ดอกไม้แห่งความรัก


ใครจะรู้ว่าดอกบัวก็เป็นดอกไม้แห่งความรัก

  ดอกไม้แห่งความรัก

   เห็นหัวข้อแล้ว  หลายท่านอาจร้องอ๋อ  ก็ดอกกุหลาบนั่นไง

ถึงแม้เราจะทราบกันโดยทั่วไปในสมัยนี้ว่า  ดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ที่ใช้เป็นตัวแทนของความรักกันในสมัยนี้นั้น  ก็มีผู้เขียนบทความที่เกี่ยวข้องกับดอกกุหลาบกันมามากแล้ว  ดังนั้นในบทความนี้จะไม่มุ่งถึงดอกกุหลาบ

  แล้วแบบนี้จะมีดอกอะไร.....หลายท่านอาจตั้งคำถาม

  ย่อมมีแน่นอน  และก็เป็นดอกไม้ที่อาจเรียกได้ว่าพิเศษกว่าดอกไม้ทั้งหลายก็ได้  ดอกไม้ที่กำลังกล่าวถึงนี้ก็คือ......ดอกบัว........

    หลายท่านอาจแย้งว่า  ดอกบัวเป็นดอกไม้ที่ใช้สำหรับบูชาพระทำไมจึงมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของความรักด้วย

         ลองติดตามกันดูนะค่ะ

เราทราบกันดีแล้วว่า  ดอกบัวเป็นดอกไม้ที่มีความงามไม่แพ้ดอกไม้ชนิด ๆ อีกทั้งยังมีอยู่มากมายหลายชนิดหลายพันธุ์ด้วย  เสน่ห์ความงามของดอกบัวนั้นก็เป็นที่ตรึงตาตรึงใจของผู้ที่ได้พบเห็นไม่น้อยเลยทีเดียว  ทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ อีกด้วย  สีสันก็มีมากมายกลายสี  แม้กระทั่งสีนำเงินที่เราเรียกว่า  บัวขาบ  ซึ่งโดยปกติดอกไม้ทั่วๆไปมักจะไม่มีสีนี้

    ที่ว่าดอกบัวนี้มีความพิเศษกว่าดอกไม้ทั้งหลาย  คือเราจะเห็นได้จากการที่ดอกบัวนั้นจะเกิดอยู่ท่ามกลางพื้นน้ำ  มีน้ำซึ่งแสดงถึงความสดชื่นชุ่มฉ่ำแวดล้อมอยู่โดยรอบ

   คราวนี้เรามาดูกันว่า   ดอกบัวนี้มีความเกี่ยวข้องกับความรักอย่างไรหลักฐานที่เราจะพบได้  ซึ่งมีความเป็นไปได้และสามารถจะประจักษ์แก่ตาได้อย่างสมเหตุสมผล  นั่นก็คือ  องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา  ทรงเปรียบเทียบเรื่องราวของความรักกับดอกบัวไว้  ซึ่งเราจะพบได้ในข้อความที่แปลออกมาเป็นภาษาไทยว่าด้วยการอยู่ร่วมกันมาก่อน ด้วยการเกื้อกูลกันในปัจจุบัน  ความรักนั้นเกิดขึ้นได้อย่างนี้  ดุจดังดอกบัวที่อาศัยน้ำและเปลือกตมเกิดขึ้น  ฉะนั้นข้อความนี้ในภาษาบาลีท่านกล่าวไว้ในรูปของคาถาที่มีความไพเราะเพราะพริ้งว่า

   ปุพเพว  สันนิวาเสน  ปัจจุปปันนหิเตน  วา  เอวัง  ตัง  ชายเต  เปมัง  อุปปลัง  ว  ยโถทเก

   ท่องจำไว้ก็ได้นะ  อย่างน้อย ๆ จะได้เป็นคาถากันรักร้างอย่างไรล่ะ

  เห็นไหมว่าในคำของพระบรมครูมีการพูดถึงความรักกับดอกบัวไว้  โดยการเปรียบเทียบให้เห็นว่า  ความรักเกิดขึ้นได้ด้วยเหตุสองอย่างดุจดังดอกบัวที่เกิดขึ้นในนำ  เราน่าจะใช้ดอกบัวเป็นสื่แสดงถึงความรักนะ

  ถึงตอนนี้ก็ขอนำท่านผู้อ่านมองดูดอกบัวในแง่มุมต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

ดอกบัวเป็นดอกไม้ที่เกิดอยู่ท่ามกลางพื้นน้ำ  อาศัยน้ำและเปลือกตมเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงให้ดำรงอยู่  ความรักที่คนเรามีต่อกัน  แม้ในอดีตจะไม่เคยอยู่ร่วมกันมาก่อนก็ตาม  ( ซึ่งความจริงคงจะหาได้ยากเพราะพระพุทธองค์ทรงกล่าวไว้ว่าคนที่ไม่เคยสัมพันธ์กันมาก่อนเลยนั้นไม่ว่าด้านใดด้านหนึ่ง  มิใช่หาได้ง่ายเลย )  แต่การเกื้อกูลต่อกันในปัจจุบันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

    เมื่อมีความรัก  ควรมีน้ำใสใจจริงต่อกัน  มีน้ำใจ  ที่จะหล่อเลี้ยงให้ความรักนั้นดำรงอยู่  มีความใจเย็น  สงบนิ่ง  ให้ความสดชื่นเมื่ออยู่ใกล้เหมือดั่งน้ำที่ล้อมรอบดอกบัวนั้น  ซึ่งมีความเย็น  สงบนิ่งและสดชื่นชุ่มฉ่ำเมื่อได้สัมผัส  น้ำที่ล้อมรอบดอกบัวนั้น  ดุจดังเป็นด่านป้องกันอันตรายให้ดอกบัวไม่เป็นเช่นดอกไม้ริมทางทั้งหลาย

  เมื่อยามอาทิตย์อุทัย  ดอกบัวก็เบ่งบานเผยตัวออกรับความจริงของสิ่งที่ปรากฎอยู่ในโลกด้วยดวงตาและดวงใจที่สว่างไสว  ไม่ถูกความมืดแห่งความหลงใหลปิดบังไว้

  ดอกบัวเมื่อกลีบบาน  ก็เผยกลีบทั้งหมด  จิตใจที่บรรจุไว้ด้วยความรักก็ควรมีความเปิดเผยต่อกันดุจดังดอกบัวที่เผยกลีบบาน  เปิดเผยถึงความงามของเหล่าเกสรให้หมู่ภมรได้คลุกเคล้า  ดอกบัวแม้จะอยู่ถึงกลางน้ำ  แต่หมู่ภมรที่เห็นค่าก็ยังเสาะอุส่าห์มาหาความหวานจากเกสรของดอกบัว  ก็ไม่ทำให้ดอกบัวได้ชอกช้ำ

  ดอกบัวแม้จะร่วงราไป  แต่ก็ยังมีฝักให้ใช้ประประโยชน์ได้อีกต่อไป  บัวสายบางชนิดก็มีสายที่ใช้เป็นอาหารได้  ความรักของบุคคลสองบุคคล  แม้จะล่วงกาลผ่านไปก็ยังทิ้งอนุสรณ์อันมีคุณค่าไว้ให้เป็นประโยชน์แก่สังคมต่อไปอย่างน้อย ๆ ก็  ทายาททืบสายแห่งความรักนั้น  ที่ผู้มีความรักต่อกันได้ร่วมกันปลูกฝังสร้าสรรค์เพื่อให้เขาได้เป็นพลเมืองที่ดีของสังคมต่อไป

    ดอกบัวเป็นดอกไม้ที่ไร้หนาม  แม้บัวก้านแข็งบางชนิดจะมีปุ่มเล็ก ๆ คล้าย ๆ หนามอยู่ด้วยก็ตาม  แต่ก็ไม่ทำให้ผู้ที่ได้สัมผัสต้องเจ็บปวด  ความรักที่เกิดขึ้นในใจก็ไม่ควรจะสร้งความเจ็บปวดให้กับผู้ใด  แม้บางครั้งจะมีอุปสรรคขวากหนามเข้ามาขัดขวางบ้าง  ก็ขอให้อุปสรรคนั้นเป็นตัวเชิดชูถึงความรักที่มีต่อกัน  เหมือนบัวก้านแข็งที่ส่งก้านชูดอกบัวให้ลอยเด่นเป็นที่ปรากฎแก่สายตาฉะนั้น  และนี่ก็คือความเกี่ยวเนื่องกันของความรักกับดอกบัว  ซึ่งแม้แต่ในพระไตรปิฎกเองก็ยังมีการกล่าวถึงความรักกับดอกบัวไว้ดังที่ได้ยกมาให้เห็นในตอนต้นนั้นแล้ว

   อย่างนี้ถ้าเราไม่ให้ดอกบัวเป็นดอกไม้แห่งความรักแล้ว  ก็ดูเหมือนเราจะมองข้ามความน่ารักของดอกบัวไปอย่างน่าเสียดาย  ทั้ง ๆ ที่ดอกบัวนั้นเป็นดอกไม้ที่เราพบเห็นอยู่โดยทั่วไป  และจากการเปรียบเทียบความรักกับดอกบัวนี้  ทำให้เรามองเห็นถึงวิถีชีวิตของสังคมกสิกรรมได้เป็นอย่างดี  สังคมที่มีชีวิตผูกพันอยู่กับน้ำจิตน้ำใจของชาวสังคมกสิกรรมอันมิอาจแยกจากกันได้

     บัวขาดน้ำเมื่อใด  ก็แห้งตายไปเมื่อนั้น  ความรักขาดน้ำใจเมื่อใด  ก็เหี่ยวเฉาเหงาตายไปเมื่อนั้น  จงมาปลูกดอกไม้แห่งความรักด้วยน้ำใจที่มีความจริงใจต่อกันตลอดไปเถิดนะ

         แล้วเพื่อน ๆ ชาว  Blog  คิดว่า  ดอกไม้อะไรเป็นดอกไม้แห่งความรักสำหรับตัวเอง.......    

   

 

 

หมายเลขบันทึก: 120844เขียนเมื่อ 20 สิงหาคม 2007 21:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีครับ หลายไปหลายวันไปบวชมาเหรอ แล้วคาถาด้านบนน่ะกันรักร้างได้จริงเหรอ???? ความรักของผมเปรียบกับดอกไม้อะไรดี????.......ยังนึกไม่ออก แล้วถ้าเราเอาดอกบัวไปให้คนรักของเราความรักเราจะยั่งยืนมั๊ยเอ่ย.....(อันนี้ไม่ต้องตอบก็ได้ พอจะรู้อนาคตลเลาๆ)

ที่หายไปหลายวันน้เป็นเพราะจำบล็อคไม่ได้ หรือเข้าแล้วนึกว่าไม่ใช่

ก๊อก....ก๊อก เจ้าของblogอยู่มั๊ยครับ

มาอีกแล้วครับท่าน......รู้สึกว่าEmailของคุณน้องจอยจะเจ๊งแล้วนะครับ

ขอนุญาตเอาเพลงออกนะจ๊ะคนสวย.....เจ้าของเว็บขอความร่วมมือจ๊ะ

  • สวัสดีค่ะ
  • โอ้ไม่นึกว่าดอกบัว....จะเป็นดอกไม้แห่งความรักนะเนี่ย  นึกว่าเอาไว้บูชาพระอย่างเดียว อิอิ
  • แล้วเพื่อน ๆ ชาว  Blog  คิดว่า  ดอกไม้อะไรเป็นดอกไม้แห่งความรักสำหรับตัวเอง.......     เอ้ ! ไม่รู้เหมือนกันแฮ่ะ....รู้แต่ว่าชอบดอกกุหลาบเหลืองเอาม๊ากๆๆ (กุหลาบพันธุ์...สีเหลือง) เสียด้วยสิ ดอกกุหลาบสีอื่นไม่มีความหมายเลย 555

สวัสดีจ๊ะ...คุรSirintip

ขอบคุรนะคะที่แวะมาเยี่ยมเยียน  ไม่อยากจะบอกเลยว่า เจ้าของ Blog ก็ชอบดอกกุหลาบสีเหลืองเอามากๆเหมือนกัน  ใจเราตรงกันเลยนะ...

 

ไร....จอย..ปากทรงมีเนตกับเขาด้วย  ล้อเล่นแวะมาเยี่ยม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท