบายดีนะคะ

แวะมาส่งกำลังใจค่ะ

มาชวนไปทำสำรวจสถิติ กรุ๊ปเลือดชาวบล็อกเราค่ะ

ที่นี่นะคะ ...

• •★ ทานอาหาร...ตามกรุ๊ปเลือด...เพื่อสุขภาพที่ดี★... •★

  • สวัสดีค่ะ
  • คิดถึงนะคะ
  • ช่วงนี้งานยุ่งมากมากเลยค่ะ

Glitterเพื่อน,มิตรภาพ

สวัสดีค่ะครูโย่ง

  • เก่งจริงๆผลงานแบบนี้ทำค.ศ.3เมื่อไหร่ผ่านฉลุยแน่ๆ
  • ไม่ได้คุยกันนานคิดถึงจ้ะ
  • สวัสดีตอนเช้าค่ะ
  • มีความสุขนะคะ

ตั้งใจมาอรุณสวัสดิ์ค้าบ

ขอบคุณครูโย่งมากครับ

ได้ยินชื่อ... ตอนผู้ว่าออน์ไลน์ ประจำเอง

พึ่งเห็นตัวจริง

...

ยินดีที่รู้จัก

ครูก้อง

ด.ช.วงศกร เสน่ห์วงศ์สกุล

สงกรานต์ เป็นประเพณีปีใหม่ของประเทศไทย ลาว กัมพูชา พม่า ชนกลุ่มน้อยชาวไตแถบเวียดนามและมณฑลยูนนานของจีน ศรีลังกาและทางตะวันออกของประเทศอินเดีย สงกรานต์เป็นคำสันสกฤต หมายถึงการเคลื่อนย้าย ซึ่งเป็นการอุปมาถึงการเคลื่อนย้ายของการประทับในจักรราศี หรือคือการเคลื่อนขึ้นปีใหม่ในความเชื่อของไทยและบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชาวต่างประเทศเรียกว่า "สงครามน้ำ"

สงกรานต์ เป็นประเพณีเก่าแก่ของไทยซึ่งสืบทอดมาแต่โบราณคู่มากับประเพณีตรุษ จึงมีการเรียกรวมกันว่า ประเพณีตรุษสงกรานต์ หมายถึงประเพณีส่งท้ายปีเก่า และต้อนรับปีใหม่ คำว่าตรุษเป็นภาษาทมิฬ แปลว่าการสิ้นปี

พิธีสงกรานต์ เป็นพิธีกรรมที่เกิดขึ้นในสมาชิกในครอบครัว หรือชุมชนบ้านใกล้เรือนเคียง แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปสู่สังคมในวงกว้าง และมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนทัศนคติ และความเชื่อไป ในความเชื่อดั้งเดิมใช้สัญลักษณ์เป็นองค์ประกอบหลักในพิธี ได้แก่ การใช้น้ำเป็นตัวแทน แก้กันกับความหมายของฤดูร้อน ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษ ใช้น้ำรดให้แก่กันเพื่อความชุ่มชื่น มีการขอพรจากผู้ใหญ่ การรำลึกและกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ ในชีวิตสมัยใหม่ของสังคมไทยเกิดประเพณีกลับบ้านในเทศกาลสงกรานต์ นับวันสงกรานต์เป็นวันครอบครัว ในพิธีเดิมมีการสรงน้ำพระที่นำสิริมงคล เพื่อให้เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่มีความสุข ปัจจุบันมีพัฒนาการและมีแนวโน้มว่าได้มีการเสริมจนคลาดเคลื่อนบิดเบือนไป เกิดการประชาสัมพันธ์ในเชิงการท่องเที่ยวว่าเป็น ‘Water Festival’ เป็นภาพของการใช้น้ำเพื่อแสดงความหมายเพียงประเพณีการเล่นน้ำ

การที่สังคมเปลี่ยนไป มีการเคลื่อนย้ายที่อยู่เข้าสู่เมืองใหญ่ และถือวันสงกรานต์เป็นวัน "กลับบ้าน" ทำให้การจราจรคับคั่งในช่วงวันก่อนสงกรานต์ วันแรกของเทศกาล และวันสุดท้ายของเทศกาล เกิดอุบัติเหตุทางถนนสูง นับเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงหลายด้านของสังคม นอกจากนี้ เทศกาลสงกรานต์ยังถูกใช้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งต่อคนไทย และต่อนักท่องเที่ยวต่างประเทศ

ตามจารึกที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม[1] กล่าวตามพระบาลีฝ่ายรามัญว่า ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเศรษฐีคนหนึ่ง รวยทรัพย์แต่อาภัพบุตร ตั้งบ้านอยู่ใกล้กับนักเลงสุราที่มีบุตรสองคน วันหนึ่งนักเลงสุราต่อว่าเศรษฐีจนกระทั่งเศรษฐีน้อยใจ จึงได้บวงสรวงพระอาทิตย์ พระจันทร์ ตั้งจิตอธิษฐานอยู่กว่าสามปี ก็ไร้วี่แววที่จะมีบุตร อยู่มาวันหนึ่งพอถึงช่วงที่พระอาทิตย์ยกขึ้นสู่ราศีเมษ เศรษฐีได้พาบริวารไปยังต้นไทรริมน้ำ พอถึงก็ได้เอาข้าวสารลงล้างในน้ำเจ็ดครั้ง แล้วหุงบูชาอธิษฐานขอบุตรกับรุกขเทวดาในต้นไทรนั้น รุกขเทวดาเห็นใจเศรษฐี จึงเหาะไปเฝ้าพระอินทร์ ไม่ช้าพระอินทร์ก็มีเมตตาประทานให้เทพบุตรองค์หนึ่งนาม "ธรรมบาล" ลงไปปฏิสนธิในครรภ์ภรรยาเศรษฐี ไม่ช้าก็คลอดออกมา เศรษฐีตั้งชื่อให้กุมารน้อยนี้ว่า ธรรมบาลกุมาร และได้ปลูกปราสาทไว้ใต้ต้นไทรให้กุมารนี้อยู่อาศัย

ต่อมาเมื่อธรรมบาลกุมารโตขึ้น ก็ได้เรียนรู้ซึ่งภาษานก และเรียนไตรเภทจบเมื่ออายุได้เจ็ดขวบ เขาได้เป็นอาจารย์บอกมงคลต่าง ๆ แก่คนทั้งหลาย อยู่มาวันหนึ่ง ท้าวกบิลพรหม ได้ลงมาถามปัญหากับธรรมบาลกุมาร 3 ข้อ ถ้าธรรมบาลกุมารตอบได้ก็จะตัดเศียรบูชา แต่ถ้าตอบไม่ได้จะตัดศีรษะธรรมบาลกุมารเสีย ท้าวกบิลพรหมถามธรรมบาลกุมารว่า ตอนเช้าศรีอยู่ที่ไหน ตอนเที่ยงศรีอยู่ที่ไหน และตอนค่ำศรีอยู่ที่ไหน ทันใดนั้นธรรมบาลกุมารจึงขอผัดผ่อนกับท้าวกบิลพรหมเป็นเวลา 7 วัน

ทางธรรมบาลกุมารก็พยายามคิดค้นหาคำตอบ ล่วงเข้าวันที่ 6 ธรรมบาลกุมารก็ลงจากปราสาทมานอนอยู่ใต้ต้นตาล เขาคิดว่า ขอตายในที่ลับยังดีกว่าไปตายด้วยอาญาท้าวกบิลพรหม บังเอิญบนต้นไม้มีนกอินทรี 2 ตัวผัวเมียเกาะทำรังอยู่ นางนกอินทรีถามสามีว่า พรุ่งนี้เราจะไปหาอาหารแห่งใด สามีตอบนางนกว่า เราจะไปกินศพธรรมบาลกุมาร ซึ่งท้าวกบิลพรหมจะฆ่าเสีย ด้วยแก้ปัญหาไม่ได้ นางนกจึงถามว่า คำถามที่ท้าวกบิลพรหมถามคืออะไร สามีก็เล่าให้ฟัง ซึ่งนางนกก็ไม่สามารถตอบได้ สามีจึงเฉลยว่า ตอนเช้า ศรีจะอยู่ที่หน้า คนจึงต้องล้างหน้าทุก ๆ เช้า ตอนเที่ยง ศรีจะอยู่ที่อก คนจึงเอาเครื่องหอมประพรมที่อก ส่วนตอนเย็น ศรีจะอยู่ที่เท้า คนจึงต้องล้างเท้าก่อนเข้านอน ธรรมบาลกุมารก็ได้ทราบเรื่องที่นกอินทรีคุยกันตลอด จึงจดจำไว้

ครั้นรุ่งขึ้น ท้าวกบิลพรหมก็มาตามสัญญาที่ให้ไว้ทุกประการ ธรรมบาลกุมารจึงนำคำตอบที่ได้ยินจากนกไปตอบกับท้าวกบิลพรหม ท้าวกบิลพรหมจึงตรัสเรียกธิดาทั้งเจ็ดอันเป็นบาทบาจาริกาพระอินทร์มาประชุมพร้อมกัน แล้วบอกว่า เราจะตัดเศียรบูชาธรรมบาลกุมาร ถ้าจะตั้งไว้ยังแผ่นดิน ไฟก็จะไหม้โลก ถ้าจะโยนขึ้นไปบนอากาศ ฝนก็จะแล้ง ถ้าจะทิ้งในมหาสมุทร น้ำก็จะแห้ง จึงให้ธิดาทั้งเจ็ดนำพานมารองรับ แล้วก็ตัดเศียรให้นางทุงษะ ผู้เป็นธิดาองค์โต จากนั้นนางทุงษะก็อัญเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหมเวียนขวารอบเขาพระสุเมรุ 60 นาที แล้วเก็บรักษาไว้ในถ้ำคันธุลี ในเขาไกรลาศ

จากนั้นมาทุก ๆ 1 ปี ธิดาของท้าวกบิลพรหมทั้ง 7 ก็จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาทำหน้าที่อัญเชิญ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท