วันพฤหัสบดีที่ ๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๐
"ผู้นำที่ประสบความสำเร็จ ไม่เพียงขึ้นอยู่กับความสามารถในการใช้คนเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารจัดการตนเอง "จอห์น เฮเดอร์ (John Heider) ผู้เขียนหนังสือเรื่อง The Tao Of Leadership ได้ประยุกต์หลักปรัชญาเต๋ามาใช้เป็นหลักในการพัฒนาภาวะผู้นำ ตอนหนึ่งในหนังสือได้กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า
ความเป็นผู้นำ ในบางครั้งเราคุ้นเคยกับการนำคนให้คนทำงานตามคำสั่งต่างๆ ตามแผนงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ โดยต้องฉลาดในการรู้จักแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้รู้ว่าจะใช้ใครทำสิ่งใด จึงเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ผู้นำที่ประสบความสำเร็จ ไม่เพียงขึ้นอยู่กับความสามารถในการใช้คนเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารจัดการตนเองให้เป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ การเรียนรู้วิธีที่จะพัฒนาตนเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ ข้อแนะนำในการพัฒนาความเป็นผู้นำนั้น มีข้อแนะนำภาคปฏิบัติดังนี้
หมั่นสำรวจตนเอง
ผู้นำที่พัฒนาตัวเองจะศึกษาอย่างรอบคอบถึงพฤติกรรมของตนที่ทำอยู่ บุคลิกลักษณะที่เฉพาะ เจาะจง อาจเริ่มต้นด้วยการสำรวจและประเมินตนเอง โดยใช้ความซื่อสัตย์และไม่เพียงสร้างภาพลักษณ์หลอกลวงตนเอง สำรวจดูว่าเรามีคุณสมบัติพื้นฐานเหล่านี้ครบถ้วนหรือไม่ ด้วยการตอบคำถามเหล่านี้ อาทิ
- ความยุติธรรม
“ฉันยุติธรรมไหม?”
- ความรับผิดชอบ
“ฉันมีความรับผิดชอบไหม?”
-ความเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง
“ฉันชอบฟังคนอื่นไหม?” “ฉันเปิดโอกาสให้มีการถกเถียงไหม?”
- ความซื่อสัตย์
“ฉันมีความซื่อสัตย์ไหม?”
- ความน่าเชื่อถือ
“ผู้ร่วมงานให้ความไว้เนื้อเชื่อใจฉันหรือไม่?”- ความมุ่งมั่น
“ฉันบากบั่นและมุ่งมั่นสู่เป้าหมายมากเพียงพอหรือยัง?”
ที่สำคัญอีกคำถามหนึ่ง คือการถามตัวเองว่า
“เรานำคนอื่นเช่นนี้ ถ้าเราเป็นผู้ตาม เราอยากทำตามการนำแบบนี้หรือไม่?”
การตอบคำถามเหล่านี้ ให้เราตอบตัวเองด้วยการพิจารณาสิ่งที่ตนเองทำอย่างรอบคอบ ด้วยความซื่อสัตย์และปราศจากอคติ ขณะเดียวกันให้เราสังเกตจากการตอบสนองของคนรอบข้างในสิ่งต่างๆ ที่ทำว่ามีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง อาจเปิดโอกาสให้ทีมงาน โดยเฉพาะคนที่ได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมและการตัดสินใจของเรา ได้สื่อสารความรู้สึกที่แท้จริงและให้คำแนะนำแก่เรา
การสำรวจและทบทวนสิ่งที่ตนเองทำลงไปนั้น หากเราทำใจให้เป็นกลาง ไม่มีอคติ ไม่ปกป้องเข้าข้างตนเอง หรือประเมินตนเองต่ำต้อยเกินความเป็นจริง เราจะสามารถสกัดความเป็นเรา ทั้งในส่วนของ “จุดแข็ง” ที่เราควรเสริมสร้างให้แข็งแกร่งขึ้น และ “จุดอ่อน” ที่เราควรแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นได้
โดยทั่วไปความเป็นผู้นำไม่ได้สมบูรณ์เพียบพร้อมมาตั้งแต่เกิด แต่เป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้และพัฒนา โดยจำเป็นต้องถ่อมใจยอมรับในข้อบกพร่อง จากนั้นต้องใช้ความกล้าหาญและความตั้งใจจริงในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตนเองในแต่ละเรื่อง อย่างลงรายละเอียดและเอาจริงเอาจัง เช่นที่เฮเดอร์กล่าวไว้ “การจัดการกับชีวิตของตนเองนั้นต้องใช้อำนาจที่แท้จริง”
พัฒนาให้ครบถ้วนทุกด้าน
ในการพัฒนาความเป็นผู้นำจำเป็นต้องพัฒนาให้ครบถ้วนทุกด้าน อันได้แก่ ด้านความรู้ โดยดูว่ามีความรู้ใหม่ๆ อะไรบ้างที่เราต้องเรียนรู้เพิ่มเติม ด้านทักษะ มีอะไรบ้างที่เราควรฝึกฝน ด้านลักษณะชีวิต มีเรื่องอะไรบ้างที่เรายังขาดอยู่ และด้านประสบการณ์ที่เราต้องหาเพิ่มเติม
ตั้งเป้าหมายพัฒนาให้ชัดเจน
ความตั้งใจ จะไม่ประสบความสำเร็จหากไม่ตั้งเป้าหมาย ดังนั้นเราจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนพอที่เราจะทำสำเร็จได้ มีระยะเวลาที่เหมาะสม เมื่อเราทำสำเร็จเรื่องหนึ่งให้เราพิจารณาตัวเองและกำหนดเป้าหมายที่ต้องพัฒนาในขั้นต่อไป
สิ่งสำคัญที่สุดในการพัฒนาตนเองให้เป็นผู้นำที่ดีและมีประสิทธิภาพคือ เราจะต้องไม่พยายามสร้างภาพลักษณ์ที่หลอกลวง โดยเปลี่ยนแปลงเพียงรูปแบบภายนอก บุคลิกท่าทาง ลักษณะการพูด การใช้อำนาจสั่งการ หรืออื่นๆ ที่มุ่งหวังเพียงให้เกิดการยอมรับจากผู้อื่น แต่เราต้องตระหนักว่า องค์ประกอบภายในที่ผสมผสานเป็นตัวเรานั้น คือ เงื่อนไขสำคัญว่าเราจะสามารถเป็นผู้นำได้ประสบความสำเร็จเพียงใดในระยะยาว
ผู้นำจึงต้องเป็นผู้เริ่มต้นที่จะเป็นแบบอย่างในการเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตนเอง ดังที่ มหาตมะคานธี ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของอินเดียได้เคยกล่าวไว้ว่า
“ถ้าเราอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงจำเป็นต้องเริ่มต้นจากตัวเรา”
จากเว็ป http://www.siamsewana.org/
โอ้โฮ .. ช่างบังเอิญจริงๆเลยครับ คุณน้อง
เมื่อเช้ารื้อกองหนังสือที่บ้าน หยิบสองสามเล่มของศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ มาอ่านแบบผ่านๆ .. เรื่องเดียวกับที่นำเสนอเลยครับ .. กำลังคิดว่าอยากจะเอาท่อนเด็ดๆมาวางในบันทึกบ้าง .. แล้วก็ได้มาอ่านสิ่งที่ตั้งใจจะทำ .. ใจตรงกันเลยนะเรา .. ปล. คิดถึงครับ
“ถ้าเราอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงจำเป็นต้องเริ่มต้นจากตัวเรา”
เห็นด้วยค่ะ ^_^
อาจารย์ Handy คะ
เป็นคนชอบอ่านค่ะ(แต่ไม่จำ...ฮา)
เจออะไรดี ๆ จึงอยากนำมาเล่าสู่กันฟัง
บางครั้งสิ่งที่เราอ่านพบมันอาจจไม่เกิดประโยชน์กับเราในขณะนี้ แต่เมื่อเราเจอเหตุการณ์ที่ใช่ มันจะช่วยให้เราได้คิดและมีต้นทุนอยู่บ้างค่ะ
คิดถึงเช่นกันค่ะ
คุณต้อมค่ะ
ต้องเริ่มจากตัวเราค่ะ....และต้องทำอย่างมีความสุขด้วยค่ะ....(อยากกินน้ำพริกอ่องอีกแหละ...แต่วันนี้มังสะวิรัติ...ฮา)
ยอมรับว่าตัวเรานั้นเปลี่ยนยากที่สุดจริง ๆ นะครับ
คิดได้ดังนี้ ก็ปล่อยวางได้เหมือนกันว่าเราไม่คาดหวังการเปลี่ยนแปลงของผู้คนและของสังคม ให้เสียกำลังใจ
แต่ก็เห็นด้วยกับท่านคานธีครับ ตัวเราต้องกล้า เข้มแข็งที่จะเปลี่ยนแปลงก่อน