วันที่ 28 สิงหาคม 2551 ชาวเกษตรกรคลื่นลูกใหม่ ได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานแปลงเกษตรอินทรีย์ของอาจารย์เชาว์วัช หนูทอง เลขที่ 134 หมู่ที่ 2 ตำบลท่าวุ้ง อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ซึ่งตั้งเป็นจุดเรียนรู้/ศูนย์เรียนรู้วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ลพบุรี หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือเครือข่ายกสิกรรมไร้สารพิษละโว้ธานี
เราออกเดินทางด้วยรถบัส 2 คัน และรถตู้ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อีก 1 คัน ถึงแปลงเกษตรอินทรีย์ของอาจารย์เชาว์วัชประมาณ 9.30 น. ช่วงเช้าเป็นการเข้ารับการฟังประสบการณ์ของอาจารย์เชาว์วัช ซึ่งเดิมเป็นอาจารย์สอนที่วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี แล้วลาออกมาประกอบอาชีพส่วนตัว กิจกรรมของอาจารย์เชาว์วัชนั้นมีหลากหลายมาก ตั้งแต่ผู้ผลิตจนถึงผู้จัดจำหน่าย ตลอดจนเป็นผู้สร้างเครื่องจักรเครื่องมือทางการเกษตรออกจำหน่ายอีกหลายชนิด บันทึกนี้ขอนำภาพส่วนหนึ่งของกิจกรรมมาบอกเล่าก็แล้วกันนะครับ
เชิญชมกิจกรรมของอาจารย์เชาว์วัช และบรรยากาศของการศึกษาดูงานของเกษตรกรคลื่นลูกใหม่ได้เลยครับ
ป้ายด้านในส่วนหน้าของอาคารรับรองที่เราได้เข้าไปฟังการเล่าประสบการณ์ฯ
การเดินทาง
และภาพบรรยากาศการเข้ารับการเล่าประสบการณ์ ณ
ศูนย์เรียนรู้ฯ
การเล่าประสบการณ์ของอาจารย์เชาว์วัช
หนูทอง และตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้
เกษตรกรคลื่นลูกใหม่ศึกษาดูกระบวนปั้นเม็ดปุ๋ยอินทรีย์จากเครื่องที่
อ.เชาว์วัช ประดิษย์เอง
ศึกษาดูกระบวนการผลิตแก๊สชีวภาพจากขี้หมูและเศษอาหาร
และเครื่องอัดแก๊ส
เครื่องกรองน้ำส้มควันไม้ที่กรองแล้วสามารถนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ได้ทันทีโดยไม่มีอันตรายต่อพืช
เตาเผาน้ำส้มควันไม้รุ่นเดิมและรุ่นพัฒนาที่มีน้ำหล่อเย็นทำให้ได้น้ำส้มควันไม้เพิ่มมากขึ้น
เครื่องสกัดน้ำมันรำข้าแบบสกรูเพรส
ส่วนหนึ่งของแปลงปลูกผักอินทรีย์
และแปลงเลี้ยงแหนแดง
แปลงปลูกข้าวอินทรีย์
ผลผลิตข้าวอินทรีย์ที่กำลังจะเก็บเกี่ยว(มะลิแดง)
ช่วงเวลา 1 วัน ของการศึกษาดูงาน นับว่าคุ้มค่ามากสำหรับผู้เข้ารับการอบรม เพราะแปลงและเจ้าของแปลงคืออาจารย์เชาว์วัช นั้น ได้ให้ความรู้และถ่ายทอดประสบการณ์ของเกษตรกร ซึ่งเป็นเกษตรกรที่มีความสารถ ใช้ทุกโอกาสที่พานพบ มาสร้างทางสำเร็จในการประกอบอาชีพให้แก่ตนเอง แม้แต่พวกเรานักส่งเสริมการเกษตร ที่ได้สัมผัสกับเรื่องเหล่านี้มามากพอสมควร แต่พวกเราก็ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ในหลายๆ ประเด็น เพราะความรู้ในแต่ละที่นั้นล้วนแตกต่างกันไปตามสภาพและบริบท
แม้ว่าเกษตรกรคลื่นลูกใหม่จะมาจากหลากหลายสาขาอาชีพ แต่ข้อสรุปในตอนเย็นหลังกลับจากการศึกษาดูงานแล้ว ต่างบอกว่าได้ประโยชน์เป็นอย่างมากจากการศึกษาดูงาน เพราะได้เรียนรู้วิธีการทำงาน และที่สำคัญเห็นวิธีคิดที่แตกต่างออกไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องกลับไปคิดต่อและประยุกต์ความรู้เอาไปปรับใช้กันเอาเอง เพราะสถาพการประกอบอาชพ และบริบทของทุกคนต่างกันนั่นเอง
บันทึกมาเพื่อการ ลปรร.
วีรยุทธ สมป่าสัก 2 กันยายน 2551
สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าพอจะมีแผนที่เดินทางไปดูที่ศูนย์สาธิตมั้ยค่ะ หนูสนใจอยากจะให้แม่ที่เป็นชาวนาไปเรียนรู้บ้างนะค่ะ รบกวนตอบกลับทางเมลล์ด้วยนะค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าพอจะมีแผนที่เดินทางไปดูที่ศูนย์สาธิตมั้ยค่ะ พอดีได้ดูเรื่องของ อ.เชาว์วัช ในรายการปราญช์เดินดิน รู้สึกสนใจมากเพราะตอนนี้ ดิฉันและสามีทำงานอยู่ที่โรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ของ เทศบาลนครระยอง
อยากไปดูงานบ้าง เพื่อจะได้มาพัฒนาบ้านเรา รบกวนตอบกลับทางเมลล์ด้วยนะค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
น่าสนใจมากครับ อยากลองทำดูบ้าง จะเริ่มต้นอย่างไร
สนใจเข้าไปเยี่ยม+ดูงานได้ไม๊ครับ
กรุณาช่วยแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณอย่างสูง
ศิระ
ผมมีความสนใจงานของอาจารย์เชาว์วัช หนูทองมาก ผมเป็นคนลาว และ ที่ประเทศลาวมีพูเขาหินปูนมากมาย และ ก็มีมูลค้างคาวหลายล้านๆตัน งานของท่านถุกใจผมที่สุด ผมอยากจะดำเนีนเกียวกับปุ๋ยอินทรีย์ปั้นเม็ดมูลค้างคาวดั่งอาจารย์บ้าง แต่ไม่รู้ว่าจะติดต่อกับอาจารย์ได้อย่างไร ถ้าอาจารย็มี Email ช่วยตอบผมด้วย [email protected] กลาบขอบคุณอาจารย์ล่วงหน้าด้วย.
สวัสดีค่ะ อาจารย์ เชาวัชฯ
ดิฉันได้ดูวิดีโอการทำนา แบบโยนกล้าแล้ว อยากทำตามอย่าง จึงอยากจะขอซื้ออุปกรณ์ตามนี้ค่ะ
1.ถาดหลุมสำหรับหว่านเมล็ด จำนวน 350 ถาด
2.เครื่องโรยเมล็ดข้าวเปลือก จำนวน 1 เครื่อง (คงใช้เป็นเครื่องโรยดินด้วยได้นะคะ)
ดิฉันขอรบกวนเพียงสองรายการเท่านี้ค่ะ อุปกรณ์อื่นดูจากการอธิบายของอาจารย์แล้ว
คิดว่าจะสามารถทำตามได้ค่ะ(ดิฉันขออนุญาต ลอกเรียนแบบเลยนะคะ) ขอบคุณค่ะ
"เวียงแก้ว คำนาค"
สวัสดีค่ะ
ดิฉันได้ดูการทำก๊าซจากเศษอาหาร ผัก สนใจ อยากเรียนรู้ ทำอยากไหมคะ
สวัสดีค่ะถ้าหนูอยากจะไปศึกษาดูงานบ้าง จะต้องโทรไปติดต่อกับอ.เชาว์วัชก่อนหรือป่าวคะว่าท่านว่างที่จะเป็นวิทยากรให้กับทางเราหรือป่าว รบกวนช่วยตอบด้วยนะคะขอบคุณค่ะ