จตุคามรามเทพ กับการเรียนการสอนคณิตศาสตร์
เมื่อคราวก่อนเกริ่นว่าจะมีเรื่องอื่นๆอีกหลายเรื่องที่อยากเขียนมานาน แต่ไม่ได้เริ่มสักที แต่สงสัยวันนี้คงต้องลัดคิวเขียนเรื่องนี้ก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวจะหาว่าตกกระแสไม่ทันสมัยอินเทรนด์กับชาวบ้านเค้าอย่างที่จั่วหัวไว้ แทบไม่น่าเชื่อว่ากระแสจตุคามจะแรงได้ขนาดนี้ ไปไกลถึงเมืองนอกแล้ว ไม่เว้นแม้แต่ในอินเตอร์เนท ซึ่งอาจค้นหาได้มากมายโดยใช้ Google หรือ ในสารานุกรมวิกิพีเดียก็ยังมีสรุปเกี่ยวกับจตุคาม เป็นต้น ถ้าอยากรู้มากกว่านี้ลองค้นดูก็ได้ครับ (จาก Google Trends พบว่ามีการค้นหาคำเกี่ยวกับ จตุคาม กันอย่างมากมายในอินเตอร์เนทตั้งแต่ช่วงต้นปี 2006) แต่ปัญหาอยู่ที่ เรื่องขององค์จตุคามรามเทพจะมีส่วนเกี่ยวกับการเรียนการสอนการทำโครงงานคณิตศาสตร์ได้อย่างไร ว่าแล้วก็มาอ่านกันเลย แต่ก่อนอื่นต้องขอออกตัวนิดนะครับว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะลบหลู่ หรือ มีเจตนาที่จะชวนเชื่อให้นับถือ แต่ขอมองแบบเป็นกลางๆ ในเชิงวิชาการมากกว่านะครับ
เมื่อเอ่ยถึงองค์จตุคามหลายท่านนึกถึงองค์เทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ความร่ำรวย และอีกมากมาย แต่ในที่นี้ขอเสนออีกมุมมองหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับการเรียนการสอน อาจเป็นมุมมองที่เหมือนหรือแตกต่างแล้วแต่จะพิจารณา...อาทิเช่น
- ถ้าพิจารณาในมุมมองของศิลป หรือการออกแบบงานศิลป์ ต้องยอมรับว่าแต่ละเหรียญแต่ละรุ่นที่สร้างล้วนสวยงามแฝงไว้ด้วยลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ มีประวัติความเป็นมา ซึ่งถ้ารวบรวมแต่ละรุ่นมาศึกษา น่าจะเป็นต้นแบบของการเรียนการสอนงานศิลปหรือประวัติศาสตร์ได้ในบางประเด็น และไม่แน่นะครับถ้าลองวัดดูสัดส่วนต่างๆในเหรียญหรือรูปหล่ออาจพบว่าสัดส่วนบางส่วนในองค์จตุคามอาจไปสอดคล้องกับเรื่องของ อัตราส่วนทองคำ (golden ratio) ก็ได้ใครจะรู้ (สำหรับท่านที่สนใจเกี่ยวกับ อัตราส่วนทองคำ หาอ่านได้มากมายครับลองค้นหาดูได้ และถ้ามีโอกาสอาจจะได้คุยกันเรื่องนี้ ถ้าว่างพอนะครับ)
- ถ้าพิจารณาในมุมมองของคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวกับเรขาคณิต อาจนำไปสู่การศึกษาได้หลายประเด็น ตัวอย่างเช่น
> องค์จตุคามที่สร้างนั้นถ้าเป็นเหรียญ มองเป็นสองมิติ อาจนำ ไปสู่การเรียนการสอนที่เกี่ยวกับวงกลม พื้นที่ เส้นรอบวง
> เมื่อพิจารณารูปหล่อหรือมองเป็นเหรียญสามมิติ อาจนำไปสู่การเรียนรู้เรื่อง ปริมาตร หรือเชื่อมโยงไปถึงเรื่อง น้ำหนัก มวล หรือ ความหนาแน่น - ถ้าพิจารณาในด้านของมวลสารที่นำมาผสมกันเป็นรูปหล่อ หรือเหรียญ อาจนำไปสู่การเรียนการสอนเกี่ยวกับ อัตราส่วน ร้อยละ หรือของผสม
-
ถ้าพิจารณาในแง่ของคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวกับการบริหารธุรกิจ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องมากมายไม่ว่า จะเป็น
> ในด้านของต้นทุน (ขึ้นอยู่กับ มวลสารว่าหายากง่ายแค่ไหน พิธีกรรมการปลุกเสกอลังการเพียงใด เงินที่บริจาคให้วัด ค่าขนส่ง ค่าบรรจุหีบห่อ ค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่แน่ๆมีต้นทุนค่าโฆษณาแฝงอยู่ด้วยจำนวนมาก ซึ่งทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในตลาดอย่างมหาศาล ซึ่งงบส่วนนี้มากกว่าการโฆษณาประเภทอื่นๆและจัดอยู่ในอันดับแรกเลยก็ว่าได้)
> ในด้านของรายรับหรือยอดสั่งจอง
> ในด้านของกำไร ที่แต่ละท่านอ้างว่าจะนำไปบริจาคหรือทำบุญ ซึ่งจากการประมาณการคร่าวๆกะได้ว่าผู้สร้างแต่ละรุ่นน่าจะได้กำไรไปทำบุญไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของต้นทุนทั้งหมด ซึ่งจะเป็นระดับล้าน สิบล้านหรือมากกว่านั้น
> และที่แน่ๆเมื่อมี รายรับ รายจ่าย กำไร แล้วก็ควรมีการเสียภาษี(หรือหลบภาษี) ตามที่เป็นข่าว ซึ่งก็เป็นตัวอย่างของการเรียนการสอนเกี่ยวกับการบริหารได้อย่างครบวงจร - ถ้าพิจารณาในแง่ของคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวกับสถิติ สามารถมองได้หลายประเด็นไม่ว่า จะเป็นการนำเสนอข้อมูล หรือ การรวบรวมข้อมูลทางสถิติที่เกี่ยวกับ จำนวนรุ่นที่ปลุกเสก หรือสถิติที่เกี่ยวกับความน่าจะเป็นของผู้ที่บูชาแล้วรอดจากอุบัติเหตุ หรือรวยจากการบูชา เมื่อรวบรวมศึกษาจากข่าวต่างๆ เป็นต้น
แต่ไม่ว่าจะศึกษาในแง่มุมใด ก็มีความจริงบางประการที่เป็นสัจจธรรมก็คือ ทุกสรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดา ยิ่งเจริญเติบโตเร็วมากเท่าใด โอกาสที่จะเสื่อมถอยเร็วก็มากเช่นกัน และถ้าเป็นชาวพุทธที่แท้จริง คงต้องระลึกไว้เสมอว่าไม่ควรหลงกระแสโฆษณา ไม่ควรเชื่องมงายไร้เหตุผล ควรยึดหลักธรรมกาลามสูตร ไม่ควรโลภหวังร่ำรวย ควรมีความขยันหมั่นเพียร ทำแต่ความดี ใช้สติปัญญาพิจารณา เพียงแค่นี้ธรรมและทวยเทพจะคุ้มครอง โดยไม่ต้องแขวนอะไรให้มากมาย...
องค์จตุคามนอกจากท่านจะคอยปกป้องคุ้มครองคนดีแล้ว ยังสามารถเป็นต้นแบบการเรียนการสอนหรือการทำโครงงานคณิตศาสตร์ได้อย่างดี อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว และถ้าบังเอิญความคิดเห็นเหล่านี้มีข้อความใดที่อาจล่วงเกินโดยมิได้ตั้งใจก็คงต้องขออภัยทุกท่านมานะทีนี้...
....ที่ผ่านมามีการปลุกเสกองค์จตุคามรามเทพมากมายหลายรุ่น ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไรจะมี รุ่นรวยธรรม รวยปัญญา รวยความดี กันสักที...
