ผลการเรียนที่มีคุณค่า


ความรับผิดชอบ

สอนคุณธรรมอย่างไรให้มีความพอเพียง

อันดับที่ 10/5 คุณธรรมแห่งความรับผิดชอบ และความขยันหมั่นเพียร

วัตถุประสงค์ เพื่อให้รู้คุณค่าแห่งความรับผิดชอบและความขยันหมั่นเพียร


หน้าห้องสอบวิชาภาษาอังกฤษ จี๊ดนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2 กำลังยืนโดยเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงพร้อมกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ เห็นเพื่อนนักเรียนร่วมชั้นกำลังขมักเขม้นทบทวนความรู้ ซักถามประเด็นสงสัย และให้คำแนะนำซึ่งกันและกันก่อนเข้าห้องสอบ อย่างเอาจริงเอาจัง

สำหรับจี๊ดแล้วเขาไม่เคยวิตกกังวลเรื่องผลการสอบและผลการสอบวิชาภาษาอังกฤษว่าจะได้คะแนนระดับใดเพราะทุกครั้งผลการสอบที่ผ่านมา เขาจะได้คะแนนระดับดี มาอย่างสม่ำเสมอ และครั้งนี้เขาก็คงได้ระดับคะแนนในระดับเดิม

จี๊ดรู้ตัวว่าเขาสามารถที่จะทำผลการเรียนให้ดีขึ้นได้ หรือหากเขามีความตั้งใจและขยันหมั่นเพียรเพิ่มขึ้นเท่านั้นเองเขาย่อมทำได้ดีอย่างแน่นอน

ชัยเพื่อนสนิทของจี๊ด เดินเข้ามาเตือนจี๊ดว่าจี๊ดควรตั้งใจเอาใจใส่และขยันหมั่นเพียรให้มากขึ้นจากเดิมอีกนิดแล้วผลการเเรียนน่าจะดีขึ้น และจี๊ดควรทำผลการเรียนให้ได้คะแนนในระดับสูงซึ่งจะสร้างผลดี สร้างสิ่งที่มีคุณค่าอย่างมากมายให้แก่ตัวจี๊ดเอง

จี๊ดตอบกลับทันทีว่า ไม่ดีกว่า จี๊ดจะไม่ใส่ใจที่จะศึกษาเล่าเรียนอย่างขยันหมั่นเพียรหลอกเพราะจี๊ดมีอย่างอื่นที่น่าสนใจทำมากกว่านี้อีกมากมาย และจะขอทำในสิ่งที่เขาอยากทำเท่านั้น สำหรับชัยถ้าอยากทำอะไร ทำอย่างไรก็ทำ ไปเถิด

คุณครู แสนดี เป็นครูผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษประจำ ห้องเรียนของจี๊ดเรียกนักเรียนทั้งหมดเข้าห้องสอบเพื่อทำการทดสอบวิชาภาษาอังกฤษทันที หลังจากการสอบ 3วัน ก็ถึงเวลาประกาศผลการสอบ นักเรียนในชั้นเรียนทุกคนมีท่าทางวิตกกังวล กระวนกระวายใจรอคอยผลการสอบ ยกเว้นจี๊ดที่มีท่าทีไม่อนาทรร้อนใจใดๆ เพราะจี๊ดคาดการณ์ไว้ว่าอย่างไรเสียเขาก็คงได้ เกรดเท่าเดิม ในวิชานี้อีกเช่นเคย

เมื่อคุณครู แสนดีประกาศผลการสอบปรากฏว่า ชัยได้เกรด A สมดังความตั้งใจซึ่งชัยดูท่าทางมีความสุขอย่างมาก สำหรับจี๊ดเป็นไปตามความคาดหมาย ได้เกรด C เหมือนเช่นเคย ซึ่งก็นับว่าดีแล้วสำหรับการไม่ตั้งใจ ไม่ขยันหมั่นเพียรในการเรียนของจี๊ด

หลังประกาศผลสอบคุณครูแสนดี เรียกจี๊ดไปตักเตือนและกำชับให้จี๊ดปรับปรุงตัว เอาใจใส่การเรียน ตั้งใจขยันหมั่นเพียร และ พยายามให้มากกว่าเดิม ซึ่งคุณครูรู้ดีว่าจี๊ดจะทำได้และน่าจะได้ผลการเรียนในระดับ B หรือ A เสียด้วยซ้ำ

จี๊ดรู้สึกประหลาดใจว่า คุณครูแสนดีรู้ได้อย่างไรว่าจี๊ดยังไม่ได้ใช้ความพยายามและเอาใจใส่ต่อการเรียนอย่างเพียงพอ แต่ก็รับปากว่าจะพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น แต่ดูท่าทางคุณครูไม่ค่อยจะเชื่อถือคำพูดของจี๊ดมากเท่าใดนัก

เช้าวันใหม่แสงแดดสดใสเด็กๆ นักเรียน เบิกบานใจ เมื่อเสียงออดดังขึ้น นักเรียนทั้งหมดรีบมาเข้าแถวหน้าเสาธง เมื่อทำการเคารพธงชาติและสวดมนต์ เรียบร้อยแล้ว อาจารย์ใหญ่ ประกาศให้นักเรียนทราบว่า โรงเรียนร่วมกับสมาคมภาษาอังกฤษทำการคัดเลือกนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2 ที่สามารถทำผลคะแนนการสอบภาษาอังกฤษได้เกรด A ใน2 ภาคเรียนที่ผ่านมาที่ได้คะแนน สูงสุด จำนวน 3 คน เดินทางไปศึกษาภาษาอังกฤษ ณ ประเทศออสเตรเลีย เป็นเวลา 4 สัปดาห์ในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนที่จะมาถึงนี้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น แล้วประกาศรายชื่อนักเรียนทั้ง 3 คน พร้อมให้นักเรียนทุกคนปรบมือแสดงความชื่นชมยินดี

ในครั้งนี้ชัยเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับคัดเลือกด้วย นับเป็นครั้งแรกที่จี๊ดเกิดความรู้สึกอิจฉาเพื่อนทั้ง 3 คนเป็นอย่างมากที่ได้รับโอกาสดี ๆ ในครั้งนี้ เขาเริ่มตระหนักว่าถ้าเขาได้ปรับปรุงตนเองให้มีความรับผิดชอบ ขยันหมั่นเพียร ตั้งใจเอาใจใส่การเรียนอย่าสม่า เสมอ เขาก็คงได้รับรางวัลในครั้งนี้อย่างแน่นอน มันน่าเสียดายที่ปล่อยให้โอกาสดีๆ หลุดลอยไปเสียได้

เมื่อกลับถึงบ้านจี๊ดรีบทำการบ้านทบทวนบทเรียนอย่างเอาใจใส่ พ่อกับแม่เห็นดังนั้นจึงพูดให้กำลังใจว่าท่านทั้งสองเห็นใจและเข้าใจดีว่าจี๊ดไม่สามารถทำผลการเรียนให้ได้คะแนนในระดับสูงได้ เนื่องมาจากบทเรียนต่างๆ มันยากสำหรับจี๊ดอย่างมาก

จี๊ดตอบพ่อกับแม่ว่าบทเรียนต่างๆ มันไม่ยากสำหรับจี๊ดเลย แต่ที่ได้ผลการเรียนในระดับต่ำเป็นเพราะว่า จี๊ดขาดความรับผิดชอบ ไม่เอาใจใส่การเรียน ไม่ใช้ความเพียรพยายามอย่างเต็มกำลังความสามารถ จึงทำให้พลาดโอกาสดีๆในชีวิตไปอย่างน่าเสียดาย

พ่อกับแม่จึงอบรมสั่งสอนให้จี๊ดมีความรับผิดชอบเอาใจใส่การเรียนโดยใช้ความเพียรพยายามเพื่อสร้างโอกาสดีๆ ในชีวิต สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ตนเอง เพราะการศึกษาเป็นหนทางสู่ความสำเร็จของชีวิต

ต่อมาจี๊ดได้ปรับปรุงตัวเองให้มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ในการศึกษาเล่าเรียน มุ่งมั่นเพียรพยายามอย่างเต็มความสามารถ จนทำให้เขาประสบผลสำเร็จในการเรียน แม้ว่าเขาไม่ได้รับรางวัลพิเศษใดๆ แต่จี๊ดมีความรู้สึกดีที่ได้รับผิดชอบหน้าที่ของตนเอง มีความภาคภูมิใจในความเพียรพยายามทำสิ่งต่างๆ อย่างเต็มความสามารถ ซึ่งทำให้ชีวิตของจี๊ดมีคุณค่า

จี๊ดได้รับผลการเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตที่น่าตื่นเต้นเร้าใจผ่านวิถีทางของการศึกษาที่แสนจะมีคุณค่ายิ่ง



ช่วยกันขยายความ คติพจน์ส่งเสริมความรับผิดชอบและความขยันหมั่นเพียร ผู้ที่มีความรับผิดชอบและความขยันหมั่นเพียรย่อมได้รับผลดีตอบแทน ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น

ฝึกคุณธรรม

ฝึกรู้รอบรู้ว่าอะไรควรประพฤติ อะไรไม่ควรประพฤติเรื่องผลการเรียนที่มีคุณค่านี้เหมาะสา หรับสอนเรื่องคุณค่าของความรับผิดชอบและความขยันหมั่นเพียรหรือไม่เพียงใด

ฝึกความกล้าหาญ แข็งขัน การกล้า และแข็งขันที่จะเอาชนะจิตใจตนเองเพื่อสร้างความรับผิดชอบและความขยันหมั่นเพียรที่จะทำภารกิจหน้าที่ของตนเองด้วยความยาก ลำบากเพื่อให้ประสบผลสำเร็จ เราจะสร้างความรับผิดชอบและความขยันหมั่นเพียรกันอย่างแข็งขันได้อย่างไรบ้าง

ฝึกพอเพียง เป็นการเดินสายกลางเราควรมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีความขยันหมั่นเพียรในการศึกษาเล่าเรียนตลอดจนปฏิบัติภารกิจ หน้าที่ของตนเองมากน้อยเพียงไร อย่างไรจึงเรียกได้ว่าพอเพียง

- อย่างไรเรียกว่าขาด

- อย่างไรเรียกว่าเกิน

ฝึกยุติธรรมได้แก่การให้แก่ทุกคน และแต่ละคนตามความเหมาะสม คือต้องรู้ว่าเรามีกำลังความสามารถเท่าไรในการที่จะมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีความขยันหมั่นเพียร และปฏิบัติในภารกิจใดแก่ใคร เท่าไร อย่างไร การปฏิบัติให้มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีความขยันหมั่นเพียรอย่างไม่ยุติธรรมมีได้หรือไม่ จงยกตัวอย่าง

กิจกรรมสันทนาการ ให้อภิปรายว่าแต่ละคนต้องมีความรับผิดชอบต่อภารกิจ และ หน้าที่อะไรบ้าง แล้วลำดับความสำคัญ ศึกษาว่าภารกิจหน้าที่ตามข้อ 1 เราต้องทำอย่างไรจึงจะประสบความสา เร็จอย่างดี ร่วมกันประเมินคุณค่าผลจากการมีความรับผิดชอบและความขยันหมั่นเพียรต่อภารกิจและหน้าที่ ที่มีต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ร่วมกันประเมินคุณค่าผลจากการขาดความรับผิดชอบและความขยันหมั่นเพียรต่อภารกิจ และหน้าที่ที่มีต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ

เอกสารคุณธรรมและจริยธรรมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 2549-51 ปรับจากหนังสือ Discovering the Real Me, Universal Peace Federation Edition

โดย ร.ต.อ.หญิง ภัคสกุล นาคจู

คำสำคัญ (Tags): #คุณธรรม
หมายเลขบันทึก: 130783เขียนเมื่อ 22 กันยายน 2007 16:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม 2016 13:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

มีเด็กนักเรียนบ้านนอกคนหนึ่ง พ่อแม่ยากจนหาเงินไม่พอเหลือเก็บมากนัก สมัยเรียนชั้นประถมไม่มีแม้เงินซื้อรองเท้านักเรียน ต้องอาศัยรับจ้างเกี่ยวถั่ว เกี่ยวข้าว ตอนเย็นและเสาร์อาทิตย์ รวมถึงรับจ้างเก็บพริก ดายหญ้า ดำนา แล้วแต่ฤดูกาล แถมแม่ก็มาป่วยอีดๆออดๆ อยู่ร่ำไป เงินที่รับจ้างเก็บไว้ต้องนำมาเป็นค่ายารักษาแม่อีกทางหนึ่ง ไปโรงเรียนก็เอาข้าวใส่ปิ่นโตไปกิน หากจะซื้อขนมกินก็จะซื้อเป็นฮอลล์เพื่ออมไม่ให้น้ำลายไหลเวลาเพื่อนกินขนม บางวันแม่ก็นำอ้อยมาควั่นใส่กระเช้าให้ไปขายโรงเรียน เสาร์อาทิตย์ถ้าไม่มีงานรับจ้างแม่ก็จะทำขนมให้เดินขายตามหมู่บ้าน เมื่อเข้าเรียนชั้นมัธยมก็ต้องออกจากบ้านตั้งแต่เวลา ๖ โมงเช้าอย่างช้าด้วยรถจักรยานจะถึงโรงเรียนสายเป็นประจำ บางวันกลัวถูกตีเพราะไปสายก็จะจูงรถกลับบ้านหรืออาศัยบนต้นไม้แทนเพราะไปสายก็โดนตีหน้าเสาธง กลับบ้านก็ถูกผู้ปกครองซักถามหรือถูกตำหนิ ฝนตกรถล้มเสื้อผ้าชุดนักเรียนก็เปรอะไปด้วยโคลน โรงเรียนเลิกก็ถีบรถจักรยานกลับบ้านมืดๆค่ำๆ เสาร์อาทิตย์ก็ออกรับจ้าง ไม่มีเวลาตัดผมๆยาวเมื่อครูตรวจแถวพบว่าผมยาวก็ถูกทำโทษ เด็กไม่ค่อยพูดจากับใครเพราะคิดว่าตนเองยากจนต่ำด้อยจึงไม่ค่อยคบหาใคร อีกอย่างเกรงว่าเวลาคบเพื่อนๆกินก็เกรงว่าจะไม่มีเงินกินตามเพื่อนจึงอยู่ห่างๆคนอื่นเข้าไว้ เมื่อจบมัธยมไปอาศัยอยู่กับญาติผู้ใหญ่ในจังหวัดก็จะออกไปช่วยญาติขายของตั้งแต่ตีห้า นั่งขายของเหมือนแม่ค้าแต่เป็นพ่อค้าหน้ามนหน้าตาดี ดูเหมือนจะออกตุ๊ดแต่ในใจผู้ชายเต็มร้อย ตกเย็นถีบสามล้อขนของ เสาร์อาทิตย์กลับบ้านนอกรับจ้างทุกยอ่างถ้าไม่ได้ช่วยผู้ปกครองไถนา ทำเทือก เกี่ยวข้าว ดำนา ใครจะรู้บ้างว่านี่คือชีวิตจริง ของเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง อาจมีอีกหลายๆคนที่ลำบาก และอาจยิ่งกว่านี้ เพราะชีวิตคนแต่ละคนแตกต่างกันไป ไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่จะช่วยกันประหยัด อดออม ขยันทำมาหาเก็บเพื่อลูกหลานในอนาคต ที่พูดอย่างนี้เพราะไม่อยากให้ลำบากเหมือนเรา แม้ว่าบทเรียนนั้นจะทำให้ชีวิตเราดีกว่าบางคนในขณะนี้เพราะด้วยความยากลำบากทำให้เป็นคนประหยัด และอดออม เก็บหอมรอบริบมาจนทุกวันนี้ ดูเหมือนจะสวนกระแสในยามที่หลายคนลำบาก ไม่มีเงินพอใช้ แต่เรามี ด้วยเหตุที่เรารู้ว่าความจนเป็นเช่นไร เราจึงมีวันนี้ ทำอย่างไรอย่างนั้นหรือ ถ้าซื้อหวยทุกงวดๆละ ๒๐ บาท เดือนหนึ่งก็ ๔๐ บาท ถ้าดื่มเหล้าดื่มเบียร์วันหนึ่งก็ไม่ต่ำกว่า ๓๐ บาท เดือนหนึ่งก็ ๙๐๐ บาท ถ้าสูบบุหรี่วันหนึ่งก็ ๔๐ บาท ปีหนึ่ง เดือนหนึ่งก็ ๑๒๐๐ บาท ทั้งค่าเหล้า บุหรี่ หวย ถ้าเก็บรวบๆกันไว้จะด้วยวิธีไหนก็สามารถทำให้ชีวิตมีความมั่นคงได้ในที่สุดแต่ก็ต้องอาศัยความอดทนและต้องรอคอยวันนั้น คือความหวัง เป้าหมายคือสักวันต้องมีเงิน เมื่อมีเงินแล้วหูตาก็สว่าง สติปัญญาที่มีก็จะดีขึ้น เรียกว่า มีเงินมีสติ เพราะแม้ว่าเราจะมีปัญญาคิด มีปัญญาทำ บางสิ่งบางอย่างถ้าไม่มีเงินก็เสียเวลาที่จะคิด เพราะคิดแล้วทำไม่ได้ด้วยขาด ทุน คือเงิน บางคนอาจไม่จำเป็นต้องอาศัยเงินในการหาเงิน คือหาด้วยกำลัง และด้วยกลวิธี ก็แล้วแต่ใครจะมีความรู้ ความสามารถในทางไหน แต่อย่างไรก็ดีก็อยากให้เก็บออมไว้เป้นอันดับแรก ที่พิมพ์มาทั้งหมดทั้งปองอยากให้ครู อาจารย์ ได้เรียนรู้ และปรับกระบวนการ วิธีการ ทำโทษเด็กๆ ให้โอกาสเด็กๆมาเรียน และให้โอกาสเขาได้พูด อย่าตั้งกฏระเบียบมากจนกลายเป็นทำร้าย หรือทำลายอนาคตของเด็กบางคนไป อย่างเช่น ถ้ามาสายก็ควรจะสอบถามเหตุผลและช่วยเด็กแก้ปัญหา หลีกเลี่ยงการประจานหรือทำโทษ เด็กผมยาวก็ควรให้โอกาสเขาเหล่านั้น อย่างเช่นหาช่างมาบริการในโรงเรียน ในสถานศึกษา หรือให้เวลาไปตัดผมเป็นต้น เพราะผมเองอยากตัดผมแต่ไม่มีเวลา กลางวันครูก็ห้ามออกนอกโรงเรียน เสาร์อาทิตย์ก็ทำงานบ้านต้องออกรับจ้างหาเงินมาเรียน ขอเพียงครูให้โอกาสออกจากโรงเรียนหรือสถานศึกษาเพื่อไปตัดผม หรือมีช่างมาบริการในโรงเรียนได้ก็ยิ่งดี หรือจะเสริมหลักสูตร ช่างตัดผมแล้วก็ขออาสาสมัคร หัวหุ่น ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายก็จยิ่งดี

ต้องขอแจ้งก่อนว่ายังมิได้อ่านรายละเอียดทั้งหมด เพราะพิมพ์เต็มที่ เต็มหน้ากระดาษ เห็นตอนสรุปท้ายว่า.............. "ที่พิมพ์มาทั้งหมดทั้งปองอยากให้ครู อาจารย์ ได้เรียนรู้ และปรับกระบวนการ วิธีการ ทำโทษเด็กๆ ให้โอกาสเด็กๆมาเรียน และให้โอกาสเขาได้พูด อย่าตั้งกฏระเบียบมากจนกลายเป็นทำร้าย หรือทำลายอนาคตของเด็กบางคนไป" ......... จึงอยากจะออกความเห็นบ้างว่า ในสังคมหนึ่งๆ ใด ก็ต้องมีกฏ ระเบียบของสังคม เพื่อให้หน่วยต่างๆ ในสังคมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างความสุขตามอัตภาพ

เด็กที่ยกตัวอย่างนั้น อาจมีอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ก็มีเด็กอีกจำนวนหนึ่งอาศัยช่องโหว่ ความเมตตา กรุณา ปราณี ของครู อาจารย์ ในการที่จะกระทำการใดๆ เพื่อความสะดวกสบายของตน จากที่ประสบมา ในการลงโทษเด็ก ครู อาจารย์ ก็จะมีการสอบถามเหตุผลในการผิดกฎระเบียบนั้นๆ เพื่อการปรับบรรเทาบทลงโทษ อะลุ้มอะหล่วย การคาดโทษ หาก "เด็กไม่ค่อยพูดจากับใครเพราะคิดว่าตนเองยากจนต่ำด้อย" เมื่อไม่มีการพูดจาก เปิดใจซึ่งกันและกัน อีกฝ่ายหนึ่งจะเข้าใจได้อย่างไร? หากไม่รู้ทราบเบื้องหลังของผู้นั้น เหตุผลของการกระทำผิดกฎระเบียบนั้นๆ ในเบื้องต้นขณะนั้นครูอาจารย์ก็ต้องมีการทำโทษตามกฏระเบียบไปก่อน

จากที่ความเห็นข้างต้นประสบนั้น ก็ขอแจ้งประสบการณ์ที่เคยประสบเช่นกัน เด็กมาสาย มาพร้อมกับผ้าก๊อสปิดแผลหลายแห่ง ให้เหตุผลว่า รถมอเตอร์ไซค์ล้ม ได้รับบาดเจ็บ ทำให้มาสาย แต่จากการซักถาม สังเกตุ ขอดูแผล ก็พบว่า เด็กคนดังกล่าวปิดผ้าก๊อสไว้เฉยๆ โดยมิได้มีบาดแผลเลย เมื่อสืบสวน เด็กก็ยอมรับว่าตื่นสาย คิดว่ามาไม่ทันแน่จึงคิดแผนการดังกล่าว อุตส่าห์ไปซื้อผ้าก๊อส อุปกรณ์ต่างๆ มาสร้างสถานการณ์

จึงอยากแสดงความเห็นว่าในสังคมมีทั้งบุคคลที่ยากลำบากจริง บุคคลที่แกล้งยากลำบากเพื่อหวังความเห็นใจ เมตตาจากผู้คนรอบข้างเพื่อให้ตนเองสบายก็มี การบังคับใช้กฏระเบียบก็เพื่อให้สังคมโดยรวมได้รับรู้รับทราบถึงผลที่จะได้รับจากการกระทำ บางคนอาจคิดว่ามากเกินไป ทำมากเกินไป แต่ละสถานการณ์ก็ต้องมีการพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป ทั้งนี้ สถานการณ์ที่ครู อาจารย์ กระทำผิดก็มีมาก เพราะครู อาจารย์ก็เป็นปุถุชนคนธรรมดา มาตรการกลั่นกรองการรับบุคคลต่างๆ มาเป็นครู อาจารย์ เมื่อเทียบกับปริมาณความต้องการ กำลังการผลิตครู อาจารย์ ผลตอบแทน กฏระเบียบควบคุมครู อาจารย์ฯลฯ ต่างมีผลกระทบต่อพฤติกรรมของครูอาจารย์ด้วย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท