พระบิดาเป็นพระรูปปั้นขนาดเท่าองค์จริง...เป็นสิ่งสักการะของชาวมหาวิทยาลัยของเราที่พระบิดาจะมีไข่ต้มวางอยู่มิขาด...มีการจัดระเบียบการวางของสักการะการจุดธูปเทียน...เหมือนทุกที่ ที่คนนิยมมาสักการะที่นี่จะเป็นจุดรวมของการกราบไหว้บูชา เนื่องจากมหาวิทยาลัยของเรามีโรงพยาบาลขนาดใหญ่....ญาติผู้ป่วยก็จะมากราบไหว้ให้สบายใจ...บางครั้งก็ขอในสิ่งที่ตนหวังอยากจะให้เป็น ผู้ปกครองมาแก้บนให้ลูกๆ ที่สอบได้เรียนที่นี่ ที่นี่ไม่เหมือนที่อื่นคือไม่มีคาถาสวดบูชาเขียนไว้มีแต่พระบรมราชปณิธานที่ฐานองค์พระรูป ว่า "ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นกิจที่สองประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ลาภ ทรัพย์และเกียรติยศจะตกแก่ท่านเองถ้าท่านทรงธรรมแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์"
ปกติดิฉั้นจะห่างไกลกับการบนบานศาลกล่าวขอโน่นขอนี่...ให้เป็นดังที่ใจต้องการ(ด้วยความเชื่อว่ามีมิติโลกมนุษย์มิติเดียวไม่มีภพอื่น ชาติอื่น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกรรม(การกระทำ)) แต่กระนั้นก็พบเห็นสิ่งนี้ในสังคม....แม้ในในครอบครัวของเราแม่มักจะมีของไปถวายที่ศาลเจ้าพ่อที่เป็นที่นับถือของหมู่บ้านอยู่บ่อยๆก็พวกเรานี่แหล่ะเป็นเหตุให้ท่านขอท่านมักจะขอเจ้าพ่อให้พวกเราสอบติดที่นั่นสอบได้ที่นี่ตั้งแต่ขับรถมอเตอร์ไซด์ได้ดิฉั้นก็มีหน้าที่ขับรถให้แม่พาของไปแก้บนด้วยเป็นเด็กว่าง่ายใช้ง่ายไม่ถามมากและตามใจแม่...เราพาไก่และของเส้นไห้วไปแก้บน....นั่งเฝ้าจนธูปหมด ยกกลับบ้านไปกินกันที่บ้านอร่อยไปในวันนั้นๆ....ดิฉั้นไม่ได้คิดเชื่อมโยงไม่ติดใจ....โตขึ้นมาหน่อยเกิดสงสัยว่าแล้วเจ้าพ่อ...ที่เราๆไปขอ ขอกันนี่ท่านให้ได้จริงๆ หรือแต่ไม่กล้าถามแม่....เกรงจะถูกดุเอาว่าถามไม่เป็นเรื่อง........
วันนี้มีเรื่องค้างคาในใจบางประการไม่สงบสุขนัก....ขับรถผ่านพระบิดา..จึงบอกลูกว่าแม่ขออนุญาตลงไปไหว้พระบิดานะ..หนูลงไปวิ่งเล่นก็ได้...หรือจะไหว้ด้วยเดี๋ยวแม่จุดธูปให้...เธอตกลงจะไหว้ด้วยวันนี้มีนักศึกษา...เอาไข่ต้มมาถวายพระ 3 เจ้าด้วยกัน นักศึกษาถูพื้นอยู่ 2 คน....ดิฉั้นทายไม่ผิดจากการเห็นแววตาของลูกเดี๋ยวจะต้องมีการถามกันให้ต้องตอบกันยกใหญ่.....
ดิฉั้นจุดธูปให้เด็กๆ ไหว้ของเธอจุดให้คนละ 3 ดอกของดิฉั้น 9 ดอก ดิฉั้นตั้งจิตนิ่งนานกว่าปกติใจประหวัดมองหาคาถาสวดบูชาไม่มี มีแต่พระบรมราชปณิธานที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน...อ่านกลับไปกลับมา 3 จบ "ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นกิจที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่งลาภทรัพย์และเกียรติยศจะตกแก่ท่านเองถ้าท่านทรงธรรมแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์" แล้วแอบบอกสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจกับพระบิดา...
" แม่...ทำไมแม่ ไหว้นานจัง..."
" พี่ๆ เค้าอาไข่มาทำอะไรกัน...".
" พระบิดากินทางธูป เหรอแม่...."
" ทำไมแม่จุดธูป 9 ดอก...ทำไมให้ลูก 3 ดอก "
" มีพี่นักศึกษามาถูพื้นด้วย....อาจารย์ให้เค้ามาถูเหรอแม่"
ดิฉั้นเรียบเรียงตอบเธอตามที่ดิฉั้นเข้าใจทีละเรื่องจึงสรุปรวมว่า...."เป็นเรื่องของจิตใจ....จากรุ่นยาย..มาถึงแม่...แม่เห็นยายทำแบบนี้แล้วยายหายกังวล...ต้องการสงบใจ...ที่สำคัญเราต้องรู้ว่าสิ่งที่ไปตามคาดหวังจากการบอกพระบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์...ผลจะไม่ได้ตามที่เราต้องการผลจะมาจากการกระทำของเราเอง..แต่มันเป็นความสบายใจ....อย่างน้อยคืนนี้แม่จะนอนหลับเพราะแม่ไดเล่าสิ่งที่แม่กังวลให้พระบิดาฟังแล้ว เป็นการระบายออกจากใจลูก....เข้าใจมั้ยคะ..." เธอนิ่งไม่ว่าอะไร.ดิฉั้นก็ไม่รู้ว่าเธอเข้าใจหรือเปล่า ก่อนลงจากรถพี่ปลา(ลูกคนโต)เธอถามน่าคิดว่าที่แม่บอกพระบิดานั้นแล้วทำไมแม่ไม่บอกพ่อ......ก็จะหลับสบายเหมือนกัน...
"แล้วอย่างนี้แม่ต้องต้มไข่มั้ยแม่..."
อืมม... ขาดไปอย่างนึง... อ๋อ ไม่ใช่ช่วงสอบ เลยยังไม่มีนักศึกษาวิ่งรอบพระบิดาครับ :-)
ค่ะวิ่ง...รอบพระบิดา..ก็มีให้เห็น ดีค่ะน้อนักศึกษาได้ออกกำลังกายไปด้วย...ขอบคุณค่ะ อ.ธวัชชัย
เช้านี้ น่าจะมีไข่พะโล้ บนโต๊ะอาหาร จะได้ฉลองกันในครอบครัว ทำกิจกรรมต่อจากไปจุดธูป ได้ผลทางใจแล้ว ยังได้ผลทางกระเพาะด้วย น้องแปมคงชอบแน่ๆ
แม่...ลืมช๊อตเด็ดของลูกไปอีก 1 อย่าง
..................
ตกลงแม่กราบพระบิดากี่ครั้งค่ะ
ฮา.......
.................
แล้วตกลงคืนนั้นแม่ได้บอกคุณพ่อ (บิดาของเด็ก ๆ ที่บ้านหรือเปล่าค่ะ)
การแก้บนด้วยไข่ต้มนั้น ไม่ทราบว่ามีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอทราบเป็นเลาๆว่าเริ่มต้นจากที่ศิริราชพยาบาล
ทั้งนี้เขามีกุศโลบายครับ
เนื่องจากที่ศิริราชนั้นมีคนไข้อนาถามากมาย ดังนั้นหากมีคนมาบนบานท่านมาก ไข่ต้มก็จะมีมากมาก คนจนก็จะได้กินต่อไปครับ
ราชวงศ์นี้ช่วยคนเสมอเลยนะครับ