ครั้งแรกในชีวิตที่เราไปใช้ชีวิตแบบปลีกวิเวก กล่าวคือ ไปรักษาศิล ปฎิบัติธรรม ในเขตปฎิบัติธรรม ที่เป็นภูเขา และพักอยู่ตามลำพังในเรือนหลังเก่าคร่ำคร่า ต้องใช้เวลาปัดถูกว่าจะสะอาดและพักนอนได้ มีกิ้งกือ สุดยอดแห่งสัตว์ที่เรากลัว มีขนาด ใหญ่กว่าหัวแม่มีอ ครั้งแรกคิดว่าจะทนอยู่ด้วยกัน ใน5 วันนี้ แต่ที่สุด ก็ต้องเชิญออกไปอยู่ข้างนอก เพราะพี่แกเดินเรื่อยเปี่อย เมื่อเสร็จภารกิจ ก็นั่งสมาธิขออนุญาตเจ้าที่ เจ้าทางสักหน่อย แต่ได้ยินเสียงกรอกแกรก ต้องลืมตาดูตามเสียง ตุ๊กแก ตัวเท่าแขน 2 ตัว กำลังส่งสายตามาอย่างสงสัย อ่อนใจเหมือนกัน ในที่สุด ก็บอกว่า ขออญู่ 4 คืนนะ เขาก้ ok และคลานหายไปทางช่องลมไม่กลับมาอีก
ได้ข้อคิดมากมาย เมื่อต้องอยู่คนเดียว ทั้งความคิด ทั้งสภาพแวดล้อม แต่ผลสรุป เราได้สัมผัสความสุขกลับมา ซึ่งจะนำมาเล่าสู่กันฟังต่อไป
สวัสดีครับ
แวะเข้ามาเยี่ยมเยียน หายไปไหนเสียนาน
เป็นไงอยู่คนเดียว ในที่เปลี่ยวๆ กลัวละซิ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม งั้นขออนุญาตเล่าตอนต่อไปเลยนะคะ ตกกลางคืนของวันแรก ดิฉันแทบไม่ได้นอนเพราะสาระพัดเสียง ไหนจะกิ่งไม้ที่หล่นใส่หลังคาอย่างแรง ทำให้สะดุ้งสุดตัว รีบตั้งสติ แล้วคิดว่าอ้อกิ่งไม้ พอจะหลับตาลงอีกครั้ง ก็มีเสียงเหมือนโลหะหนักหล่นกระทบพื้น อันนี้ไม่รู้อะไร ก็ทำให้ตื่นสะดุ้งได้อีกครั้ง เป็นระยะ ๆ บางครั้งสุนัขหอนรับกันน่าใจหาย บางครั้งเสียงสัตว์เล็กต่อสู้กัน ก็นอนฟังไปเรื่อยๆ สุดท้ายเหมือนเสียงรถไฟทั้งขบวนวิ่งอยู่ในป่าเขานี้ ซึ่งทราบมาว่า ไม่มีทางรถไฟสายไหนผ่านเลย เลยเที่ยงคืนมานาน ดิฉันเลยจำคำของ กัลยาณมิตรท่านหนึ่ง บอกให้ขอบารมีพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณคุ้มครอง จึงหลับและตื่นอีกครั้งตี 3 เตรียมนั่งสมาธิและสวดมนต์เช้าค่ะ