นกเงือก รักสุดคลาสสิค


การเฝ้ารออย่างอดทนในรักแท้ เป็นวิถีที่งดงามยิ่ง

 

ครั้งหนึ่งผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมลูกค้าที่ปาดังเบซาร์ ร้านค้าส่วนใหญ่ที่วันนั้นผมวางแผนจะเข้าไปหา ส่วนใหญ่อยู่ในตลาด ซึ่งก็ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีประสบการณ์หนึ่งที่ผมไม่เคยลืมเลยกับการมาเยือนปาดังเบซาร์ในครั้งนี้ เรื่องมีอยู่ว่า

หลังจากที่ผมได้เสร็จธุระในช่วงเช้าแล้ว ซึ่งตะวันก็โด่งใกล้เที่ยงเต็มที ผมคิดว่าอย่ากระนั้นเลย หาอะไรอร่อย ๆ แถวนี้กินดีกว่า หันซ้ายหันขวาก็เจอร้านอาหารร้านหนึ่ง บรรยากาศร่มรื่นปกคลุมเป็นส่วนใหญ่ของร้าน มีต้นไม้เยอะพอประมาณ ทั้งต้นใหญ่ ต้นเล็ก ไม้ต้น ไม้ดอก ถือได้ว่าจัดร้านได้ไม่เลวเลยทีเดียว แต่ถ้ามากกว่านี้ คงจะรกตาแลดูพิลึก ก็ตัดสินใจว่า ร้านนี้แหล่ะที่ผมจะฝากท้องสำหรับเที่ยงนี้ ก็เลยเดินข้ามถนนมุ่งตรงสู่ทางเข้าของร้าน

กำลังจะเดินผ่านรั้วของร้าน หางตาขวาเหลือบไปเห็นกรงขนาดใหญ่อยู่ทางขาวมือ นึกในใจว่าบรรยากาศร้านเข้าใกล้สวนสัตว์ขึ้นทุกที ด้วยความสงสัย ผมก็พยายามใช้สายตาสอดส่ายดูว่า เอ๊ะ....กรงตาข่ายสี่เหลี่ยม สูงประมาณ 2 ฟุต กว้างยาวก็ประมาณเตียงนอนขนาดคิงไซส์ เป็นกรงขังอะไรกันแน่ 

พยายามมองอยู่นานก็เห็นสัตว์ที่อยู่ในกรงจนได้ นกเงือกตัวใหญ่ ขนสีดำมันขลับ คอสีเขียว ส่วนปากและจมูกสีเหลืองเข้ม นั่งนิ่งอยู่บนคอนไม้ ไม่ขยับเขยื้อน ผมคิดในใจ คงจะเป็นหุ่นที่ทางร้านเอามาตั้งโชว์ให้ลูกค้าดู คิดได้ดังนั้นก็เดินต่อเข้าไปในตัวร้าน กำลังจะเลยผ่านกรง หางตาก็เห็นว่าเจ้าหุ่นนกเงือกขยับคอ ผมหันขวับกลับไปดูให้แน่ใจอีกครั้ง ปรากฏว่ามันไม่ใช่หุ่น มันเป็นนกเงือกจริง ๆ ตัวเป็น ๆ อยู่ตัวเดียว

ผมพยายามเพ่งมองดูสายตาของมัน ผมสัมผัสได้ถึงความเศร้าโศกที่มันพยายามเก็บไว้ไม่ให้ผมเห็น พร้อมกับแสร้งทำเป็นใช้จงอยสีเหลืองสดจิกนู้นจิกนี้ไปเรื่อย เพื่อจะบอกผมว่ามันสบายดี ไม่ได้เป็นอะไร

นานมาแล้วที่ผมเคยได้เรียนรู้ว่านกเงือกนั้นเป็นสัตว์ผัวเดียวเมียเดียว หมายความว่าอะไร ก็หมายความว่า ถ้านกเงือกที่มีคู่แล้วต้องมีอันพลัดพรากจากคู่ของมัน มันก็จะไม่มีคู่ใหม่อีกแล้ว ก็ได้แต่เฝ้ารอว่าซักวันหนึ่ง มันจะได้กลับมาอยู่เป็นคู่เชยกับคู่รักของมันอีกครั้ง เฝ้ารออย่างมีความหวัง ถึงแม้ตัวเองจะสูญเสียอิสระภาพอย่างถาวรแล้วก็ตาม หลาย ๆ ครั้งที่บางตัวก็ตรอมใจตายไปเอง

นกเงือกเป็นสัตว์โลกที่มีชีวิตรักสุดคลาสสิคมากชนิดหนึ่งเลย ตั้งมั่นในรักเดียวที่มี เอื้อเฟื้อ เห็นอกเห็นใจและเคียงข้างกันมิห่างกาย ตราบเท่าจะมีสัตว์ชนิดอื่นหรือความตาย มาพรากทั้งคู่ออกจากกัน

มองตาเจ้าเงือกที่อยู่ในกรงแล้วก็ให้เวทนาใจ แววตาที่เฝ้ารออย่างมีความหวัง ความหวังว่าสักวันจะได้เจอคนที่รัก เฝ้ารอว่าสักวันจะได้กลับไปคลอเคลียกันอย่างเคย  คงจะเฝ้ารอมานานมากแล้ว ถึงจะทำให้มันทรมานใจ แต่ก็เป็นสิ่งงดงามแห่งความรัก  

คนเราก็ไม่ต่างจากนก ความรักที่ตั้งมั่น มั่นคงในคนที่เราเชื่อมั่น การเฝ้ารออย่างอดทนในรักแท้ เป็นวิถีที่งดงามยิ่ง งดงามแห่งรักที่ถึงแม้จะทรมาน แต่ก็ทรมานบนความอิ่มเอมแห่งความหวัง

มื้อเที่ยงวันนั้นเป็นข้าวคลุกกะปิ กับน้ำแตงโมปั่น กินไปก็ให้รู้สึกฝืดในคอไป เหมือนกับว่าความโหดร้ายที่กระทำกันข้าม Species ได้เอาคืนบ้างแล้ว

 

คำสำคัญ (Tags): #นกเงือก
หมายเลขบันทึก: 114209เขียนเมื่อ 25 กรกฎาคม 2007 01:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 14:58 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)
  • พี่กุ๊กคะ ออ ชอบสำนวนที่พี่กุ๊กเขียนมากเลยค่ะ มันเหมือนอ่านนิยายยังไงยังงั้นเลย (ลื่นหูดี) สำนวนชวนให้ติดตาม พี่กุ๊กมีแววเป็นนักเขียนนะคะ ฟันธง!!!!
  • เอาไว้พี่กุ๊กจัดงานแต่งงาน ออ จะสั่งให้ทางโรงแรมสลักน้ำแข็งเป็นนกเงือกที่หน้างานเลยนะคะ พี่กุ๊กว่าดีป่าวเอ่ย
  • ว่าแต่ว่าคนที่พี่รอคอยเนี่ย เห็นลางๆ บ้างหรือยังคะ

    ได้อ่านแล้วก็ทำให้รู้ว่า คุณกุ๊กเป็นคนละเอียดอ่อนมาก เพียงแค่มองตาก็ลึกซึ้งไปถึงหัวใจ ขนาดเป็นนกเงือกยังเข้าใจถึงความรู้สึกได้ขนาดนี้ ถ้าหากเป็นคนจะขนาดไหน ต่อไปหากใครจะให้คุณกุ๊กสบตาก็ระวังความลับในใจจะถูกเผยออกมานะครับ...

    สุดท้ายประโยคคลาสสิคที่บอกว่า "ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์" ก็ยังคงใช้ได้เสมอ ถ้ารักมากก็ทุกข์มาก แต่ทำไมคนยังขวนขวายหาความรักอยู่ตลอดเวลา ใครตอบได้ช่วยบอกทีครับ...

ขอบออมากน่ะครับที่ให้กำลังใจพี่ ด้วยวิธีการยกยอสำนวนการเขียนของพี่

ขอบคุณสำหรับนกเงือกน้ำแข็ง เพราะพี่ชอบเจ้าเงือกเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว

ยังมืดมนอยู่จ้ะ

ขอบคุณคุณหมอก้องน่ะครับที่อ่านงานเขียนของผม

และสุดท้ายผมก็อยากรู้เหมือนที่คุณหมอก้องอยากรู้เหมือนกันว่า ทำไมคนเราถึงได้ถวิลหาความรักกันนักหนา

 

ชอบสำนวนของกุ๊กเหมือนกันน่าอ่านดี  เป็นที่น่าสังเกตุว่าคนเราชอบเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอยู่ในกรง แต่แปลกใจที่ไม่ยังชอบให้ตัวเองอยู่ในกรงเหมือนสัตว์เลี้ยง ทั้งที่บางครั้งเราให้ความสบายทุกอย่างทำไม่เค้าไม่เอาใจเค้ามาใส่ใจเรานะ    นี่ล่ะมนุษย์ที่สุดแสนประเสริฐ!!!!

  • ขอยืนยันอีกครั้งนะคะว่าพี่กุ๊กใช้สำนวนดำเนินเรื่องที่บันทึกชวนให้น่าติดตามอ่านมาก พี่เหมาะจะเป็นกวีเอกเหมือนกันนะเนี่ย เขียนอีกนะ จะติดตามอ่านไปเรื่อยๆ ค่ะ
  • ขอแสดงความคิดเห็นของตัวเองนะคะ เรื่อง "ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ แต่ทำไมคนเราถึงได้ถวิลหาความรักกันนักหนา" เพราะว่า "ความรัก" เสมือนเป็นยาวิเศษหรือน้ำที่มาหล่อเลี้ยงหัวใจของเรา เป็นเหมือนพลังเงียบที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้คนเรามีแรงที่จะทำอะไรได้มากมาย คนเราทุกคนไม่มีใครที่จะรู้สึกว่าชีวิตของเราเองมีครบทุกอย่าง ทุกคนจะต้องมีสิ่งที่ขาดไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม ความรักก็เป็นสิ่งหนึ่งที่คนเราไขว่ขว้าหาเพื่อมาเติมเต็มชีวิตของตัวเอง (รู้สึกยิ่งตอบยิ่งเข้าป่า ไม่รู้ตอบตรงประเด็นหรือเปล่านะคะ เอาไว้ให้คนอื่นตอบบ้างดีกว่านะ)
  • เมื่อคืนได้ดูรายการ "ราตรีสโมสร" ทางช่อง 3 มีพระภิกษุรูปหนึ่งมาออกรายการ ขอฝากคำพูดของท่านไว้นะคะ (ความหมายดีมาก) "การมีรักก็เหมือนอยู่อย่างเจ็บปวด แต่ไม่เหน็บหนาว ส่วนการไร้รักก็เหมือนอยู่อย่างไร้ความเจ็บปวด แต่เหน็บหนาว" เพราะฉะนั้นถ้าใครมีแฟนก็ควรถนอมน้ำใจซึ่งกันและกันจะได้อยู่อย่างไม่เจ็บปวดและไม่เหน็บหนาวด้วยนะคะ....
พี่กุ๊กค่ะ เขียนบันทึกได้น่าอ่าน และน่าติดตามมากค่ะ เขียนบ่อย ๆ น่ะ จะรออ่านค่ะ อ้ออีกอย่างค่ะ คนเราไร้คู่ก็มีความสุขได้ โดยความสุขที่ว่านั้นจะมาจากคนในครอบครัวและเพื่อน ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ตัวเราไงล่ะ คนที่ไม่มีรักจะไม่เจ็บปวดแต่เหน็บหนาวบ้างแค่บางช่วงเท่านั้นน่ะค่ะออ confirm จ๊ะ

Confirm ค่ะ  คุณจตุพร  และคุณครูแอน  ว่าหาดใหญ่น่าอยู่ ....... แม้ว่าจะมีระเบิดบ้างเป็นบางครั้งบางคราวก็ตามที

พี่กุ๊กคะ...

   ขอโทษด้วยค่ะ.... น้อง Comment ผิดคนไปหน่อย 55555 อย่าโกรธกันนะคะ....

 

ไปละ.............................แว้บบบบบบบบบบบบ

อ่านแล้วเพลินดีค่ะกุ๊ก ขอให้มีเรื่องมาเล่าให้ฟังอย่างงี้บ่อย ๆ นะคะ

เรื่องราวที่แบ่งปันทำให้น่ากลับไปใช้กับสังคมในวันนี้

แต่ถ้าพูดถึงการรอคอย บางครั้งมันก็ดีเพราะเราจะสุขที่ได้คิดถึงสิ่งที่เฝ้ารอ แต่วันใดได้สิ่งนั้นกลับมามันไม่ได้เป็นอย่างเราคิด ก็ขอให้รอต่อไปดีกว่า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท