การบริหารเวลา


ชาวนาคนหนึ่งตื่นขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อออกไปไถนา ตั้งใจว่าวันนี้จะไถแปลงข้าวที่เหลืออยู่ให้หมดภายในวันเดียว เมื่อเริ่มต้นตรวจดูก็พบว่าน้ำมันรถแทรกเตอร์หมด จึงต้องเดินไปซื้อน้ำมันระหว่างที่เดินผ่านเล้าหมูก็คิดขึ้นได้ว่าไหน ๆ ก็เดินผ่านมาทางนี้แล้ว และให้อาหารหมูเสียหน่อยคงไม่เป็นไร จะได้ช่วยผ่อนภาระให้ภรรยาได้บ้าง เขาจึงเดินเสี้ยวเข้าไปไนโกดังเก็บอาหารหมูครั้งเมื่อเห็นกระสอบใส่อาหารหมูก็เตือนให้นึกถึงลูกนุ่นที่พร้อมจะเก็บได้ จึงคว้ากระสอบเปล่าใบหนึ่งเพื่อไปเก็บนุ่น จะเดินผ่านกองไม้ก็นึกขี้นมาได้อีกว่าภรรยาสั่งให้เผาไม้เพื่อทำถ่านเพราะถ่านกำลังจะหมดจึงวางกระสอบลงแล้วขนไม้มาเพื่อเตรียมจะเผา บังเอิญไก่ที่เสี้ยงไว้เดินหาอาหารผ่านมา เขาจึงจำได้ว่าช่วงที่ผ่านมาไก่ตายไปหลายตัวเพราะโรคระบาด  จึงตั้งใจจะแยกไก่ที่เป็นโรคออกจากตัวที่ไม่เป็น จึงเริ่มต้นไล่จับไก่ จับได้เพียงไม่กีตัวดวงอาทิตย์ก็ตกดิน จึงเริ่มต้นเดิน กลับบ้าน นาทีตั้งใจจะไถก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิม ยังคงรอคอยการคราดไถจากรถแทร็คเตอร์ต่อไป
งานปลีกย่อยที่แวะเวียนไปทำระหว่างทางก็ไม่สำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักชิ้น
บางคนอาจนึกขำ  เกี่ยวกับชาวนาในเรื่องนี้  ท่านทั้งหลายถ้าเราสังเกตให้ดีๆ  จะพบว่าเราก็คือชาวนาคนนี้นั่นเอง
เวลาและชีวิตไม่ใช่เทปคาสเส็ตต์เมื่อหมดม้วน  แล้วสามารถกรอกกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้
เมื่อเรามาพิจารณาถึงคำถามที่ว่า  “ทำไมเราถึงต้องบริหารเวลา” ผมก็จะมาถึงคำตอบเดิมที่ว่า  ก็เพราะเวลาคือ ชีวิต  น่ะสิ
*เวลาเป็นสิ่งสำคัญ ไม่มีเวลาจะทำอะไรไม่ได้
เพราะถ้าหากเราบริหารเวลาไม่ดี  เราอาจจะต้องพลาดหลายสิ่งที่เราปรารถนาจะทำด้วยเหตุผลเดียวกันนั่นคือ  “ไม่มีเวลา”
*เวลามีจำกัด หยุดไม่ได้ ยึดไม่ได้ สะสมไม่ได้
จะต้องใช้เงินเท่าใดจึงจะซื้อเวลาได้?
จะต้องใช้กำลังอำนาจใดจึงจะหยุดเวลาได้?
จะต้องใช้พลังมากมายมหาศาลเพียงใดจึงจะยึดเวลาออกไปได้?
จะต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถสะสมเวลาได้?
คำตอบข้างต้น  ก็คือ  ทำไม่ได้
ดังนั้น สิ่งเดียวที่เราสามารถทำได้ในวันนี้คือ การตระหนักถึงความเป็นจริงแห่งเวลาดังกล่าว แล้วเริ่มต้นบริหารเวลาบริหาร  ชีวิต  นับจากนี้ให้ดีที่สุด เพื่อไม่ต้องเสียใจในวันข้างหน้า
*เวลามีคุณภาพแตกต่างกัน
เพราะในช่วงของแต่ละวันของชีวิตล้วนมีคุณภาพสำหรับใช้งาน แตกต่างกันเช่น ช่วงเช้าควรจะทำงานที่ต้องใช้ความคิด ความจำ
ช่วงบ่ายควรจะทำงานที่ไม่ต้องใช้ความจำมากเพื่อเป็นเวลาหลังอาหารเที่ยง ช่วงเวลาที่สมองทำงานเฉี่อยชารับรู้อะไรได้ช้า และก็ง่วงด้วย
*เวลามีค่าและเสียโอกาส
เราไม่สามารถเลือกใช้เวลาอย่างไรก็ได้ เพราะว่าเวลามีค่าเสียโอกาสเสมอทุกครั้งที่เราเลือกจะใช้เวลาทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง นั่นหมายถึงเรากำลังสูญเสียโอกาสในการทำสิ่งอื่น ๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน และสิ่งนั้นอาจมีคุณค่าอย่างเอนกอนันต์ต่อชีวิตระยะทางของเราก็เป็นได้
ใครคือผู้ที่ต้องบริหารเวลา คนที่เกลียดกลัวความสำเร็จและรักความล้มเหลวเป็นชีวิตจิตใจสำหรับผู้ที่ปรารถนาความสำเร็จทุกคน ล้วนต้องเรียนรู้การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพทั้งสิ้นเราสามารถแบ่งคนทั่ว ๆ ไปออกเป็น 3  ประเภทดังนี้ที่จำเป็นต้องเรียนรู้การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ
นักคิด
ลักษณะเด่น ก็คือเป็นคนชอบคิด ชอบฝัน ชอบวางแผน ฝันว่าจะทำโน่น ทำนั่น ทำนี้แต่สิ่งที่เขาคิด และฝันวางแผน ไม่เคยที่จะเป็นความจริงขึ้นมายังคงเป็นอากาศ  สิ่งที่มองไม่เห็น ดังคำกล่าวว่า  “ไม่มีฝันใดที่จะเป็นจริงได้จนกว่าเราจะตื่นขึ้นและทำความฝันให้เป็นความจริง”
แท้ที่จริงการฝัน การวางแผนอย่างรอบคอบ นั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ “นักคิดควรลงมือทำปฏิบัติอย่างสมดุลพอเพียงด้วย “คนที่ประสพความสำเร็จนั้น คือคนที่ไม่เพียงแต่เพลิดเพลินชื่นชมกับความคิดของตน แต่ถลกแขนเสื้อลงลุยงานด้วย”
นักทำ
ลักษณะเด่น ก็คือ ชอบทำมากกว่าคิด มีความกระตือรือร้นสูง ชอบเห็นสำเร็จเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่ยอมเสียเวลาในการวางแผน   ไตร่ตรอง          
ให้รอบคอบก่อนลงมือทำ บางครั้งก็ต้องพบกับความล้มเหลง ผิดพลาด    อย่างน่าเสียดายความแตกต่าง ระหว่างความล้มเหลว และควมสำเร็จบางครั้งอยู่ที่การกระทำทำสิ่งที่คิดว่าถูกกับการทำสิ่งที่ถูกต้องอย่างแท้จริง
นักอู้
ลักษณะคือผู้ที่ขาดความกระตือรือร้นในการทำงาน แต่เพียบพร้อมด้วยความเกียจคร้าน มีแรงจูงใจในการทำงานเพียงเพื่อแลกกับค่าจ้างเงินเดือนเท่านั้น  รักที่จะ “พัก” มากกว่ารักที่จะ “ทำ” นักอู้ในวันนี้  จึงไม่สายที่จะเริ่มปรับเปลี่ยนปรัชญาท่าทีในการมองชีวิตใหม่ กำหนดเป้าหมายที่มีคุณค่าแท้ต่อจิตใจของตน และสังคมมุ่งมั่นฝ่าฟันไปให้ถึงสู่เป้าหมายจนถึงที่สุดนั่นหมายความว่าคนจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวขึ้นอยู่กับวิธีที่ เขาคิด ทัศนคติ มุมมองที่เขามีต่อสิ่งต่าง ๆ เรื่องต่างๆ ในชีวิตถ้าเขาคิด โดยส่วนใหญ่คนมักจะมีความเข้าใจในเรื่องการบริหารเวลาที่บิดเบี้ยวไปในประเด็นต่าง ๆ ต่อไปนี้

การบริหารเวลาเป็นเรื่องเคร่งเครียดเกินความจำเป็น
หลายคนมีปรัชญาว่า  “ชีวิตที่มีความสุข คือชีวิตที่สบาย ๆ ไม่ต้องเร่งร้อน ไม่ต้องอยู่ในกรอบของอะไร ปล่อยไปตามอารมณ์ ถ้าไม่มีอารมณ์ก็พักไว้ก่อน
แท้ที่จริงแล้ว  เขาลืมคิดไปว่า  “การไม่ตั้งใจบริหารเวลาอย่างดี ก็คือ การบริหารเวลาอย่างไม่ดี  นั่นเอง” เพราะว่าไม่ว่าเขาจะวางแผนการใช้เวลาในชีวิตหรือไม่ เขาก็ต้องใช้เวลาอยู่ดีหากเราบริหารเวลาในชีวิตได้อย่างสมดุลเหมาะสม ชีวิตกลับจะเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขความพึงพอใจ เพราะ เราจะมีเวลาให้กับสิ่งต่าง ๆ อย่างเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนหย่อนใจ ความสุขสนุกสนาน ความรักความสัมพันธ์ งานอาชีพและงานอดีเรกที่เรารัก รวมทั้งอนาคตที่มุ่งหวังเช่นกัน
 

การบริหารเวลาทำให้ชีวิตไม่มีอิสระ
ทำไม่คนเราต้องยอมเป็นนักโทษของเวลาด้วย? เพราะเรายังคงเป็นเจ้านายเหนือนาฬิกาชีวิตเหนือตารางเวลา ของเราอย่างเต็มบริบูรณ์ เรายังคงมีอิสระที่จะปรับเปลี่ยนยีดหยุ่นการใช้เวลาอย่างไรได้ทุกเมื่อ  ตราบเท่าที่สิ่งเหล่านั้นจะนำเราไปถึงจุดหมายแห่งความสุข ความสำเร็จในชีวิตและทำให้ราเป็นอิสระจากพันธการของชีวิตอย่างแท้จริง

การบริหารเวลาเป็นเรื่องนักธุรกิจ หรือผุ้บริหารระดับสุง
“บริหาร” เป็นคำพูดหรุหรานึกไปถึงภาพนักธุรกิจในชุดสูทราคาแพงนั่งอยู่หลังโต๊ะตัวใหญ่ โทรศัพท์ติดต่อธุรกิจหลายล้านบาท และยิ่งถ้าพูดถึงการบริหารเวลา หลายคนมองว่าเป็นเรื่องของนักธุรกิจผู้บริหารองค์กรระดับสูง
การบริหารเวลา ซึ่งมีความหมายว่า  การดำเนินการ นั้นจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ทุกคนในโลก เพราะทุกคนล้วนเป็นเจ้าของเวลาในชีวิตตนเองถึงอย่างไรคุณปฏิเสธการบริหารเวลาไม่ได้  ทั้งหมดชีวิตย่อมขึ้นอยู่กับว่าคุณบริหารเวลา บริหารชิวิต หรือกล่าวได้อีกนัยหนึ่ว่า คุณจัดการเกี่ยวกับเวลาในชีวิตของคุณได้ดีมากน้อยเพียงไร

การบริหารเวลาเป็นเรื่องของคนที่ไม่ค่อยมีเวลา
คุณเคยได้ยินคนที่พูดว่า “พอดีอยุ่ว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำก็เลยแวะมาเยี่ยม “  หลายคนที่ทัศนะว่า เวลาในชีวิตของเขานั้นมีอยู่อย่างเหลือเฟือ ถ้าคิดให้ดีจะพบว่าการที่คนหนึ่งดูเหมือนวามีเวลามากมาย จนสามารถใช้ทิ้งใช้ขว้างอย่างไรก็ได้ ถ้าเขามีเป้าหมายที่ดีชัดเจน คำว่า “ว่าและไม่รู้จักทำอะไร “คำว่า “ฆ่าเวลาจะหมดไป”บางครั้งถ้าเราใช้คำพูดว่า  “บริหารชิวิต” แทนจะทำให้เราตระหนักและเข้าใจได้มากขึ้น  และ เราได้ให้เวลากับทุกองค์ประกอบสำคัญในชีวิตของเราอย่างสมดุลเพียงพอหรือยัง  “เราได้บริหารเวลาในชีวิตของเราให้เกิดคุณค่าและประโยชน์สูงสุดต่อตนเองและผู้อื่นแล้วหนือยัง”

การบริหารเวลาคือการทำอะไรให้เสร็จในเวลาสั้นที่สุด
หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการบริหารเวลาที่ดีที่สุด คือการทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้เสร็จโดยใช้เวลาน้อยที่สุด บางกรณีเป็นสิ่งที่ดี เช่น การช่วยชีวิตคนป่วยฉุกเฉิน แต่บางกรณีก็ไม่เป็นสิ่งที่ดีเสมอไปเพราะบางอย่างอาจเกิดความผิดพลาดทำให้งานสำเร็จออกมานั้นไม่สำเร็จเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แท้จริง เช่น การเร่งสร้างอาคารโรงแรม ห้างสรรพสินค้าอย่างหามรุ่งหามค่ำ เพราะถ้าสร้างไม่สมบูรณ์ไม่ดี เกิดการผิดพลาดอาจทำให้ตึกถล่ม ไฟไหม้ หรือคนต้องสูญเสียชีวิต
การบริหารงานที่ดี คือการใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในการทำสิ่งหนึ่งเรียนร้อยตามเป้าหมาย เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพที่สุด ภายใต้ความจำกัดของเวลาที่มีอยู่นั้น  “พึงระลึกว่า ช้าแต่ถูก ย่อมดีกว่าเร็วแต่ผิด”แต่ถ้าคิดให้ดี ถูกด้วยเร็วด้วยย่องดีที่สุด
การใช้เวลาในการวางแผนเป็นเรื่องเสียเวลา
“ไม่ต้องวางแผนหรอก ลุยไปเลย ถ้ามีปัญหาก็ค่อย ๆ แก้กันไป” หลายคนต้องเสียเวลาอย่างมากมายในการตามแก้ปัญหานักธุรกิจบางคนต้องเสียเวลาไปกับธุรกิจที่ล้มเหลว เนื่องจากไม่ได้ให้เวลากับการศึกษาลู่ทางและวางแผนการดำเนินการอย่างรอบคอบเพียงพอ
“เราต้องคิดวางแผนให้ดีที่สุดก่อนการทำสิ่งใด ๆ เพราะบางครั้งเราอาจไม่มีโอกาสเริ่มต้นเป้นครั้งที่สองก็เป็นได้”

หมายเลขบันทึก: 104436เขียนเมื่อ 19 มิถุนายน 2007 06:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีค่ะอาจารย์..วรรธนชัย ๏(。◕‿◕。)๏ ♫ ♬ ♪ ♩ ♭  

ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท