นิสิต นักศึกษามักจะคิดว่าการสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์(Defense Thesis)และการสอบปากเปล่าวิทยานิพนธ์(Oral Thesis)เป็นขั้นตอนที่ยากกว่าขั้นตอนอื่นในกระบวนการทั้งหมด แท้จริงแล้ว ผู้เขียนกลับมีความคิดว่าทั้งสองขั้นตอนง่ายกว่าขั้นตอนอื่นด้วยซ้ำไป เนื่องจากเป็นการนำเสนอผลงานวิจัยของ นิสิต นักศึกษาเอง ดังคำกล่าวที่ว่า “ผู้วิจัยเป็นผู้รู้ที่สุด” ซึ่งถ้า นิสิต นักศึกษาทำด้วยตนเอง ก็ไม่น่าจะมีอะไรหนักใจ การสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์(Defense Thesis)และการสอบปากเปล่าวิทยานิพนธ์(Oral Thesis) เหมือนกับการทบทวนสิ่งที่นิสิต นักศึกษาได้เขียนและลงมือทำด้วยตนเอง
การสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์(Defense Thesis)
การสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์(Defense
Thesis)เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการหลังจากที่นิสิต
นักศึกษาได้เขียนเค้าโครงวิทยานิพนธ์เสนออาจารย์ควบคุมวิทยานิพนธ์หรืออาจารย์ที่ปรึกษาปรับปรุงแก้ไขตามข้อชี้แนะของอาจารย์ควบคุมวิทยานิพนธ์จนเป็นที่พอใจจึงดำเนินการขอสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์(Defense
Thesis)ต่อไป เพื่อให้การสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์(Defense
Thesis)สัมฤทธิ์ผลอย่างดี
ควรทำสรุปสาระสำคัญของเค้าโครงวิทยานิพนธ์และปฏิบัติตามข้อเสนอแนะในการสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์(Defense
Thesis)
ข้อปฏิบัติในการสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์(Defense Thesis)
1. ก่อนสอบ นิสติ นักศึกษาตั้งสติให้ดี ถ้านิสิต
นักศึกษาทำงานด้วยความซื่อสัตย์และเอาใจใส่มาตลอด
ก็ไม่มีอะไรน่าหนักใจ
แต่ไม่ได้หมายความว่าเค้าโครงวิทยานิพนธ์ที่ส่งในครั้งนี้เป็นเล่มเค้าโครงวิทยานิพนธ์ที่สมบูรณ์
นิสิต นักศึกษาต้องเตรียมใจในการแก้ไขงานอีกครั้งหนึ่ง
โดยยึดคำวิพากษ์และข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสอบสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์(Defense
Thesis)เป็นหลัก นิสิต นักศึกษา ไม่ควรตื่นเต้นมากเกินไป
ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่าเครียด อาจทำอะไรเป็นการผ่อนคลายบ้าง
และเข้านอนหัวค่ำ
เพื่อตื่นแต่เช้าในวันรุ่งขึ้นและเดินทางสู่ห้องสอบด้วยความแจ่มใส
2. ในการสอบปกป้องเค้าโครงวิทยานิพนธ์(Defense Thesis)
นิสิต นักศึกษาควรมาถึงห้องสอบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 นาที
และตรวจดูความเรียบร้อย เช่น เครื่องดื่มหรืออาหารว่างมีหรือไม่
ดูสภาพห้องสอบว่าที่นั่งของตนและที่นั่งของคณะกรรมการอยู่ตรงไหน
นิสิต
นักศึกษาควรใช้เวลาช่วงนี้ติดตั้งอุปกรณ์ประกอบการนำเสนอข้อมูล
อาจเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค
หรือการเตรียมเปิดไฟล์หรือสไลด์ในการนำเสนอ
3. ก่อนขึ้นสอบปกป้องเค้าโครงวิทยานิพนธ์
นิสิต นักศึกษาควรทำสรุปสาระสำคัญ
ลงในกระดาษแผ่นเดียว
ให้ครอบคลุมสาระสำคัญของการวิจัยทั้งหมด อาจใช้แผนผังความคิด
(Mind Mapping) หรือผังมโนทัศน์ (Concept Map)
ในการสรุปสาระสำคัญของการวิจัยหรืออาจใช้คำย่อ สัญลักษณ์
และตารางช่วยให้สรุปอย่างเป็นระบบตามความจำเป็นได้
ส่วนนี้จะเป็นประโยชน์ช่วยให้เข้าใจเรื่องที่วิจัยอย่างชัดเจน
สามารถนำไปดูแล้วอธิบายการวิจัยได้อย่างกระชับและครบถ้วนโดยไม่ต้องเปิดอ่านในเล่มเค้าโครงวิทยานิพนธ์
4. ในการสอบปกป้องเค้าโครงวิทยานิพนธ์
นิสิต นักศึกษาควรมีการตรวจสอบหัวข้อทุกข้ออย่างละเอียด
ชัดเจน รอบคอบ รัดกุมในทุกส่วน
(โดยทั่วไปมักประกอบไปด้วย ภูมิหลัง
ความเป็นมาของการวิจัย ความมุ่งหมาย สมมติฐาน
(ถ้ามี) ขอบเขต นิยามศัพท์เฉพาะ แนวคิด
ทฤษฎี และผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
วิธีดำเนินการวิจัย ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ) ซึ่งจะเป็นประโยชน์มาก
เพราะเค้าโครงดังกล่าวเป็นเงื่อนไขที่จะต้องปฏิบัติตาม
เป็นการป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมา
5. นิสิต นักศึกษา ส่วนใหญ่
เตรียมตัวมายังไม่ดีพอ
เค้าโครงวิทยานิพนธ์มีความบกพร่องหลายแห่ง
การนำเสนอไม่น่าสนใจ
บางคนเสนอโดยการอ่านจากเอกสารที่เตรียมมาก
การตอบคำถามบางครั้งไม่ตรงประเด็นหรือตอบไม่ได้
โดยเฉพาะในคำตอบที่เป็นการประเมินความรู้
ความเข้าใจในวิธีการ หลักการ
ทั้งนี้เนื่องจากขาดความรอบรู้อย่างแท้จริง
เตรียมตัวมาน้อย ดังนั้นเพื่อตัดข้อบกพร่องดังกล่าว นิสิต
นักศึกษาจะต้องเตรียมพร้อมในการสอบปกป้องเค้าโครงวิทยานิพนธ์(Defense
Thesis) โดยเตรียมการนำเสนอให้กระชับ รัดกุม
เข้าใจง่าย น่าสนใจ
ด้วยความคล่องแคล่วถูกต้องแม่นยำ รวมทั้งเตรียมตอบคำถามต่าง
ๆ ที่แสดงถึงการมีความรอบรู้ในเรื่องที่ทำวิทยานิพนธ์
เช่น เตรียมตัวก่อนสอบ 10 วัน เป็นต้น
และควรซักซ้อมด้วยตนเองให้คล่องโดยเฉพาะถ้าได้ซักซ้อมกับอาจารย์ผู้ควบคุมวิทยานิพนธ์ในส่วนสำคัญจะช่วยได้มาก
6. ด้านกรรมการสอบปกป้องเค้าโครงวิทยานิพนธ์
โดยทั่วไปประกอบด้วยอาจารย์ควบคุมหรืออาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์และกรรมการจากภายนอก
กรรมการจากภายนอกอาจมีจำนวนเท่ากันกับอาจารย์ที่ปรึกษาหรือมากกว่า
7. พิธีการสอบก็จะเริ่มโดยที่ท่านประธานจะให้ นิสิต
นักศึกษานำเสนองานวิจัย ขอให้ นิสิต นักศึกษาคิดว่า
การสอบปกป้องเค้าโครงวิทยานิพนธ์เป็นเหมือนการนำเสนอบทความทางวิชาการในที่ประชุมครั้งใหญ่
ถ้าเป็นไปได้ ไม่ควรอ่านจากใช้โน้ตย่อ ควรนำเสนอจากความเข้าใจ
ซึ่งไม่น่าจะยาก เนื่องจากเป็นงานของ นิสิต
นักศึกษาเอง
ขั้นตอนทั่วไปการสอบปกป้องเค้าโครงวิทยานิพนธ์
แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้
1. ขั้นตอนที่หนึ่ง
เมื่อคณะกรรมการสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์มาครบ
ท่านประธานคุมสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์ก็จะให้ นิสิต
นักศึกษารายงานเค้าโครงวิทยานิพนธ์
อาจให้กล่าวเฉพาะประเด็นที่สำคัญ เช่น
เหตุผลที่เลือกทำการศึกษาค้นคว้าในเรื่องนั้น
ความมุ่งหมายของการวิจัย วิธีดำเนินการวิจัย (ประชากร กลุ่มตัวอย่าง
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล)
ในขั้นตอนนี้นิสิตนักศึกษาอาจนำเสนอโดยใช้สื่อต่าง ๆ เช่น
แผ่นใส Power Point เป็นต้น การใช้สื่อต่าง
ๆ จะช่วยให้รายงานได้ดี มีความน่าสนใจ
ในการเตรียมสื่อผู้วิจัยได้มีโอกาสคิดวิธีนำเสนอ
ได้สรุปเนื้อหาสาระที่สำคัญเพื่อนำเสนอ
ช่วยในการจดจำสาระดังกล่าว
และต้องเตรียมแผนสำรองกรณีที่มีปัญหาที่อาจเกิดขึ้นโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้
เช่น ไฟฟ้าดับ เป็นต้น
ข้อสำคัญคือต้องทำการซักซ้อมติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ
ตรวจสอบการใช้งานจนมั่นใจก่อนถึงเวลาสอบ
2. ขั้นตอนที่สอง หลังนิสิต
นักศึกษารายงานเค้าโครงวิทยานิพนธ์
กรรมการสอบจะซักถามข้อสงสัย
สอบถามเพื่อตรวจสอบความรู้ความเข้าใจของผู้ทำวิทยานิพนธ์
แม้กระทั่งการทักท้วงโต้แย้งในประเด็นต่าง ๆ
ที่อาจเป็นข้อผิดพลาดของรายงานการวิจัยเพื่อให้มีการแก้ไขให้ถูกต้อง
ซึ่งนิสิต นักศึกษาต้องแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์
ว่าตนมีความพร้อมที่จะทำเรื่องนี้
ตอบโดยแสดงความรู้อย่างชัดถ้อยชัดคำ รวมทั้ง
แสดงความคิดเห็นด้วยความมั่นใจ อย่างไรก็ตาม นิสิต
นักศึกษาต้องอ่อนน้อม อ่อนโยน และเคารพกรรมการสอบปกป้อง ถ้าไม่
เข้าใจหรือได้ยินคำถามถูกต้องหรือไม่
สามารถขอให้อาจารย์สอบถามอีกครั้งได้
คำถามในการสอบปกป้องเค้าโครงวิทยานิพนธ์ที่น่าสนใจ
กรรมการมักจะถามนิสิต นักศึกษา ที่ทำวิทยานิพนธ์
มีดังนี้
- ทำไมนิสิต ถึงทำเรื่องนี้
ได้ประโยชน์ในด้านใดบ้างหรือได้ประโยชน์หรือไม่ อย่างไร
- ประชากรและกลุ่มตัวอย่างเป็นใคร ที่ไหน
อย่างไร วิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่าง ได้มาอย่างไร
ทำไมถึงเลือกวิธีการนี้
- เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
- สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
มีความเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร
- ตัวแปรที่ใช้ในการวิจัย มีอะไรบ้าง
- เรื่องที่ทำ คิดว่าจะดำเนินการเสร็จหรือไม่
อย่างไร
3. ขั้นตอนที่สาม
กรรมการสอบพิจารณาประเมินผลการสอบปกป้องเค้าโครงวิทยานิพนธ์หลังจากการตอบคำถามเสร็จสิ้นแล้ว
ประธานกรรมการจะพิจารณาการสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์ที่เพิ่งสอบเสร็จไป
ปกติแล้วในระดับปริญญาโทหรือเอก อาจารย์จะให้ นิสิต
นักศึกษาสอบผ่าน
อาจต้องมีการแก้ไขงานบ้างจะมากหรือน้อยแตกต่างกันไป
หลังจากทราบผลการสอบแล้ว ควรกล่าวขอบคุณกรรมการคุมสอบ
และควรเข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษาทันที
เพื่อปรึกษาเรื่องการแก้ไขเค้าโครงวิทยานิพนธ์และดำเนินขั้นตอนต่อไป
ส่วนกรณีสอบไม่ผ่าน คือ นิสิต นักศึกษาไม่รู้เรื่องจริง ๆ
ตอบคำถามไม่ได้ คณะกรรมการก็จะเห็นควรให้นิสิต
นักศึกษาสอบใหม่อีกครั้ง
ส่วนมากมีน้อยมากหรือไม่มีเลยก็ว่าได้
ทองสง่า ผ่องแผ้ว 17/09/2550
ดี
my name is jan
ขอบคุณมาก เพราะตอนนี้กำลังจะขึ้นสอบ กำลังเครียดอยู่เหมือนกันว่าจะเตรียมตัวอย่างไร โชคดีจังที่เปิดมาเจอ
ช่วยแนะนำวิธีตอบคำถาม พอมีดัวอย่างไหมคะ
เป็นคำแนะนำที่ดีมาก
ขอตัวอย่างบทพูด(สคริป)การนำเสนอในแต่ละหัวข้อ การเชื่อมโยงที่ดี
ขอบคุณค่ะ
อีกสองวันผมจะสอบแล้ว เครียดมาก สู้ตายครับ
ขอบคุณนะคะ อีกสามวันจะสอบแล้ว เครียดเหมือนกัน
แต่ก็สู้ตายด้วย สู้ๆๆ ต้องผ่านไปไดด้วยดี ^___^
ถ้าเรามีการเพิ่มเติมจุดมุ่งหมายและความสำคัญในการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากประเด็นที่มีอยู่แล้วในเค้าโครงจะได้ไหมคะ
ขอบคุณมากนะคะ..ที่ให้อะไรดีดี กำลังจะขึ้นสอบ วันที่ 4 กุมภาค่ะ อยากได้ตัวอย่างคำถาม และแนวการตอบค่ะ ..เครียดมาก
สอบแล้วค่ะ..เตรียมคำตอบไว้อย่างดีตามข้อแนะนำ...พร้อมสุดๆ แต่ไม่เข้าใจคำถามบางข้อ..เลยตอบไม่ได้
ขอบคุณมากค่ะ กำลังเตรียมตัวสอบค่ะ ได้ประโยชน์มากจริงๆ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ ได้ทราบแนวปฏิบัติแล้วมีกำลังใจและความมั่นใจขึ้นมากเลยค่ะ
กำลังจะสอบ เปิดมาเจอพอดี เป็นเเนวทางที่ดีมากสำหรับการเตรียมตัว ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณนะคะ เป็นคำแนะนำที่ดีมากๆ ค่ะ อีกสองวันจะต้องสอบแล้วเหมือนกันค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ ทำให้เข้าใจอาจารย์ผู้สอบเค้สโครงวิทยานิพนธ์มากขึ้นค่ะ