หน้าแรก
สมาชิก
ครูสุจิรา
สมุด
การจัดการเรียนการ...
รูปแบบการเรียนการ...
ครูสุจิรา
นาง สุจิรา ครูนาฏศิลป์ ขวัญเมือง
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
:
โมเดลซิปปา
(CIPPA
Model)
หรือรูปแบบการประสานห้าแนวคิด
โดย
ทิศนา
แขมมณี
ก.
ทฤษฎี / หลักการ / แนวคิดของรูปแบบ
ทิศนา
แขมมณี
(2543
:
17)
รองศาสตราจารย์
ประจำคณะครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ได้พัฒนารูปแบบนี้ขึ้นจากประสบการณ์ที่ได้ใช้แนวคิดทางการศึกษาต่าง ๆ ในการสอนมาเป็นเวลาประมาณ
30
ปี และพบว่าแนวคิดจำนวนหนึ่งสามารถใช้ได้ผลดีตลอดมา
ผู้เขียนจึงได้นำแนวคิดเหล่านั้นมาประสานกัน
ทำให้เกิดเป็นแบบแผนขึ้น
แนวคิดดังกล่าวได้แก่
(1)
แนวคิดการสร้างความรู้ (2)
แนวคิดเกี่ยวกับกระบวนการกลุ่มและการเรียนรู้แบบร่วมมือ (3)
แนวคิดเกี่ยวกับความพร้อมในการเรียนรู้
(4)
แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ และ
(5)
แนวคิดเกี่ยวกับการถ่ายโอนการเรียนรู้
ทิศนา
แขมมณี
(2543
:
17
–
20 )
ได้ใช้แนวคิดเหล่านี้ในการจัดการเรียนการสอนโดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในลักษณะที่ให้ผู้เรียนเป็นผู้สร้างความรู้ด้วยตนเอง
(construction
of
knowledge )
ซึ่งนอกจากผู้เรียนจะต้องเรียนด้วยตนเองและพึ่งตนเองแล้ว
ยังต้องพึ่งการปฏิสัมพันธ์ (
interaction)
กับเพื่อน บุคคลอื่น ๆ และสิ่งแวดล้อมรอบตัวด้วย
รวมทั้งต้องอาศัยทักษะกระบวนการ
(process
skills)
ต่าง ๆ จำนวนมากเป็นเครื่องมือในการสร้างความรู้
นอกจากนั้นการเรียนรู้จะเป็นไปอย่างต่อเนื่องได้ดี
หากผู้เรียนอยู่ในสภาพที่มีความพร้อมในการรับรู้
และเรียนรู้
มีประสาทการรับรู้ที่ตื่นตัว
ไม่เฉื่อยชา
ซึ่งสิ่งที่สามารถช่วยให้ผู้เรียนอยู่ในสภาพดังกล่าวได้ก็คือ
การให้มีการเคลื่อนไหวทางกาย
( physical
participation)
อย่างเหมาะสม
กิจกรรมที่มีลักษณะดังกล่าวจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี
เป็นการเรียนรู้ที่มีความหมายต่อตนเอง
และความรู้ความเข้าใจที่เกิดขึ้น
จะมีความลึกซึ้งและอยู่คงทนมากขึ้น
มากผู้เรียนมีโอกาสนำความรู้นั้นไปประยุกต์ใช้
(application)
ในสถานการณ์ที่หลากหลาย
ด้วยแนวคิดดังกล่าว
จึงเกิดแบบแผน
“CIPPA”
ขึ้น
ซึ่งผู้สอนสามารถนำแนวคิดทั้ง
5
ดังกล่าวไปใช้เป็นหลักในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางให้มีคุณภาพได้
ข.
วัตถุประสงค์ของรูปแบบ
รูปแบบนี้มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องที่เรียนอย่างแท้จริง
โดยการให้ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเองโดยอาศัยความร่วมมือจากกลุ่ม
นอกจากนั้นยังช่วยพัฒนาทักษะกระบวนการต่าง ๆ จำนวนมาก
อาทิ
กระบวนการคิด
กระบวนการกลุ่ม
กระบวนการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
และกระบวนการแสวงหาความรู้
เป็นต้น
ค.
กระบวนการเรียนการสอนของรูปแบบ
ซิปปา
(CIPPA)
เป็นหลักการซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นหลักในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ให้แก่ผู้เรียน
การจัดกระบวนการเรียนการสอนตามหลัก
“CIPPA”
นี้สามารถใช้วิธีการและกระบวนการที่หลากหลาย
ซึ่งอาจจัดเป็นแบบแผนได้หลายรูปแบบรูปแบบหนึ่งที่ผู้เขียนได้นำเสนอไว้และได้มีการนำไปทดลองใช้แล้วได้ผลดี
ประกอบด้วยขั้นตอนการดำเนินการ
7
ขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่
1
การทบทวนความรู้เดิม
ขั้นนี้เป็นการดึงความรู้เดิมของผู้เรียนในเรื่องที่จะเรียน
เพื่อช่วยให้ผู้เรียนมีความพร้อมในการเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิมของตน
ซึ่งผู้สอนอาจใช้วิธีการต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย
ขั้นที่
2
การแสวงหาความรู้ใหม่
ขั้นนี้เป็นการแสวงหาข้อมูลความรู้ใหม่ของผู้เรียนจากแหล่งข้อมูลหรือแหล่งความรู้ต่าง ๆ ซึ่งครูอาจจัดเตรียมมาให้ผู้เรียนหรือคำแนะนำเกี่ยวกับแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนไปแสวงหาก็ได้
ขั้นที่
3
การศึกษาความเข้าใจข้อมูลใหม่ / ความรู้ใหม่
และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม
ขั้นนี้เป็นขั้นที่ผู้เรียนจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจกับข้อมูล / ความรู้ที่หามาได้
ผู้เรียนจะต้องสร้างความหมายของข้อมูล / ประสบการณ์ใหม่ ๆ โดยใช้กระบวนการต่าง ๆ ด้วยตนเอง
เช่น
ใช้กระบวนการคิด
และกระบวนการกลุ่มในการอภิปรายและสรุปความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลนั้น ๆ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยการเชื่อมโยงกับความรู้เดิม
ขั้นที่
4
การแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม
ขั้นนี้ เป็นขั้นที่ผู้เรียนอาศัยกลุ่มเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบความรู้ความเข้าใจของตน
รวมทั้งขยายความรู้ความเข้าใจของตนให้กว้างขึ้น
ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนได้แบ่งปันความรู้ความเข้าใจของตนแก้ผู้อื่น
และได้รับประโยชน์จากความรู้
ความเข้าใจของผู้อื่นไปพร้อม ๆ กัน
ขั้นที่
5
การสรุปและจัดระเบียบความรู้
ขั้นนี้เป็นขั้นของการสรุปที่ได้รับทั้งหมด
ทั้งความรู้เดิมและความรู้ใหม่
และจัดสิ่งที่เรียนให้เป็นระบบระเบียบเพื่อช่วยให้ผู้เรียนจดจำสิ่งที่เรียนรู้ได้ง่าย
ขั้นที่
6
การปฏิบัติ
และ / หรือการแสดงผลงาน
หาก้อความรู้ที่ได้เรียนรู้มาไม่มีการปฏิบัติ
ขั้นนี้จะเป็นขั้นที่ช่วยให้ผู้เรียนได้มีโอกาสแสดงผลงานการสร้างความรู้ของตนให้ผู้อื่นรับรู้
เป็นการช่วยให้ผู้เรียนได้ตอกย้ำหรือตรวจสอบความเข้าใจของตนและช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้ความคิดสร้างสรรค์แต่หากต้องมีการปฏิบัติตามข้อความรู้ที่ได้
ขั้นนี้จะเป็นขั้นปฏิบัติ
และมีการแสดงผลงานที่ได้ปฏิบัติด้วย
ขั้นที่
7
การประยุกต์ใช้ความรู้
ขั้นนี้เป็นขั้นของการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนการนำความรู้ความเข้าใจของตนไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่หลากหลายเพื่อเพิ่มความชำนาญ
ความเข้าใจ
ความสามารถในการแก้ปัญหาและความจำในเรื่องนั้น ๆ
หลังจากการประยุกต์ใช้ความรู้
อาจมีการนำเสนอผลงานจากการประยุกต์อีกครั้งก็ได้
หรืออาจไม่มีการนำเสนอผลงานในขั้นที่
6
แต่นำมารวมแสดงในตอนท้ายหลังขั้นการประยุกต์ใช้ก็ได้เช่นกัน
ขั้นตอนตั้งแต่ ขั้นที่
1
–
6
เป็นกระบวนการของการสร้างความรู้
(construction of
knowledge)
ซึ่งครูสามารถจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนมีโอกาสปฏิสัมพันธ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
(interaction)
และฝึกฝนทักษะกระบวนการต่าง ๆ
(process
learning )
อย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากขั้นตอนแต่ละขั้นตอนช่วยให้ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมหลากหลายที่มีลักษณะให้ผู้เรียนได้มีการเคลื่อนไหวทางกาย
ทางสติปัญญา
ทางอารมณ์
และทางสังคม
อย่างเหมาะสมอันช่วยให้ผู้เรียนตื่นตัว
(active)
สามารถรับรู้และเรียนรู้ได้อย่างดี
จึงกล่าวได้ว่าขั้นตอนทั้ง
6
มีคุณสมบัติตามหลักการ
CIPP
ส่วนขั้นตอนที่ 7 เป็นขั้นตอนที่ช่วยให้ผู้เรียนนำความรู้ไปใช้
(application)
จึงทำให้รูปแบบนี้มีคุณสมบัติครบตามหลัก
CIPPA
เขียนใน
GotoKnow
โดย
ครูสุจิรา
ใน
การจัดการเรียนการสอนนาฏศิลป์
คำสำคัญ (Tags):
#รูปแบบการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
หมายเลขบันทึก: 119092
เขียนเมื่อ 12 สิงหาคม 2007 20:59 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 1 เมษายน 2012 15:20 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
ครูสุจิรา
สมุด
การจัดการเรียนการ...
รูปแบบการเรียนการ...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท