อะไรที่เรียกว่าจริต


อารมณ์ทั้ง ๖ อย่างนี้ครบถ้วนบางรายก็มีไม่ครบ มีมากน้อยยิ่งหย่อนกว่ากันตามอำนาจวาสนาบารมีที่อบรมมาในการละในชาติที่เป็นอดีต อารมณ์ที่มีอยู่คล้ายคลึงกัน แต่ความเข้มข้นรุนแรงไม่เสมอกัน ทั้งนี้ก็เพราะบารมีที่อบรมมาไม่เสมอกัน ใครมีบารมีที่อบรมมามาก บารมีในการละมีสูงอารมณ์จริตก็มีกำลังต่ำ ถ้าเป็นคนที่อบรมในการละน้อย อารมณ์จริตก็รุนแรง จริตมีอารมณ์อย่างเดียวกัน แต่อาการไม่ส่ำเสมอกัน

              วันนี้มาเรียนรู้และศึกษาเกี่ยวกับจริต๖ในพระพุทธศาสนาว่ามีอะบ้าง

จริตแปลว่า  จิตท่องเที่ยว  สถานที่จิตท่องเที่ยวหรืออารมณ์เป็นที่ชอบท่องเที่ยวของจิตนั้น   สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประมวลไว้เป็น     ประการด้วยกัน คือ            ๑.ราคจริต  จิตท่องเที่ยวไปในอารมณ์ที่รักสวยรักงาม  คือพอใจในรูปสวย เสียงเพราะ  กลิ่นหอม  รสอร่อย  สัมผัสนิ่มนวล  รวมความว่า  อารมณ์ที่ท่องเที่ยวไปในราคะคือความกำหนัดยินดีนี้  บุคคลผู้เป็นเจ้าของจริต  มีอารมณ์หนักไปในทางรักสวยรักงาม  ชอบระเบียบ  สะอาด  ประณีต  มีกิริยาท่าทางละมุนละไมนิ่มนวล  เครื่องของใช้สะอาดเรียบร้อย  สะอาด  ประณีต  มีกิริยาท่าทางละมุนละไมนิ่มนวล  เครื่องของใช้สะอาดเรียบร้อย  บ้านเรือนจัดไว้อย่างมีระเบียบ  พูดจาอ่อนหวาน  เกลียดความเลอะเทอะสกปรก   การแต่งกายก็ประณีต  ไม่มีของใหม่ก็ไม่เป็นไร  แต่จะเก่าก็ต้องสะอาดเรียบร้อย  ราคจริตมีอารมณ์จิตรักสวยรักงามเป็นสำคัญ  อย่าตีความหมายว่า ราคจริตมีจิตมักมากในกามารมณ์  ถ้าเข้าใจอย่างนั้นพลาดถนัด                ๒.โทสจริต มีอารมณ์มักโกรธเป็นเจ้าเรือน  เป็นคนขี้โมโหโทโส  อะไรนิดก็โกรธ  อะไรหน่อยก็โมโห  เป็นคนบูชาความโกรธว่าเป็นของวิเศษ วันหนึ่ง  ๆถ้าไม่ได้โกรธเคืองใครเสียบ้างแล้ว  วันนั้นจะหาความสบายใจได้ยาก  คนที่มีจริตหนักไปในโทสจริตนี้  แก่เร็ว  พูดเร็ว  พูดดัง  เดินแรง  ทำงานหยาบ  ไม่ใคร่ละเอียดถี่ถ้วน แต่ตัวไม่พิถีพิถัน  เป็นคนใจเร็ว                ๓.โมหจริต  มีอารมณ์จิตลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ  ชอบสะสมมากกว่าจ่ายออก  ไม่ว่าอะไรเก็บดะ  ผ้าขาดกระดาษเก่า  ข้าวของตั้งแต่ครั้งใดก็ตาม   มีค่าควรเก็บหรือไม่ก็ตามเก็บดะไม่เลือก  มีนิสัยเห็นแก่ตัว  อยากได้ของของคนอื่น   แต่ของตนไม่อยากให้ใคร  ชอบเอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน  ไม่ชอบบริจาคทานกุศล  รวมความว่าเป็นคนชอบได้ไม่ชอบให้                ๔.วิตกจริต  มีอารมณ์ชอบคิด ตัดสินใจไม่เด็ดขาด  มีเรื่องที่จะต้องพิจารณานิดหน่อยก็ต้องคิดตรองอยู่อย่างนั้น  ไม่กล้าตัดสิน   คนประเภทนี้เป็นโรคประสาทมาก มีหน้าตาไม่ใคร่สดชื่น  ร่างกายแก่เกินวัย  หาความสุขสบายใจได้ยาก                ๕.สัทธาจริต  มีจิตน้อมไปในความเชื่อเป็นอารมณ์ประจำใจ   โดยไรัเหตุไรผล  พวกที่ถูกหลอกลวงก็คนประเภทนี้  มีใครแนะนำอะไรตัดสินใจเชื่ออย่างเดียวไม่ได้พิจาณา                ๖.พุทธจริต  เป็นคนเจ้าปัญญาเจ้าความคิด มีความฉลาดเฉลียว  มีปฏิภาณไหวพริบดี   การคิดอ่านหรือการทรงจำก็ดีทุกอย่าง

                อารมณ์ของชาวโลกทั่วไป  สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประมวลอารมณ์ว่า อยู่ในกฎ  ๖ ประการตามที่กล่าวมาแล้วนี้  บางคนมีอารมณ์ทั้ง    อย่างนี้ครบถ้วนบางรายก็มีไม่ครบ  มีมากน้อยยิ่งหย่อนกว่ากันตามอำนาจวาสนาบารมีที่อบรมมาในการละในชาติที่เป็นอดีต   อารมณ์ที่มีอยู่คล้ายคลึงกัน  แต่ความเข้มข้นรุนแรงไม่เสมอกัน  ทั้งนี้ก็เพราะบารมีที่อบรมมาไม่เสมอกัน  ใครมีบารมีที่อบรมมามาก    บารมีในการละมีสูงอารมณ์จริตก็มีกำลังต่ำ  ถ้าเป็นคนที่อบรมในการละน้อย  อารมณ์จริตก็รุนแรง  จริตมีอารมณ์อย่างเดียวกัน  แต่อาการไม่ส่ำเสมอกัน

หมายเลขบันทึก: 105723เขียนเมื่อ 23 มิถุนายน 2007 19:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท