...ทีวี....เรื่องที่ต้องนำกลับมาคิดซ้ำ


ผลกระทบจากการดูทีวีที่มีต่อเด็กมีมากกว่าที่คิด

         เมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา  ผู้เขียนมีโอกาสดูรายการจุดเปลี่ยน  ทางช่อง  9  ซึ่งนำเสนอตอน  "ทีวี......พี่เลี้ยงจอตู้"  นับเป็นรายการที่ดีมากที่สุดอีกรายการหนึ่งที่ควรเฝ้ารอดู...ตามความคิดเห็นของผู้เขียน

        สิ่งที่ทางรายการนำเสนอเป็นเรื่องของทีวี  ที่มีกันแทบทุกบ้านก็ว่าได้  ความจริงแล้วน่าจะเป็นประโยชน์เพราะเจ้าทีวีนี่จะนำมาซึ่งความบันเทิง  แต่.....เอาเข้าจริงแล้ว  เจ้าจอตู้สี่เหลี่ยมนี่ร้ายกว่าที่ผู้ใหญ่หลายต่อหลายคนมองข้ามถึงอันตรายที่กำลังจะส่งต่อไปยังเยาวชนของเรา

         จากการสำรวจของทีมงานพบว่ามีเด็กดูทีวีสูงสุด  คือ  7  ชั่วโมง/วัน  มีจำนวนมากถึง  28%     และข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า  โดยเฉลี่ยเด็กไทยดูทีวีใช้เวลายาวนานถึง  6.1  ชั่วโมง/วัน  หรือสรุปต่อข้อเท็จจริงที่พบอีกคือ  เด็กไทยใช้เวลาดูทีวีมากกว่าใช้เวลาเพื่อการเรียนรู้ในห้องเรียนซะอีก  โดยสรุปเป็นปีคือเวลาเด็กที่ใช้ในการดูทีวีมีมากถึง  2,236  ชั่วโมง/ปี  ในขณะที่เด็กไทยใช้เวลาเพื่อการเรียนรู้ในห้องเรียนเพียงแค่  1,600  ชั่วโมง/ปี   น่าเป็นห่วงเยาวชนไทยและการศึกษาไทยนะคะ   สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เด็กต้องใช้เวลาอยู่กับทีวีมาก  คือ   ผู้ปกครอง  จากการสำรวจอ้างว่า  60%  ของพ่อแม่ที่ไม่มีเวลาเลี้ยงดูลูกอย่างเต็มที่  จึงปล่อยให้ลูกดูทีวีเพื่อไม่ให้รบกวนตนเองขณะที่ต้องทำงาน

         ซึ่งสื่อบางเรื่อง, บางอย่างที่เด็กเหล่านี้ดูจากทีวีและซึมซับเอาไว้กับตัว  คือ  สื่อความรุนแรงที่แสดงออกมาทางทีวี  ไม่ว่าจะมาจากละคร, หนัง, หรือแม้แต่การ์ตูนที่เด็กๆ โปรดปราน และไม่มีผู้ปกครองคอยเข้มงวดต่อลักษณะหรือประเภทของโทรทัศน์ที่เด็กสามารรับชมได้อย่างเหมาะสมตามช่วงอายุของเค้า   เมื่อเด็กได้รับสื่อต่างๆ ที่ครอบงำความคิดของเค้าแล้ว  สิ่งที่แย่หนักเข้าไปอีก  คือ  การลอกเลียนแบบ  ซึ่งข่าวต่างๆ จะปรากฎทางหน้าหนังสือพิมพ์หรือแม้กระทั่งหน้าจอข่าวทางทีวีก็เถอะ

         ถึงที่สุดแล้ว........คงจะต้องหันกลับมาทบทวนภัยร้ายที่จะมาจากทีวีที่จะส่งผลกระทบต่อเยาวชนของเราทั้งในเรื่องพัฒนาการทางสติปัญญา  , ทางอารมณ์  ทำให้เค้ามีสมาธิสั้น  และปัญหาสุขภาพของตัวเด็กเองขณะนั่งดูทีวีนานๆ อีกด้วย

         ทางนักวิจัยต่างประเทศได้เสนอแนะแนวทางแก้ไขในเรื่องการป้องกันภัยร้ายทางทีวีที่จะมาถึงตัวเด็กว่า  ไม่ควรให้เด็กที่มีอายุก่อน  6  ปี  ดูทีวี  ทางที่ดีคือให้เค้าเรียนรู้จากสื่อของจริงร่วมกับพ่อและแม่  เพราะเด็กวัยนี้จะเป็นช่วงวัยที่เรียนรู้และรับสิ่งต่างๆ ได้อย่างเต็มๆ  และหากเด็กกำลังจะติดทีวีพ่อแม่ก็ควรให้เด็กทำกิจกรรมอื่นๆ ที่มีประโยชน์มากกว่าการทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการดูทีวี

         แล้วไม่ทราบว่าเยาวชนในความดูแลของท่านกำลังติดทีวีอยู่รึปล่าวคะ 

 

คำสำคัญ (Tags): #ทีวี
หมายเลขบันทึก: 114605เขียนเมื่อ 25 กรกฎาคม 2007 23:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:38 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ

- นี่คือข้อด้อยในการพัฒนาของเรา

- ผู้ปกครองมักฝากเด็กไว้กับพี่เลี้ยงจอตู้เพราะต้องทำกิน

- อยากให้มีทีวีสักช่องหนึ่งเป็นของเด็กโดยเฉพาะ

 

สวัสดีค่ะพี่P

  • แล้วเราก็คงต้องรอโอกาสนั้นต่อไปอีกยาวมังคะ
  • เพราะจริงๆ แล้วในชีวิตประจำวันเด็กๆ ก็ดูหนังดูละครที่คุณพ่อคุณแม่ดูนี่ล่ะค่ะ   แต่คุณแม่คุณพ่อสักกี่รายนะที่จะนั่งอธิบายว่าสิ่งที่เห็นในละครดี/ไม่ดีอย่างไร
  • เพราะเท่าที่เห็น.....คุณแม่คุณพ่ออาจจะไม่มีเวลามานั่งอธิบายให้เค้าเข้าใจไงคะ
  • สุดท้ายสิ่งที่เค้าซึมซับไปกลายเป็นเรื่องที่เค้าทำเลียนแบบอย่างในทีวีที่เค้าเห็นเฉยเลย
  • พวกเราเลยได้แต่นึกอนาถ....เมื่อเห็นข่าวเด็กๆ ตามหน้าหนังสือพิมพ์ในข่าวหน้าหนึ่งบ่อยๆ
  • เนี่ย...มังคะผลจากสื่อที่ไม่สร้างสรรค์นัก
  • ขอบคุณนะคะที่มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท