อนุทิน 110814


วิรัตน์ คำศรีจันทร์
เขียนเมื่อ

๒๓๘. ความเป็นชุมชนในอาหาร 'เพราะเป็นของดี จึงต้องเป็นของส่วนรวม'

วันนี้ ภรรยาผมเอารังต่อที่ชาวบ้านแบ่งเอามาให้หลังจากเอารังต่อลงให้แล้ว ไปให้พ่อตาที่บ้านหางดง ขณะเดียวกัน ก็แบ่งกลับเอามาทำน้ำพริกกิน ทั้งผมและภรรยา กับน้องเพื่อนบ้านที่ทำขลุ่ยดินเผาโอคารินา ต่างก็ไม่เคยกินน้ำพริกรังต่อ เลยเกิดความคิดกันต่อไปอีกว่า พากันทำสำรับน้ำพริกผักไปนั่งกินข้าวด้วยกันดีกว่า

ผมอาสาไปเก็บผักในสวนหลังบ้าน ได้ดอกแค คอกเพกา ยอดแค ยอดตำลึง ผักบุ้งนา เป็นกาละมัง น้องเพื่อนบ้านก็แกงจืดหน่อไม้ ไปนั่งกินข้าวและคุยกัน จึงกลายเป็นว่า รังต่อรังหนึ่งที่ชาวบ้านที่บ้านห้วยส้ม สันป่าตอง มาช่วยกันเอาลงให้แล้วก็ได้รังต่อ ๒-๓ ชั้นนั้น ได้แจกจ่ายแบ่งปันต่อๆกันไปทำอาหารกินกันได้หลายครอบครัว ทั้งที่บ้านห้วยส้ม สันป่าตอง กับบ้านเดิมของภรรยาที่หางดง

ช่วงหนึ่งของการสนทนา ว่าชาวบ้านได้แบ่งมาให้อย่างไรและทำอะไรกินกันได้บ้างนั้น น้องเพื่อนบ้านให้ข้อคิดได้น่าสนใจว่า "...เพราะมันดี ชาวบ้านเลยแบ่งกันกิน ในชุมชนนั้น ของดีจะให้เป็นของส่วนรวม...." โดยทั่วไปแล้ว ในสังคมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันช่วงชิง และในสังคมสมัยใหม่ เรามักจะคุ้นเคยกับการขวนขวายหาของดีมาเป็นของตนเอง มุ่งได้สิ่งที่ดีกว่าคนอื่น วิธีคิดและการให้บทสรุปที่เป็นวิถีชุมชนดังกล่าวนี้ จึงให้ปัญญาและการเห็นที่แตกต่างที่ดีมากจริงๆ



ความเห็น (1)

อาจารย์วิรัตน์ค่ะ เป็นความคิดที่น่าชื่นชมค่ะ เช่นเีดียวกันกับวิถีชุมชนที่นี่ ภาคใตัตอนล่าง ได้คุยกับปราชญ์ชาวบ้าน มุสลิม ...อาแบ "กอเซ็ง" กล่าวไว้น่าคิดเช่นเดียวกันว่า "ความดีที่กระทำไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง แต่เป็นการทำเพื่อส่วนรวม ให้ส่วนรวม" การที่จะระบุว่าใครเป็นคนดีนั้น ไม่ใช่ตนเองเป็นฝ่ายบอก สังคมบอกให้ได้จาการกระทำดี ที่ได้ก่อไว้เพื่อสังคม :-)) ...วิถีและแนวคิดเหล่านี้ ยังมีให้เรียนรู้/สัมผัสได้ค่ะ อาจารย์ ...ขอบคุณเรื่องราวดีๆ... ของดี-เป็นของส่วนรวม..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท