หลักธรรมแห่งการคบมิตร


หลักธรรม
ในวันหนึ่ง
พระพุทธองค์ได้นำพาสงฆ์สาวกเสด็จออกประกาศธรรม และก็ได้เดินผ่านร้านขายปลาร้านหนึ่งพระศาสดาทรงหยุดเดิน และได้ชี้พระหัตถ์ไปยังเต่าตัวหนึ่งที่คลานอยู่บนพื้น และได้มีพระกระแสรับสั่งให้สงฆ์สาวกผู้หนึ่งหยิบมันขึ้นมา เมื่อสงฆ์สาวกได้ยินก็รีบปฏิบัติตาม ครู่ต่อมาพระศาสดาทรงรับสั่งให้ปล่อยเต่าตัวนั้นลงพื้น และรับสั่งให้สงฆ์สาวกผู้นั้นลองดมที่มือของตนเอง จากนั้นพระองค์ก็ได้ตรัสถามว่า

 “บัดนี้เจ้าได้กลิ่นอะไรฤๅ? ” “กลิ่นคาวที่เหม็นมากพระพุทธเจ้าข้า ” “เป็นที่แน่นอนที่สุด! เต่าที่เคยอยู่ในถังปลาก็ต้องเปื้อนด้วยกลิ่นคาวของปลา และใครก็ตามที่จับเต่าตัวนั้นขึ้นมา กลิ่นคาวก็จะติดมือของเขาผู้นั้นมาด้วย เหตุผลเดียวกันมิตรสหายที่เจ้าคบหาก็มีผลกระทบต่อเจ้าเช่นกัน สหายบางคนทำให้เจ้าประเสริฐ แต่ก็มีที่ทำให้เจ้าตกต่ำ ดังนั้นการคบมิตรสหายจึงต้องระวังและรอบคอบ”

มีภาษิตคำโบราณที่กล่าวว่า “คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล ” ในบทบันทึกจริยาของท่านขงจื้อได้กล่าวไว้ว่า “คบหากับสุภาพชน ดั่งท่องไปในแดนไม้ดอก นานไปไม่ต้องดมก็หอม คบหากับคนพาล ดั่งเดินยำไปในบ่อปลานานไปไม่ต้องดมก็เหม็น” ด้วยเหตุนี้ จะคบค้าสมาคมกับใครจึงต้องระวัง ท่านเจิ่งจื่อกล่าวไว้ว่า “สุภาพชนอาศัยความสุภาพคบมิตร อาศัยมิตรเสริมเพิ่มการุณย์ธรรม ” มิตรสหายที่เราคบหาอยู่ร่วมให้กำลังใจ ร่วมหนุนนำร่วมเพื่อเสริมคุณธรรมความสุขุมในหนทางธรรมบำเพ็ญแก่เราหรือไม่? เช่นนี้จะไม่ระวังรอบคอบได้หรือ?

พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง

มนุษย์นั้น ด้วยเหตุที่ดำรงชีพอยู่ในสังคมอันมีวิวัฒนาการถึงขีดสุด จึงมีเหตุบางประการที่ควรทิ้งกลับเก็บ ที่ควรเก็บกลับทิ้งไป ดังนั้นสิ่งที่ครอบครองอยู่บางครั้งไม่เพียงแต่ไม่ก่อเกิดประโยชน์กลับทำให้มัวหมอง สภาพแวดล้อมช่วยสรรสร้างผู้คน ขึ้นสามารถสรรสร้างโอกาสได้ ดังนั้นชะตาชีวิตของทุกๆคนล้วนอยู่ในกำมือของตนเอง
คำสำคัญ (Tags): #หลักธรรม
หมายเลขบันทึก: 119909เขียนเมื่อ 16 สิงหาคม 2007 08:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 21:20 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
การเลือกคบเพื่อนเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง เพราะในบางครั้งเพื่อนอาจนำความเดือดร้อนมาหาเรา ผมเคยประสบครั้งหนึ่งเพื่อนชวนไปเที่ยวบ้านญาติของเขาที่มีนบุรี พอไปถึงบ้านญาติเขาเพื่อนคนนั้นให้รอข้างนอกบ้าน หลังจากเขาเข้าไปในบ้านญาติสักพักหนึ่ง เขาก็ออกมาแล้วชวนไปทานข้าว ที่ร้านอาหารใกล้บ้านของญาติเขา เมื่อกลับมาจากทานข้าว เต้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบก็ขอค้นตัวเพื่อนของผม และผมก็ถูกค้นตัวด้วย เมื่อตำรวจค้นตัวเพื่อนของผมก็พบกัญชาหอหนึ่ง ตอนนั้นผมตกใจมาก เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยว่าผมจะมีส่วนร่วมแต่เพื่อนของผมก็บอกตำรวจว่าผมไม่รู้เรื่อง เขาชวนมาเที่ยวบ้านเท่านั้น ผมเลยรอดตัวไม่ถูกตำรวจจับ เข้าทำนองเหมื่อนเต่าตัวนั้นเลย ที่อยู่ในถังปลา

ประวัติของเพื่อนหรือการกระทำของเพื่อนก็มีส่วนสำคัญ ที่จะนำพาเราไปในทิศทางใด เราเป็นคนดีไม่เคยทำความผิด แต่เพื่อนของเรากลับตรงกันข้ามกัน ผลพวงในสายตาคนอื่นที่เขาไม่ได้มองคนให้ลึกซึ้ง ก็จะมองเราไปในทางลบด้วยเช่นกัน เค้าจะมองว่าเรามีลักษณะเดียวกันถึงได้คบหาสมาคมกันได้ เพราะคนเรามีทั้งที่มองคนด้วยความผิวเผินกับมองคนในส่วนลึกของจิตใจ ซึ่งเราไม่สามารถที่จะห้ามเขาไม่ให้คิดได้

อย่างนี้ใครที่ทำผิดพลาดในชีวิตก็ไม่ต้องมีเพื่อนแล้วซิเพราะจะทำให้คนที่คบเราพลอยถูกสังคมรังเกียจไปด้วย อย่างนี้ควรทำอย่างไรดีจึงจะอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข

ขอคำแนะนำบ้าง

เอาความผิดพลาดมาเป็นบทเรียนของชีวิต และทำให้มันดีขึ้น ควรพึงระวังไม่ให้มันพลาดขึ้นมาอีก เพราะเรามีบทเรียนมาแล้ว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท