อนุทิน 116075


วิรัตน์ คำศรีจันทร์
เขียนเมื่อ

๒๕๕. พื้นที่ความสร้างสรรค์และพื้นที่ส่งผ่านจิตวิญญาณเมืองกับชนบท

วันนี้ก่อนกลับบ้านที่สันป่าตอง เชียงใหม่ ผมจะถือโอกาสไปเยี่ยมชมสถานที่ ๒ แห่ง คือ หอนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน และร้านอรุณอินบางกอก สถานที่เรียนรู้และหาวิธีพัฒนารูปแบบที่หลากหลายสำหรับการจัดการธุรกิจเชิงสังคมของน้องๆบางกอกฟอรั่ม ที่แพร่งภูธร ข้างคลองหลอด หลังตึกกระทรวงกลาโหมเก่า หอนิทรรศการนิทรรศน์รัตนโกสินทร์นั้นผ่านหูผ่านตาแต่ภายนอกอาคารหลายครั้งแล้ว ส่วนที่สำนักงานของบางกอกฟอรั่ม ก็ไปร่วมกิจกรรมเวทีเสวนาและเวทีสร้างการสื่อสารเรียนรู้สาธารณะในแนวประชาสังคมมาหลายครั้งแล้วด้วยเช่นกัน

แต่ครั้งนี้ จะมีสมาชิกของเครือข่ายศิลปินน่าน นำเอาผลงานจากเมืองน่าน มาจัดแสดงและเปิดเวทีเสวนากัน เหมือนกับเป็นการเดินเข้าหากันของสังคมเมืองกับชนบท นำเอาวิถีชีวิต ความรื่นรมย์ และสิ่งต่างๆ ที่สามารถส่งผ่านจากใจสู่ใจกันได้ด้วยงานศิลปะ จากคนในเมืองในชนบท มาฝากชุมชนและคนในเมืองใหญ่ๆดังเช่นกรุงเทพมหานคร สร้างกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ขยายมิติความเป็นส่วนรวมที่มีความร่วมกันมากขึ้นของเมืองใหญ่กับเมืองในพื้นที่ห่างไกล อีกทั้งสร้างแรงกระเพื่อม เพื่อเสริมกำลังให้กับวิธีสร้างปฏิสัมพันธ์ในเชิงแลกเปลี่ยนคุณค่าและความหมายของชีวิตทางสังคม ที่มุ่งสร้างสุนทรียภาพและความรื่นรมย์ของชีวิตการอยู่อาศัยร่วมกันในสังคม รวมทั้งให้กระบวนการเรียนรู้คุณค่าและปรัชญาชีวิต ตลอดจนสร้างเสริมแรงบันดาลใจ ให้ผู้คนได้กลับออกไปดำเนินชีวิตและทำการงาน มีความสุข มีคุณภาพชีวิต เป็นพลเมืองและสมาชิกของสังคมที่มีความหมายต่อการเป็นกำลังของเมือง ในวิถีทางที่แตกต่างหลากหลายแต่มีความเชื่อมโยงกันได้ในเชิงจินตภาพและความรู้สึกนึกคิดต่อตัวตนบนความเป็นส่วนรวมร่วมกัน ที่สามารถกล่อมเกลาให้ดียิ่งๆขึ้น ต่อไป

วิธีปฏิบัติการอย่างนี้ทำให้เกิดความหลากหลายในหนทางไปของชีวิตและวิถีสังคมมากยิ่งๆขึ้น เพราะสังคมเมืองและการแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆกันโดยทั่วไปนั้น มักไหลไปกับการเรียนรู้ที่หยาบกระด้างไปบนการให้คุณค่าต่อผลประโยชน์ทางวัตถุและเงินตรา ต้องซื้อขาย เอาประโยชน์ เอาผลกำไรและความได้เปรียบจากคนอื่นให้ได้มากที่สุด จนทำให้การเรียนรู้เพื่อพัฒนาชีวิตและคุณค่าด้านในของมนุษย์ขาดการบ่มเพาะให้งอกงามอย่างสมดุลไปด้วย ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่ต้องช่วยกันเรียนรู้และเชื่อมโยงการปฏิบัติเข้าหากันมิให้ความริเริ่มที่เกิดขึ้นสูญเปล่า หากพื้นที่ความสร้างสรรค์อย่างนี้มีงอกงามและยิ่งเกิดอย่างมั่งคั่งในสังคมเมือง ก็จะทำให้ชีวิตและจิตวิญญาณของเมืองมีรากฐานสำหรับการพัฒนาทางวัตถุและทางกายภาพที่ลึกซึ้ง เข้มแข็ง ยั่งยืน 

แต่เดิมนั้น งานจะเปิดในเย็นวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๕ ผมจึงจะอยู่ร่วมงานและร่วมชื่นชมด้วย แต่ตอนนี้ได้ปรับเปลี่ยนรายการและเลื่อนไปเปิดเย็นวันอาทิตย์ เลยจะไม่ได้อยู่แต่จะขอไปเยี่ยมน้องๆและผู้นำชุมชนแถวนั้นสักหน่อยกันก่อน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท