ช่วงบ่ายเราจึงได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมการปูพรมในนาข้าว ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่อาจารย์เชาว์วัชบอกไว้จริงๆ เพราะว่าในแปลงนานั้นมองแทบไม่เห็นน้ำเลย เห็นแต่ต้นข้าวและพืชสีเขียวเต็มไปหมด นี่ขนาดว่าข้าวเพิ่มจะมีอายุเพียง 20 กว่าวันเท่านั้น
ปูพรมในนาข้าว
การปูพรมในนาข้าว เป็นแปลงข้าวมะลิแดงอินทรีย์นี้ ที่แท้ก็เป็นการนำพืชน้ำชนิดหนึ่ง ซึ่งขึ้นเองตามธรรมชาติ อาจารย์เชาว์วัช ได้ลองนำมาหว่านแล้วส่งผลให้ข้าวเจริญเติบโตดี ก็คือ "แหนแดง" นั่นเองครับ
วิธีการทำนาแบบปูพรมนั้นก็ทำกันอย่างง่ายๆ ด้วยการนำแหนแดง มาหว่านลงในแปลงนาก่อนการปักดำ ในปริมาณ 10 กิโลกรัมต่อไร่ แหนแดงก็จะเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ และจะมีสาหร่ายสีน้ำเงินแกมเขียวที่ช่วยตรึงไนโตรเจนจากอากาศมาให้พืชได้ใช้ในการเจริญเติบโต และเมื่อแหนแดงเน่าสลายก็จะกลายเป็นอินทรีย์วัตถุในดิน ช่วยให้ดินมาความอุดมสมบูรณ์และให้พืชได้ใช้ประโยชน์ต่อไป อาจารย์เชาว์วัชบอกว่า
"แหนแดงนั้นเปรียบเสมือนสวรรค์ได้ประทานลงมาให้"
เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ
จะเห็นแหนแดงขึ้นเต็มไปหมด
แหนแดง แหนแดงเป็นพืชน้ำเล็ก ๆ
พวกเฟิร์นชนิดหนึ่งพบอยู่ตามผิวน้ำโดยทั่ว ๆ
ไปต้นแหนแดงประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ คือลำต้น ราก และใบ ใบบนและล่าง
มีขนาดใกล้เคียงกัน ใบบนมีโพรงใบ
และมีสาหร่ายสีน้ำเงินแกมเขียวอาศัยอยู่ในลักษณะที่พึงพาอาศัยซึ่งกันและกัน
สาหร่ายนี้สามารถตรึงไนโตรเจนจากอากาศและเปลี่ยนให้เป็นสารประกอบในรูปของ
แอมโมเนียมให้แหนแดงเองไปใช้ได ้ในแหนแดงมีไนโตรเจน
เป็นองค์ประกอบสูงถึง 3 - 5 เปอร์เซ็นต์
เมื่อแหนแดงเน่าสลายจะปลดปล่อยไนโตรเจนออกมาให้เป็นธาตุอาหารพืชได้
สาหร่ายสีน้ำเงินแกมเขียว
เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ลักษณะเซลล์ รูปร่างเป็นท่อน ทรงกระบอก
หัวท้ายมนต่อกันเป็นเส้น ยาวคดเคี้ยวไปมา
สามารถหาได้ทั่วไปตามแหล่งน้ำตามธรรมชาติ
มีทั้งชนิดที่ตรึงไนโตรเจนจากอากาศได้ และชนิดที่ตรึงไม่ได้
ชนิดที่ตรึงได้มัก อาศัยอยู่กับพืชชนิดต่าง ๆ เช่น พืชพวกมอส ปรง หรือ
อาศัยอยู่ร่วมกับเชื้อรา
และที่มีความสำคัญและนำมาใช้ประโยชน์กันมากก็คือชนิดที่อาศัย
อยู่กับพืชตระกูลเฟิร์นจำพวกแหนแดง นั่นเอง
จากการแลกเปลี่ยนกับอาจารย์เชาว์วัช หนูทอง เกษตรกรคนเก่งที่เราได้ไปศึกษาดูงาน พอสรุปได้ว่าการทำนาแบบปูพรมนี้(ใช้แหนแดง) เกิดประโยชน์ในหลายๆ ประการ เช่น
เกษตรกรคลื่นลูกใหม่ ต่างก็ให้ความสนใจกับวิธีการทำนาของอาจารย์เชาว์วัช เป็นอย่างยิ่ง ต่างพูดคุยและซักถามข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ กันตลอดเวลา หลายคนก็ให้ความสนใจและขอนำแหนแดงกลับไปด้วยเพื่อนำไปใช้ในแปลงนาของตนเอง ซึ่งอาจารย์เชาว์วัช ก็ยินดีแบ่งปันให้ด้วยความเต็มใจยิ่ง
สอบถาม-แลกเปลี่ยนประสบการณ์
อิอิ...เกษตรกรคลื่นลูกใหม่ขอมั่ง
จะเอาไปหว่านในนาที่บ้าน
การปูพรมในนาข้าว ก็มีรายละเอียดเช่นนี้แหละครับพี่น้อง...
บันทึกมาเพื่อการ ลปรร. ครับ
วีรยุทธ สมป่าสัก 3 กันยายน 2551
สวัสดีค่ะน้องชาย
ครูอ้อยเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
ข้าวงามจังเลยครับ
แถวบ้านผมข้าวแห้งรอฝน...เหลืองไปทั้งทุ่งแล้ว (ที่เห็นเขียวๆ จึงเป็นวัชพืชซะส่วนมาก)
คุณครู
เป็นการอบรมที่มีประโยชน์และคุ้มค่าจริงๆค่ะ นาข้าวสวยมาก บรรยากาศตามท้องทุ่งได้เห็นแล้วรู้สึกสดชื่น ไม่เคยเขียนบล็อกแต่เข้ามาติดตามอ่านข้อมูลดีๆของพี่สิงห์ป่าสักเป็นประจำค่ะ
น่าสนใจครับแหนแดง ผมว่าจะลองหามาเพาะเลี้ยง ศึกษาดูบ้างนะครับ
คุยกับชาวนาที่นี่เขาต้องใช้ปุ๋ยยูเรีย กระสอบละพันกว่าบาทครับ จะลองไปแนะนำเขาเพื่อช่วยลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยลงบ้างนะครับ..
ไปมาแล้วครับดีมาก
อาจารย์ท่านมีจิตสาธารณสูงมาก
ให้ข้อมูลวิชาการมา 1 แผ่นเต็ม ๆ ให้ผมไปถ่ายทอดต่อให้ชาวบ้าน
หาได้ที่ไหนครับ แหนแดงยากได้มากครับ
เข้ามาให้กำลังใจครับ
แหนแดงมีปรธดยชน์มากทั้งเป็นปุ๋ยพืชและอาหารสัตว์
รู้กันมาเนิ่นนาน แต่ไม่มีใครสนใจ อย่างจริงจังซะที
ดีใจครับ ^_^
อยากทราบ ว่า ตัวเนื้อหา ที่เกี่ยวข้องกับ แหนแดงเน่ย มีการ ทำเป้น บท ความทางวิชาการ บ้างรึเปล่าครับ คืออยากได้มา ใช้ประกอบ การทำรายงาน อ่ะครับ แล้ว ถ้ามี สามารถจะ หาได้จากที่ไหน บ้างครับ รบ กวน พี่ๆ ด้วยนะ ครับ
คุณสิงห์ป่าสัก ครับ
มีแจกเปล่าหรือขายที่ไหน ครับ
เก่งจังค่ะ...555+
ไม่เห็นจะต้องเปลืองตังค์ซื้อปุ๋ยเคมีเลย
พัฒนาการอำเภอขอแจมด้วยคน ชอบแนะนำชาวนาเพื่อลดรายจ่ายและเพิ่มผลผลิต แต่ต้องใจเย็นนะ และต้องเคยทำด้วยจะได้แนะนำเขาได้ ชาวนาเขาเคยชินกับสิ่งเดิมๆ พ่อแม่พาทำมาอย่างนี้ หัวหน้าเคยทำนามั๊ยละถึงจะมาแนะนำ ต้องสามารถตอบคำถามได้อย่างมีเหตุผลเขาจึงจะยอมรับ ที่สำคัญอย่าทิ้งเขาติดตามสนับสนุนอย่างต่อเนื่องครับ