เครื่องข้ามกาลเวลา


อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

สอนคุณธรรมอย่างไรให้พอเพียง

อันดับที่ 17/8 version 2

คุณธรรมแห่งการรู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

วัตถุประสงค์ เพื่อรู้รัก และฝึกฝนจนเคยชิน



ห้องทดลองลับใต้ดินแห่งหนึ่งกลางมหานครใหญ่ นักวิทยาศาสตร์กำลังจับตามองเครื่องมือรูปร่างประหลาดคล้ายวงแหวน 2 วงตัดไขว้กัน ที่ข้างในมีเก้าอี้นั่งซึ่งมีแป้นบังคับอัจฉริยะอยู่ด้วย ตอนนี้ในห้องเล็กๆ ด้านข้างกำลังถกเถียงกันว่าใครจะเป็นผู้ทดสอบระบบของเครื่องมือนี้ หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ทางศูนย์ทดลองต้องสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลไปในทันที

วีรชนเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ของโครงการ ข้ามกาลเวลา โครงการที่ใครๆ ต่างก็ว่าไร้สาระ แต่เหล่านักวิทยาศาสตร์ในห้องทดลองลับนี้ต่างช่วยกันทำให้เป็นจริงขึ้นมา ผลจากการประชุมวีรชนได้เป็นผู้ทดสอบระบบ เขาจะท่องไปในห้วงกาลเวลาเพียง 5 นาที จากนั้นจะกลับมาที่เวลาปัจจุบัน จากนั้นจึงจะข้ามกาลเวลาอีก โดยไปให้ห่างออกไปเรื่อยๆ

เวลาแห่งการรอคอยย่อมมาถึง วีรชนเข้าไปนั่งในเครื่องข้ามกาลเวลา เปิดระบบทำการ เขาเลือกที่อนาคตในอีก 5 นาที เมื่อกดปุ่มทำงาน วงแหวนทั้งสองวงเคลื่อนที่ตัดกันไปมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เกิดแสงสว่างจ้าขึ้น แล้วทั้งเครื่องข้ามกาลเวลาและวีรชนก็หายไป เหล่านักวิทยาศาสตร์ต่างรอคอย จนเวลาผ่านไปมากกว่า 5 นาที แต่ก็ไม่พบเครื่องข้ามกาลเวลาที่ตั้งปรากฏขึ้น โครงการข้ามกาลเวลาล้มเลิกลงในทันที พวกเขาพยายามตามหาวีรชนในทุกที่ ในหน้าประวัติศาสตร์ ก็ไม่พบ จนสุดท้ายผ่านไปยี่สิบปี วีรชนเป็นคนสูญหายของโลกใบนี้

วีรชนหายไปไหน? เครื่องข้ามกาลเวลายังทำงานอยู่ แต่มันทำงานคลาดเคลื่อน กลับเป็นเดินทางไปในห้วงเวลาต่างๆ ห่างกันทุก 500 ปี กลับไปมาในอดีตและอนาคต ในสถานที่ต่างๆ แต่จะอยู่ในที่นั้นๆ ช่วงแรกเพียง 5 นาทีเท่านั้น แต่ต่อมาก็ค่อยๆ นานขึ้น ๆ

ในช่วงแรกวีระชนสับสนมาก แต่ต่อมาก็ยอมรับได้ เขากลายเป็นนักท่องกาลเวลาไปแล้ว

นี่คือบันทึกของวีรชน ที่ค้นพบและตรวจสอบโดยนักโบราณคดีว่ามีอายุในสมัยต้นพุทธศตวรรษที่ 20 แต่ไม่ว่าใครอ่านก็ต้องบอกว่าเป็นบันทึกนิทานลวงโลกทั้งสิ้น

วันนี้ข้าพเจ้าเดินทางมาถึงโลกในวันที่ข้าพเจ้าไม่รู้จักครั้งแรกอีกครั้ง มันคือโลกในอีก 500 ปี หลังเวลาที่ข้าพเจ้าจากมา โลกที่แสนกว้างใหญ่ในยุคของข้าพเจ้า มีเมืองใหญ่ๆ จำนวนมาก ป่าไม้เขตร้อนยังคงมีอยู่ แม้ว่าจะถูกตัดทำลายไปมากในช่วงร้อยปีก่อนที่ข้าพเจ้าจะจากมา สถานที่นี้เคยเป็นเมืองใหญ่มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง ตึกรามมากมายยังคงอยู่ หากแต่ก็มีคราบปื้นสีดำฉาบทับไปทั่ว แม่น้ำยังมีน้ำไหลแต่น้ำในแม่น้ำกลับดำสนิท จนไม่อาจมีแม้แต่สัตว์น้ำเล็กๆ ผู้คนต้องสวมใส่หน้ากากกรองอากาศ เพราะว่าก๊าซพิษต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ยุคอุตสาหกรรมมากขึ้นจนอัตราส่วนของออกซิเจนในอากาศมีเพียง 8% เท่านั้น ข้าพเจ้าตรวจสอบกับพาหนะเดินทางของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าสามารถอยู่ที่นี่ได้ 3 ชั่วโมง แต่ข้าพเจ้าไม่อยากอยู่แม้สักนาทีเดียว โลกที่บนฟ้าไร้ซึ่งนกบิน พื้นดินไม่มีต้นไม้ใหญ่ใดๆ ให้เห็น มีเพียงหญ้าเทียมที่ปลูกไว้เพื่อให้มองดูเป็นสนามสีเขียวเท่านั้น หากมิใช่พาหนะของข้าพเจ้ายืนยันว่ายังมีออกซิเจนในอากาศ ข้าพเจ้าจะมิย่างเท้าออกนอกยานเป็นอันขาด นี่หรือคือโลกที่เชื่อว่าวิทยาการที่ก้าวหน้าจะช่วยให้มนุษย์มีความเป็นอยู่ดีขึ้น แต่ที่ข้าพเจ้าเห็นมีเพียงฟ้าไร้เมฆ ที่แสงแดดแรงกล้าตกกระทบพื้น อุณหภูมิสูงกว่า 45 องศาแม้เป็นตอนเช้า ไร้ซึ่งชีวิตชีวาแห่งธรรมชาติใดๆ นอกจากมนุษย์ โลกที่ไม่ใช่โลกอีกต่อไป แต่ว่าอีกไม่นานโลกใบนี้ก็จะถูกทำลายมากยิ่งขึ้นด้วยน้ำมือของมนุษย์ ช่วงเวลาที่ข้าพเจ้าเดินทางไปยิ่งไกล ยิ่งพบว่าโลกต่างจากความรู้สึกของข้าพเจ้านัก ข้าพเจ้าขอเตือนผู้ที่อ่านบันทึกนี้ โลกจะไม่เป็นเช่นที่ท่านคิด หากท่านเพียงแต่คิดแต่มิได้ดูแลมัน

แต่ใครละจะเชื่อบันทึกเหลวไหลอายุ 300 ปี นี้



ช่วยกันขยายความ

ช่วยหาคติพจน์ สุภาษิตที่ส่งเสริมการรู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ให้ช่วยหาคำสอนของศาสนาต่างๆ ที่ส่งเสริมให้คนรู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทั้งสองกรณี ให้มีอาสาสมัคร รวบรวมบันทึกไว้ เพื่อทำเอกสารแจก ให้เก็บไว้เป็นที่ระลึกโดยลงวันที่ไว้ด้วย

ฝึกความประพฤติให้เป็นคุณธรรม

1. ฝึกให้รู้รอบ : เรื่องเครื่องข้ามกาลเวลาเหมาะสำหรับสอนเรื่องการรู้จักอนุรักษ์ธรรมชาติหรือไม่ เพียงใด

2. ฝึกให้เข้มแข็ง : เราจะช่วยแนะนำคนอื่นอย่างไรให้รู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่างๆ ในการดำเนินชีวิตและการทำงานประจำวันอย่างไร

3. ฝึกให้พอเพียง : การรู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างไรจึงเรียกได้ว่าทำด้วยความพอเพียง

- การรู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างไรที่เรียกว่าทำด้วยความเกินพอเพียง ?

- การรู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างไรที่เรียกว่าทำด้วยความขาด ?

4. ฝึกให้ยุติธรรม : ยกตัวอย่างและเหตุผลของการรู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ยุติธรรมและไม่ยุติธรรมต่อธรรมชาติ สังคมและประเทศชาติ


กิจกรรมสันทนาการ1

ให้อาสาสมัครนั่งล้อมเป็นวงกลม แล้วให้ผลัดกันเล่าถึงประสบการณ์การไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ความสวยงาม ความเป็นธรรมชาติ ความน่าตื่นตาตื่นใจ เมื่อเล่าครบทุกคน ให้ลองเอามาเทียบกับภาพของเมืองในนิทาน แล้วให้อาสาสมัครวาดภาพเหล่านั้นออกมา

กิจกรรมสันทนาการ2

ให้อาสาสมัครออกไปเดินสำรวจธรรมชาติในบริเวณ 100 เมตรจากจุดที่จัดกิจกรรม ให้ช่วยกันเก็บขยะ เศษไม้ ใบไม้ พลาสติก เพื่อนำไปทิ้ง แล้วให้ทุกคนมองไปรอบๆ ให้สังเกตความแตกต่างก่อนและหลังการช่วยกันเก็บขยะ แล้วช่วยกันหาข้อดีของการเก็บขยะครั้งนี้


เอกสารคุณธรรมและจริยธรรมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 2549-51 ปรับจากหนังสือ Discovering the real me, Universal Peace Federation Edition

โดย เอนก สุวรรณบัณฑิต ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการคุณธรรมและจริยธรรม


หมายเลขบันทึก: 130794เขียนเมื่อ 22 กันยายน 2007 17:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม 2016 13:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท