สวัสดีค่ะ จากที่เกริ่นนำและเตือนตัวเองไว้แล้วใน blog ก่อนว่าจะต้องเล่าแต่ละ task ที่ประสบผลสำเร็จ รวมทั้งtask ที่ไม่สำเร็จของการไปเป็นสาวกรุงฯครั้งนี้ด้วยนะคะ
วันนี้ขอเล่า task แรกค่ะ
Task ที่ 1 เอดส์ : ก้าวต่อไปในยุคเศรษฐกิจพอเพียง
งานนี้เป็นงานสัมมนาระดับชาติ ว่าด้วยเรื่องเอดส์ ครั้งที่ 11 แล้วค่ะ
ดิฉันเองก็เพิ่งได้ร่วมด้วยในครั้งนี้ เพราะว่างานป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์นั้น เปลี่ยนผู้ปฏิบัติงานอยู่บ่อยครั้ง ( สลับกัน ระหว่างกลุ่มงานกิจกรรมและกลุ่มงานสวัสดิการ ) อิอิ แต่ดิฉันจะได้รับมอบหมายให้ทำอยู่เสมอ เนื่องจากว่า เป็น พยาบาลวิชาชีพ คนเดียวของกองกิจการนิสิต ค่ะ
งานป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ ในระดับสถาบันอุดมศึกษา ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เดิมทีนั้น ทางต้นสังกัดคือ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา( สกอ. ) เป็นเจ้าภาพค่ะ ดิฉันต้องเขียนโครงการและรับงบประมาณต่างๆจาก สกอ. แต่จากการประชุมร่วมกับเครือข่ายป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์จังหวัดมหาสารคาม เมื่อปีที่แล้ว ( ตามคำสั่งอนุกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ของจังหวัด ) ทำให้ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า ต่อไปเมื่อเป็นผู้ว่าราชการ CEO เราจะบูรณาการงบประมาณเกี่ยวกับโรคเอดส์เป็นก้อนเดียวกันหมด แต่จนเดี๋ยวนี้ ดิฉันก็ยังไม่ได้รับแจ้งจาก ต้นทาง ทางใดว่าให้เขียนโครงการฯส่งขอที่ไหน ( ปกติ ทางสกอ.จะมีหนังสือแจ้งเวียนมาให้เขียนโครงการฯของบฯค่ะ แต่ปีนี้ยังเงียบๆ ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร เพราะบางปีก็จะเงียบๆแบบนี้ )
แต่จากงานสัมมนาเอดส์ชาติ ครั้งที่ 11 นี้ เห็นได้ว่า ทางผู้จัดการสัมมนา เน้นไปด้านของการป้องกันและการอยู่ร่วมกันได้ในสังคม เห็นได้จาก ชื่อ topic เลยค่ะ เอดส์ : ก้าวต่อไปในยุคเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งก็พูดกันมากถึง ค่าใช้จ่ายต่อหัว ในการป้องกัน และการรักษา ซึ่งแตกต่างกันมาก
การป้องกัน คือ การป้องกันผู้ติดเชื้อรายใหม่นั้นครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่ เยาวชน เราก็พูดกันถึง การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย และสุขภาวะอนามัยสตรีวัยเจริญพันธ์
การใช้ถุงยางอนามัย มีการนำเสนอออกบูธของบริษัท
และการเข้าถึงถุงยางอนามัย นำเสนอเกี่ยวกับตู้ถุงยางอนามัยหยอดเหรียญ
แนวการป้องกันของชายรักชาย แนวทางการป้องกันของผู้ใช้สารเสพติด<p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal">ส่วน การรักษา คือ การเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ ก็พูดกันถึงเรื่องของการพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายด้านยาต้านไวรัสเอดส์ให้อยู่ในฐานะที่ประเทศไทย สามารถรับภาระได้</p><p> สิทธิเหนือสิทธิบัตร ( Compulsory Licensing หรือ CL ) ยา " เอฟฟาไวเรนซ์ ยาคาเลตรา " ซึ่งใช้เป็นยาต้านไวรัสเอชไอวี และยา " พลาวิกส์ " ที่ใช้รักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด</p><p> การอยู่ร่วมกันในสังคม การดูแลเด็กที่ติดเชื้อจากพ่อแม่ </p><p>แล้วจะมาเล่าต่อนะคะ </p>
น้องหนิงเปลี่ยนรูปอีกแล้ว มา กทม.ก็ไม่บอกกันเลยนะคะ
คนเก่ง ความสามารถเยอะ ต้องทำงานมากอย่างนี้แหละคะ ทำทุกอย่างเลย เหนื่อยไหมคะ