เรื่องเล่าจากญี่ปุ่น:ตอนสาม ล่องเรือสำรวจทะเลสาบบิวะ


ทะเลสาบบิวะ เป็นทะเลสาบที่สวยงามและใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีที่มายาวนานนับล้านปี มีเรื่องราวและทรัพยากรมากมาย

ล่องเรือร่วมวิจัยและสำรวจ Bivako ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น          

           ในวันรุ่งขึ้น คณะเรารีบตื่นแต่เช้า เพราะในโปรแกรมบอกว่าจะเป็นรายการสำรวจทะเลสาบ Biva กับคณะวิจัยของมหาวิทยาลัยชิกะ เด็กๆตื่นเต้นมาก เพราะเคยอยู่แต่ดอย อย่างเก่งก็มีแต่แม่น้ำปิงเท่านั้น          

          

          ดร.Sato ผู้หญิงคนซ้ายมือสุด สวมเสื้อขาวกางเกงดำ ผู้ประสานงาน

          เราเดินไปทางประตูหลังของมหาวิทยาลัยเพียงสิบนาที ก็ถึงทะเลสาบ Biva แล้ว ทางมหาวิทยาลัยได้ซื้อบ้านเล็กๆไว้สองหลังเพื่อใช้เป็นโรงเก็บเรือและใช้เป็นท่าขึ้นลงเรือ ดร.ซาโต เธอบอกเราว่ามหาวิทยาลัยมีเรือสองลำ ลำเล็กและใหญ่ ซึ่งศาสตราจารย์ Endo เป็นผู้ดูแลและเป็นนักวิจัยมือหนึ่งเกี่ยวกับทะเลสาบนี้ ซึ่งท่านเคยมาเชียงใหม่แล้วสองสามครั้งเกี่ยวกับงานวิจัยน้ำแม่ปิงและที่สำคัญท่านชอบนิสัยคนไทยมาก จึงอนุญาตให้คณะเราลงเรือร่วมสำรวจคราวนี้กับนักศึกษาปริญญาโทของท่านได้     

     

          ศาสตราจารย์ Endo กับอาจารย์พิชัย อายุเท่ากันและหล่อ เท่ เท่ากัน

           พอลงเรือ ศาสตราจารย์ Endo มารออยู่แล้วกับนักศึกษาปริญญาโทสามคน หลังจากการแนะนำตัวก็พบว่าท่านกับผมอายุเท่ากันและพูดคุยถูกคอกัน คุยไปคุยมาท่านเล่าว่าเคยมาวิจัยน้ำปิง ชอบกินเบียร์ไทย อาหารไทยและชอบนิสัยคนไทยว่าเป็นมิตรดี

          ท่านเล่าว่าเรือที่เห็นอยู่นี่ ท่านออกแบบเองและส่งไปให้บริษัทต่อเรือ เรือลำนี้ใช้ในงานวิจัยเท่านั้น ท่านกรุณาสอนวิธีควบคุมเรือ บอกว่าขับง่ายกว่าขับรถยนต์ แนะนำวิธีอ่านข้อมูลจากจอคอมพิวเตอร์ ดูระดับความลึกของน้ำ ความกว้างของฝั่ง หินใต้น้ำ แล้วบังคับเรือได้สบายๆ ด้วยระบบ Gis นำร่องจากสัญญาณดาวเทียม

            ดร.ซาโตะ และนางสิงโต กำลังหย่อนเครื่องตักดินลงในทะเลสาบ

            ท่านแบ่งคณะเราออกเป็นสามกลุ่มเพื่อร่วมสำรวจและวิจัย ซึ่งแต่ละกลุ่มจะมีนักศึกษาปริญญาโทเป็นผู้ช่วยสอนการสำรวจต่างลักษณะกัน        

  

           กลุ่มที่๑. วิเคราะห์น้ำว่ามีสารปนเปื้อนหรือมีแร่ธาตุหนักอะไรบ้าง โดยตักน้ำใน น บริเวณและระดับความลึกที่แตกต่างกันมาใส่ในหลอดทดลองที่มีด่างผสมอยู่ แล้วเทียบดูสีว่าใกล้เคียงกับหลอดตัวอย่างน้ำที่ผสมกับด่างที่มีค่าของโลหะต่างชนิดกันอยู่แล้ว เป็นการเทียบโดยใช้ตัวอย่างสีของน้ำเทียบกัน         

 

         นักศึกษาปริญญาโท กำลังสาธิตการตรวจดูสารในน้ำ

          กลุ่มที่๒. สำรวจความขุ่นใสของน้ำและเก็บตัวอย่างน้ำในระดับความลึกต่างๆเพื่อมาส่องดูในกล้องจุลทรรศน์ ดูชนิดของแพลงตอนที่มีตัวอย่างและชื่ออยู่แล้ว

 

      

         ดูแล้วมหัศจรรย์ใจในธรรมชาติที่สร้างสรรค์ชีวิตที่หลากหลายและพลอยนึกไปถึงเรื่องกรรมและวิบากที่พระพุทธองค์ทรงกล่าวว่า          

         กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้งาม ทราม ประณีต แตกต่างกัน(ตามชนิดของกรรมและวิบาก) ดูแล้วจะตั้งใจทำความดียิ่งๆขึ้น กลัวว่าจะไปเกิดเป็นตัวยึกยืออย่างนี้    

      

         กลุ่มที่๓. สำรวจเรื่องดินในทะเลสาบ ดูแร่ธาตุและสัตว์ที่อาศัยอยู่ ดินมีสีสรรลักษณะแตกต่างกันไปตามระยะทางและระดับความลึก บางแห่งตักขึ้นมาเป็นดินโคลนดำ บางแห่งมีทรายปนมาก บางแห่งตักขึ้นมามีหอยชนิดต่างๆ         

 

         ในช่วงท้าย มีทีเด็ด ศาสตราจารย์ Endo ถามว่าหิวน้ำไหม แล้วสั่งให้นักศึกษาตักน้ำในระดับความลึกสี่สิบเมตรขึ้นมา

         น้ำใสแจ๋วสะอาดมาก ท่านบอกว่าเป็นน้ำบริสุทธ์มาก เพราะเป็นระดับที่มีน้ำแร่ไหลผ่าน เป็นน้ำที่หากินยากหากเป็นอายุวัฒนะด้วย หากนำไปบรรจุขวดจะมีราคาแพงมาก           

        พวกเราได้ยินเลยเกิดความโลภ ทดลองดื่มคนละแก้ว น้ำเย็นเจี๊ยบ รสดีมากไม่เฝื่อนเลย ดื่มแล้วสดชื่นจริงด้วยแฮะ  

        

       นางสิงโตของผม ก้มหน้าดื่มเอาดื่มเอา สงสัยอยากมีอายุยืนหมื่นปี J

  ผมล่ะเสียว ...:) 

      ก่อนลงจากเรือจึงชักรูปหมู่ตามธรรมเนียม

     

แผนที่ทะเลสาบ BIVA ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า BIVAKO

ภาคผนวก เกี่ยวกับทะเลสาบบิวะ 

ทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa) มีชื่อเดิมว่า ทะเลสาบโอมิ เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในจังหวัดชิกะ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองหลวงเก่าเกียวโต เนื่องจากอยู่ใกล้กับเมืองหลวงเก่า ทะเลสาบแห่งนี้จึงปรากฏอยู่ในวรรณกรรมของญี่ปุ่นอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในกวีนิพนธ์และบันทึกทางประวัติศาสตร์ยามสงคราม

  <p style="background: #f8fcff; margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">พื้นที่โดยรอบและการใช้ประโยชน์</p>

 ทะเลสาบแห่งนี้มีขนาดพื้นที่ 670 ตารางกิโลเมตร เท่ากับเกาะอาวาจิ มีแม่น้ำหลายสายไหลจากภูเขารอบๆลงสู่ทะเลสาบ เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญสำหรับเมืองเกียวโตและโอทสึ มีการใช้ประโยชน์จากทะเลสาบแห่งนี้มากมายหลายทาง เช่น เป็นแหล่งทรัพยากรที่สำคัญสำหรับโรงงานทอผ้าในบริเวณใกล้เคียง แหล่งผลิตน้ำดื่มหล่อเลี้ยงคนกว่า 15 ล้านคนทั่วภูมิภาค แหล่งเพาะและผสมพันธุ์ปลาน้ำจืดหลายชนิดอย่างเช่นปลาเทราท์ และแหล่งเลี้ยงหอยในอุตสาหกรรมผลิตไข่มุกแต่ละปีระดับน้ำในทะเลสาบจะสูงขึ้นถึง 3 เมตรใน 2 ช่วงเวลา คือ ในฤดูใบไม้ผลิ เนื่องมาจากฝนและหิมะที่ละลาย และในฤดูใบไม้ร่วง หลังจากพายุไต้ฝุ่นแม่น้ำที่เป็นสาขาหลักของทะเลสาบคือ แม่น้ำเซตะ ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น แม่น้ำโยโดะ ไหลจากทะเลสาบออกสู่ทะเลที่อ่าวโอซากาคลองบิวะโกะ เป็นสาขาหนึ่งของทะเลสาบ ขุดขึ้นเมื่อปลายทศวรรษ 1890 และมีการขยายขึ้นอีกระหว่างสมัยไทโช มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมในเกียวโตให้กลับพลิกฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ซบเซาลงไปเนื่องจากการย้ายเมืองหลวงไปโตเกียว

ธรรมชาติของทะเลสาบ

          ทะเลสาบบิวะเป็นทะเลสาบที่มีอายุเก่าแก่เป็นอันดับสามของโลก โดยถือกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณ 4 ล้านปีก่อน เนื่องด้วยมีประวัติยาวนาน และแทบไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อครั้งถือกำเนิด ทำให้เป็นสถานที่ที่ระบบนิเวศอันหลากหลายมีวิวัฒนาการเรื่อยมา นักธรรมชาติวิทยาได้ค้นพบและบันทึกรายการสิ่งมีชีวิตในทะเลสาบแล้วประมาณ 1,100 ชนิด ในจำนวนนี้มีอยู่ 58 ชนิดที่ไม่พบในที่แห่งอื่นในโลก บริเวณทะเลสาบเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยที่สำคัญของนกน้ำ ทุกปีจะมีนกน้ำกว่า 5,000 ตัวอพยพมาที่ทะเลสาบ แต่เมื่อไม่นานมานี้ ความหลากหลายทางชีวภาพ ของทะเลสาบบิวะก็ถูกคุกคามโดยปลาต่างถิ่น อย่างเช่น black bass และ bluegill โดยพันธุ์ปลา bluegill ถูกนำมาถวายแด่องค์จักรพรรดิ แล้วถูกปล่อยลงสู่ทะเลสาบเพื่อให้เป็นอาหารของปลาอื่น ส่วน black bass ถูกนำเข้ามาเพื่อเป็นปลาสำหรับกีฬาตกปลา

 ข้อมูลจากhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B0”.             

หมายเลขบันทึก: 106587เขียนเมื่อ 26 มิถุนายน 2007 21:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)
  • ตามมาดู
  • เลยงง งง ว่าคนไหนคนไทยหรือต่างประเทศ
  • ขอบคุณครับ
  • คนนี้น่ารักเนอะ
  • ฮ่าๆๆๆ

สวัสดีครับคุณขจิต

ฮ่าฮ่า คนนี้นักศึกษาสาขาวิชาภาษาญี่ปุ่น คนไทยลูกศิษย์ผมครับ

น่ารักเหรอครับ?

ไม่บอกชื่อดอก...หลอกให้งง

  • อ้าว ผมนึกว่าคนญี่ปุ่น
  • กลายเป็นคนไทย
  • สงสัยต้องย้ายไปสอนภาคเหนือดีกว่า
  • เผื่อพบเนื้อคู่
  • รับอาจารย์ความรู้ต่ำ ความทะเยอทะยานสูง แถมตกยาก สอนที่มหาวิทยาลัยไหมครับ
  • ฮ่าๆๆๆๆๆ

ตามมาท่องเที่ยวทะเลสาบด้วยค่ะ ... ดูน่าสนุกดีนะค่ะอาจารย์ เคยนั่งเรือล่องในเขื่อนน้ำพอง ชอบมากค่ะ ถ้าได้ไปล่องที่ทะเลสาบ biva มั่งท่าจะดีมากค่ะ

จากภาพแรกที่อาจารย์ว่า ...ศาสตราจารย์ Endo กับอาจารย์พิชัย อายุเท่ากันและหล่อ เท่ เท่ากัน  ... ขอเพิ่มว่า แต่อาจารย์หนุ่มกว่าค่ะ ... ยิ้ม ยิ้ม

และสุดท้าย มาเอาใจช่วยให้อาจารย์ขจิต น้องชาย พบเนื้อคู่เร็วๆ ด้วยค่ะ ...

สวัสดีค่ะ

เรื่องสนุก ไม่เครียด และภาพสวยมากค่ะ

อ.ขจิตครับ

แหมพอดีอาจารย์ภาษาอังกฤษขาด

ความรู้ต่ำไม่ว่า ขอให้หล่อ...:)

เอารูปอ.ขจิตให้เด็กดูว่าผ่านไหม?

เด็กร้องว่าเยื่ยม เหมือนแคลช วงแบ้งค์ :)

อะไรจะปานนั้น

ว่าแต่ยังไม่มีเนื้อคู่หรือครับ?

มาเชียงใหม่เมื่อไหร่ได้พบแน่ๆ...อย่างน้อยเนื้อปิ้ง จิ้นย่าง ก็จะเตรียมไว้ให้ :)

แค่จะเอาไปคู่กะอะไรครับ?

หนูPaew

อยากไปญี่ปุ่นกะหนูจัง...คิดดูก่อนจะว่างไหมหนอ?

ขอบคุณที่บอกว่าหนุ่มกว่าครับ...เห็นไหม?อาจารย์ยืดอกจนคับจอเลย...ฮื้บ!

อ้าว!อยู่ๆก็มาอวยพรให้อ.ขจิตพบคู่ที่เชียงใหม่เสียแล้ว

เอ? ไม่แน่เหมือนกัน ยิ่งอ.ขจิตปากหวาน ชั้นเชิงหลอกล่อดี(หลอกคนมาอ่านบันทึกผมหลายคนแล้ว)

สาวเหนือเตรียมตัวป้องกันไว้เน้อ...

หนุ่มขจิตกามนิตจะมาแอ่วเจียงใหม่ โดยมีหนูแป๋วเป็นแม่สื่อแล้ว :)

 

สวัสดีครับ คุณ
P

 คำชมเหมือนสโลแกนเลยนะครับ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมอ่านครับ เอาไว้รอผมไปทักทายที่บันทึกบ้างนะครับ

มาตามแอ่วตวยคนครับ

อยากไปญี่ปุ่นจัง ยังไม่เคยเห็นยี่ปุ่นเลยครับขอบคุณอาจารย์ที่นำรูปสวยๆมาให้ดู ดูแล้วอยากไปด้วยทันที

ปล.ลูกศิษย์อาจารย์น่ารักจัง อาจารย์ก็เท่ซะไม่มี

สวัสดีครับคุณอนิรุต

อยากมาก็ตามซิครับ เอาไว้คราวหน้าจะจัดให้สมาชิก โกทูโนว์ ถ้าจะดี ตั้งชื่อว่า

"Tour Gotoknow Japan แดนอาทิตย์อุทัยกับอาจารย์พิชัย " โอย...ยาวน่าดู

ที่จริงญี่ปุ่นมีอะไรดีดีเยอะครับ ผมจึงทะยอยเขียนเป็นตอนๆครับ คอยติดตามนะครับ

สวัสดีค่ะ อ.พิชัย กรรณกุลสุนทร

ตกข่าวค่ะ เพิ่งเห็นบันทึกนี้ ^ ^

เห็นด้วยกับอ.แป๋วว่าอาจารย์ดูหนุ่มกว่าอาจารย์ Endo ค่ะ ^ ^

เห็นอุปกรณ์กับเครื่องมือเขาแล้วก็ให้อิจฉาตาร้อน  อยากให้หลังสถาบันมีทะเลสาบบ้างจัง  จริงๆ สถาบันก็อยู่ไม่ไกลเจ้าพระยาสักเท่าไหร่ หรอกค่ะ แต่ที่นึกถึงก็คือคลองเก่าๆ ที่กลายเป็นคลองระบายน้ำที่ผ่ากลางสถาบันพอดี พอกทม.ปิดประตูน้ำคลองก็กลายเป็นบ่อน้ำดำ ส่งกลิ่น แบบไม่ต้อง research ก็รู้แล้วว่าไม่สามารถมีสิ่งมีชีวิตใดอยู่ได้แน่ๆ...

เห็นชีวิตเขาเสี้ยวหนึ่งแล้วก็สุนทรีย์ดีนะคะ แต่จริงๆ แล้วก็คงเครียดพอๆ กัน แต่คนละแบบเท่านั้นเอง

แต่ดีนะคะ เขาพาเที่ยวทะเลสาบแบบได้ความรู้ด้วย นับเป็นกุศโลบายที่ดีจริงๆ ค่ะ ^ ^

  • สวัสดีครับท่านอาจารย์
  • เห็นทะเลสาปแล้ว ให้นึกอยากเป็นปลาว่ายทวนกระแสน้ำครับ
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ คุณนรินทร์

ในทะเลสาบบิวะมีปลาเทร้าส์อยู่ ซึ่งเป็นปลาทวนน้ำอยู่แล้ว...

ในgotoknow ก็มีคุณนรินทร์เป็นปลาว่ายทวนน้ำอยู่แล้วครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์พิชัย

  • ดูแล้วอยากไปด้วยเลยค่ะ  สวยงามจริง ๆ ค่ะ 
  • ตามมาอ่านด้วยความคิดถึงค่ะ
  • ขอบคุณมากค่ะที่นำสิ่งดี ๆ มาให้ดู และมีแง่คิด มุมมองต่างๆ แทรกด้วยค่ะ

เล่าเรื่องได้น่าไปด้วยจังเลยค่ะ 

น้ำนั่น ดื่มเยอะอายุยืน แต่หนังไม่เหี่ยวด้วยรึเปล่าคะ

อิอิ 

 

วันก่อนได้ทานปลาเทร้าส์ด้วย เหมือนกันค่ะ อร่อยๆ

^___^

สวัสดีหนูราณี

หายไปนานจนคิดถึง ที่มหาวิทยาลัยมีโครงการอย่างนี้ไหม? จะร่วมกันไหม?ในปีหน้า

หนู is

ขอบคุณมากครับที่ชมว่าเล่าเรื่องดีจนน่าไปด้วย

น้ำที่ดื่มนั่นอายุยืนนนนนนนนนนนนจริงๆ อย่างน้อยจนถึงวันนี้ แต่หนังจะเหี่ยวรึปล่าวนั้น ...แหะ แหะ ไม่รับรองครับ แต่ผมมีคาถาหนังยืดนะครับ หากเหี่ยวแล้ว ท่องคาถาหนังยืดออกมาแล้วรวบมาพับรวมไว้กระจุกเดียว ที่อื่นจะตึงไปหมด:) :)

ขอยืนยันด้วยอีกคนว่าอาจารย์ดูหนุ่มและเท่ห์กว่า Prof. Endo จริงๆ ค่า แหม...ได้กินน้ำระดับลึก 20 เมตรด้วย ไม่รู้ว่าจะอายุยืนขึ้นอย่างที่บอกหรือปล่าว ยังไงก็อวยพรแบบในหนังจีนแล้วกันนะคะ "ว่านซุ่ย ว่าน ว่านซุ่ย" แปลว่าขอให้อายุยืนหมื่นปี หมื่นๆ ปี

เห็นภาพแล้วคิดถึงเมื่อ 3 ปีที่แล้วเคยไปทัวร์ศึกษาศาสนาเทนริเคียว ที่เมืองนารา อยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ ยังประทับใจความมีวินัยของคนญี่ปุ่นไม่ลืมเลือนเลยค่ะ

สวัสดีครับ คุณ

P
ที่ม.เทนริ ก้มีข้อตกลงกันครับ เพียงแต่ผมไม่ได้ไป ให้อาจารย์สาขาวิชาภาษาไทยไปแทน ผมไปเที่ยวนารามาสองครั้งแล้ว กลิ่นขี้กวางยังตุตุอยู่ในความทรงจำมิรู้เลือน แต่วัดสวยมากครับ กำลังจะเล่าตอนต่อไป
ขอบคุณหนู
P
ที่มายืนยันดังกล่าว...แฮ่ม ทำให้ต้องงดกินข้าวเย็นไปหลายมื้อ หันมาฟาดข้าวดึกแทน
และขอบคุณในคำอวยพรแบบจีน "ว่านซุ่ย ว่านซุ่ย" ฟังแล้วกระชุ่มกระชวย แต่พอฟังติดๆกันบ่อยๆก็กลัวว่าจะลงท้ายเป็นชุ่ยไป ต้องเน้นให้ออกเอ็กเซนท์ เป็นซซซซซซ....ให้ชัดเจน
ว่าแต่เอาแค่ มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ ไปพร้อมๆกันก็พอแล้วครับ อย่าให้ต้องถึงเกินร้อย....แล้วต้องนอนแหม็บกระดิกกระเดี้ยอะไรไม่ได้เลย อย่างนั้นไม่อาวครับ :)

ชื่อ ทะเลสาบ biwa หรือ Bivako  นี้คุ้นๆหนิงมากเลยค่ะ  เพราะเคยมีการประชุมเกี่ยวกับคนพิการ  และให้แนวทางการพัฒนาศักยภาพคนพิการ  ก็ที่  Bivako  นี่แหละค่ะ 

อิอิ  ได้ยินชื่อมานานแต่เพิ่งเห็นรูปนี่แหละค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ

สวัสดีครับคุณ
P
ยินดีต้อนรับครับ
ผมก็ได้ยินชื่อคุณหนิงมานานจากบันทึกของคนอื่น วันนี้จึงชะแวบเข้าไปดูอีก
ศูนย์พัฒนาศักยภาพคนพิการทางใจมีไหมครับ :)

รูปสวยและท่าทางอากาศน่าจะดีมากนะคะอาจารย์

ติดใจเรื่องน้ำ40เมตร..อ่านแล้วเห็นตัวโลภเกิดขึ้นมา2ตัว..ตัวแรกมองเห็นเป็นโอกาสธุรกิจน้ำดื่มสุขภาพและมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น)ส่วนตัวโลภที่2อยากให้อาจารย์นำมาฝากสักขวดเอาไว้เป็นรางวัลให้กะลูกศิษย์ทางบล็อกบ้างจัง..ให้จิบคนละอึกสองอึก..เผื่อจะได้ wansui-wan-wansuiคอยอ่านคอยติดตามบล็อกอาจารย์ได้นานๆ....m(*v*)m

Hello หนู

P
หายไปไหนตั้งนาน จนอาจารย์คิดถึง :)
อากาศที่ทะเลสาบดีมาก และเย็นจนหนาว หากไม่เข้าไปหลบในเคบินต้องได้ยินเสียงกั๊กๆๆๆๆๆ ตลอดทาง จนฟันสึกแน่ๆ
นั่นแน่! แอบคิดเหมือนอาจารย์เรื่องน้ำ Bivako ว่าจะเอามาขาย แต่สงสัยไปไม่รอดเพราะ Prof.Endo บอกว่าทางการควบคุมครับ เห็นเล่าว่าเคยมีบริษัทไวน์จะไปวิจัยและเอามาผสมกับไวน์ยังไม่ได้เลยครับ
แต่ตัวโลภตัวที่สอง เป็นไปได้ครับ...ไปอีกครั้งจะเอามาฝากแน่นอน เตรียมเข้าแถวอ้าปากให้หยอดคนละอึก จะได้ว่านซุ่ย ว่านซุ่ย :)
ว่าแต่ สำหรับหนู อาจารย์ให้ดื่มสองอึกเลย จะได้สวยใสยืนยาวนานหมื่นปี คอยโปรโมทบล็อกอาจารย์:)

ญี่ปุ่น  เป็นประเทศที่มีเสน่ห์..

ใครได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนมักจะติดใจ และอยากไปอีกครั้งหากมีโอกาส 

ผมเองเคยมีโอกาสไปใช้ชีวิตอยู่ช่วงหนึ่งที่นั่น ประทับใจผู้คน  สิ่งแวดล้อม  และอาหารที่แสนอร่อย  และ Host family ที่รักผมมาก ๆ เห็นบรรยากาศแล้วอยากไปล่องเรือด้วยจังครับ..

ครับคุณสุภัทร

ญี่ปุ่นมีเสน่ห์หลายอย่าง ไม่นับสาวสวยนะครับ :)

มีระเบียบ มีวินัย มีความอดทน มีสุนทรียภาพมากแต่ในบางมุมสิ่งที่น่ารังเกียจก็มีครับ

คงเหมือนๆกันทั่วโลกที่มีทั้งมุมบวกและมุมลบ

ขึ้นอยู่ที่จะจะมองด้านใดครับ

สวัสดีค่ะ อาจารย์พิชัย

ชอบแวะเข้ามาอ่านเป็นประจำค่ะ ภาพประกอบสวยมากค่ะ เห็นแล้วคิดถึงความหลังเคยไปล่องเรือกับอาจารย์ Endoh เหมือนกันค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท