คนเลี้ยงวัวสมัยนี้ลำบากกาย ลำบากใจหลายแบบ หลายอย่าง ลำบากกับการหาอาหาร หาหญ้ามาเลี้ยงวัว
ถ้าเป็นสมัยเมื่อสักสิบปีที่แล้ว คงพูดได้เต็มปากว่าการหาหญ้าเลี้ยงวัวหรือพาวัวไปกินหญ้านั้นง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
แต่สมัยนี้กับสมัยนั้นมันต่างกันลิบลับเสียแล้ว เพราะต้นทุนทางธรรมชาติ ทางสังคมในสมัยนี้มีน้อย ป่าสาธารณะก็ถูกบุกรุกแผ้วถาง ความอุดมสมบูรณ์ลดลง พื้นที่ป่าหัวไร่ปลายนา ทุ่งนาของชาวบ้านก็มีรั้วกั้นเป็นสัดส่วน ประเภทติดป้าย "ที่ส่วนบุคคล ห้ามบุกรุก" พื้นที่เลี้ยงวัวหดหายไปตามกาลเวลา
พื้นที่เลี้ยงวัวหลายแห่งถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นป่ายูคา สวนยางพารา ทุ่งนามีรั้วกัน มีหญ้ามากมายในพื้นที่เหล่านี้ที่สามารถนำมาเป็นอาหารเลี้ยงวัวได้ แต่หญ้ากลับเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดความสุข ความทุกข์ แก่คนที่มีหญ้าได้ไม่น้อยหน้ากัน
หลายคนที่ทำสวนยางพารา ปลูกยูคาฯ ปลูกข้าว เป็นทุกข์กับหญ้าเหลือหลาย ประเภทเห็นหญ้าเหมือนเห็นศัตรูตัวร้าย ต้องทำลายให้สิ้นซากไม่รู้เกลียดและกลัวกันมาตั้งแต่ชาติปางไหน มีหญ้าฆ่าหญ้าที่ว่าดีที่ไหนเป็นต้องเสาะแสวงหามาหว่านมาฉีดมาฆ่าหญ้าไม่ให้เหลือ คนเลี้ยงวัวเห็นแล้วก็ทำตาละห้อย เสียดายหญ้าเต็มปะดา ว่าทำไมไม่เป็นเรามั่ง จะเอาหญ้ามาเลี้ยงวัวซะให้เข็ด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเสียดายและสะออน ๆ ออนซอนหลาย ๆ
แต่ก็มีเจ้าของชาวสวนยาง สวนยูคา และชาวนาบางคนมีความสุขกับการมีหญ้า ถึงแม้จะไม่ได้เลี้ยงวัวกับใคร ๆ เขา
ที่มีความสุขกับการมีหญ้าเพราะว่าหญ้าสร้างรายได้ให้เจ้าของสวน เจ้าของนาเป็นกอบเป็นกำ เนื่องจากขายหญ้าในสวนยาง ในสวนยูคา และในคันนา เดี๋ยวนี้ถึงขึ้นมีการประมูลหรือเหมาขายหญ้ากันเป็นสวน เป็นนากันแล้ว บางรายถึงขั้นเหมาขายกันข้ามปีแล้ว อย่างนี้จะไม่มีความสุขได้อย่างไร
สวัสดีค่ะ คุณออต
ทุกวันนี้ไม่ว่าจะทำไร่ทำนา เกษตรกรทุกรายจะพยายามล้อมรั้วแปลงเกษตรของตนเอง ทำให้มีผลต่อการเลี้ยงวัวของชาวบ้านมากขึ้น ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพราะเป็นการพัฒนารูปแบบการผิดอีกแบบหนึ่ง ไม่ใช่นั้นถ้าเกิดความเสียหายขึ้นมาคงไม่คุ้มค่ะ เนื่องตนทุนการผลิตทุกวันนี้สูงมาก
คนเลี้ยงวัวสมัยนี้จึงต้องเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงวัวจากที่เคยพาวัวไปหาหญ้ามาเป็นพาหญ้าไปหาวัวจึงจะไม่มีผลกระทบต่อคนรอบข้างมากนัก
ขอบคุณค่ะ