ถึงแม้ทางธรรมฉันจะรู้ว่ามนุษย์ล้วนไม่มีอะไร ไม่สมควรแก่การติดยึดแม้กระทั่งกายอันเป็นขันธ์ 5นี้ แต่ในช่วงที่ฉันยังต้องเกิด และมีชีวิตอยู่บนพื้นแผ่นดินนี้ หน้าที่ของฉันอันหนึ่งก็คือทำความดีเพื่อให้กายและใจนี้มีสภาพอันสมควรตามธรรมชาติที่ดีงาม รวมถึงครอบครัว บ้าน สังคมและสภาพแวดล้อมที่ล้อมรอบตัวฉันอยู่ซึ่งเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับชีวิตของฉัน
บ้านแพรกบ้านเกิดของฉันก็เป็นที่ๆหนึ่งที่ฉันต้องรับผิดชอบดูแล เป็นชุมชนของฉัน สังคมของฉันในโลกสมมุติที่เต็มไปด้วยมายาแห่งกิเลสในสังคมที่เราปฏิเสธไม่ได้เมื่อยังเกิดเป็นมนุษย์ ถึงอย่างไร ฉันก็จะหมั่นคอยตามรู้ดูจิตในการดำรงอยู่นี้ในสังคมนี้เพื่อไม่ให้เกิดทุกข์อันเกินควรอันเนื่องมาจากการติดยึดในสิ่งสมมุติทั้งหลาย ตามมาด้วยการคิดฟุ้งซ่าน ฉันจะคอยตามรู้เพื่อการกระทำหน้าที่ในสังคมนี้เป็นไปด้วยทางสายกลาง นั่นคือวิถีในเส้นทางที่จะรับผิดชอบ และนี่คือสิ่งที่ฉันต้องคอยทบทวน
ฉันเติบโตจากบ้านแพรก ในทางสมมุติด้านสังคมฉันมีรากเหง้าอยู่ที่นี่ ฉันรักท้องถิ่น เหมือนๆกับรักท้องถิ่นที่อื่นๆ และชื่นชมเมื่อไปอยู่ที่อื่นๆ แล้วได้สัมผัสกับบรรยากาศท้องถิ่นหรือวัฒนธรรมอันเป็นรากเหง้าของคนที่นั้นๆ (หรืออาจจะเป็นวัยผู้ใหญ่ของฉันก็เป็นได้) ฉันมีความสุขและดีใจมากเมื่อมีผู้ที่รวบรวมประวัติศาสตร์ของบ้านแพรกไว้ได้มากมาย จนก่อร่างสร้างตัวเป็นพิพิธภัณฑ์ สั่งสมสิ่งมีค่าอันเป็นเรื่องราวอดีตกาลที่มีคุณค่าของชุมชนแห่งนี้หลากหลายด้านแม้กระทั่งตำนานแห่งความรัก ในวันที่ฉันได้ไปสัมผัสกับเรื่องราวเหล่านั้นเป็นครั้งแรก ฉันอึ้งและแทบไม่น่าเชื่อว่ามีบุคคลผู้หนึ่ง ผู้ซึ่งไม่ได้เกิด ณ ถิ่นนี้ เพียงมาเป็นเขยของถิ่นนี้ กลับได้รวบรวม สิ่งมีค่าทั้งวัตถุ ตำรา เอกสาร รวมทั้งวัฒนธรรม ประเพณี การละเล่น ต่างๆ ไว้ได้อย่างมากมาย จวบจนกระทั่งนำแสดงสู่สายตาประชาชน ด้วยการถ่ายทอดให้กับเยาวชนคนรุ่นหลังได้อย่างงดงาม ฉันแทบไม่รู้จะใช้คำใดๆ ในการชื่นชม ท่านผู้นี้ ท่านอาจารย์ประสาน เสถียรพันธุ์ แห่งโรงเรียนบ้านแพรกประชาสรรค์ ผู้ใช้เวลาอันยาวนานในการสืบค้นข้อมูลและจัดทำข้อมูลสรุปเป็นหนังสือไว้อย่างละเอียดจนไม่น่าเชื่อ
กับท่านอาจารย์ประสาน เสถียรพันธ์
เป็นครั้งที่ 2 หรือปีที่ 2 ที่ทางโรงเรียนบ้านแพรกประชาสรรค์ โรงเรียนมัธยมประจำอำเภอซึ่งมีพิพิธภัณฑ์บ้านแพรก “ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ลุ่มแม่น้ำลพบุรี” อันเกิดจากการสืบค้นประวัติศาสตร์บ้านแพรกอันยาวนาน และรวมรวมของมีค่าทางประวัติศาสตร์ไว้อย่างมากมาย ได้เป็นที่จัดงาน “วันรักษ์บ้านแพรก” ขึ้น โดยความร่วมมือของ อำเภอบ้านแพรก กลุ่มโรงเรียนบ้านแพรกพัฒนา สภาวัฒนธรรมอำเภอบ้านแพรก โดยจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ การแสดงวัฒนธรรมประเพณี การละเล่นต่างๆ ด้วยการนำปราชญ์ชาวบ้านมาสาธิตกิจกรรมทั้งในวิถีชีวิต และการละเล่นตามเทศกาล ซึ่งนำแสดงโดยเด็กนักเรียนทุกโรงเรียนในอำเภอ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาเป็นอย่างดี เด็กๆทุกโรงเรียนในอำเภอนอกจากเป็นตัวแทนศึกษาและเป็นต้นแบบถ่ายทอดด้วยการแสดงแล้ว ที่เหลือจะมีสมุดคู่มือ เพื่อเข้าไปศึกษาตามฐานต่างๆ พร้อมการบันทึกความรู้จากครูซึ่งเป็นปราชญ์ชาวบ้าน นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของการถ่ายทอดวัฒนธรรม ประเพณี และรากเหง้าของคนในสังคมรุ่นก่อนสู่ชนรุ่นหลังแบบเครือข่าย โดยงานนี้ได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลและภาคเอกชนที่จะร่วมสนับสนุนอาหารและงบประมาณ ซึ่งงานนี้โดยไม่รู้ข้อมูลมาก่อน ฉันต้องออกไปรับประกาศเกียรติคุณจากท่านผู้ว่าฯ แทนคุณพ่อและคุณแม่ผู้สนับสนุนงานด้วย เพราะท่านติดภารกิจสำคัญมาไม่ได้
2 ปีนี้ ฉันไปร่วมงานด้วยความเต็มใจและอยากไป พร้อมกับการบันทึกภาพ และศึกษา ในฐานะที่ฉันเป็นคนที่นี่ ฉันจึงอยากรู้รากเหง้าของตัวเองในโลกสมมุตินี้เช่นกัน อีกทั้งมาร่วมงานในฐานะภาคีเครือข่ายพันธมิตรด้านการสร้างสุขภาพ (โรงพยาบาลบ้านแพรกมาร่วมตั้งหน่วยปฐมพยาบาลและเชื่อมโยงการสร้างสุขภาพกับชุมชนด้วยนิทรรศการสมุนไพรไทย นำโดยพี่ตุ้ยหัวหน้าพยาบาล) ด้วยกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมสร้างสุขอย่างแน่นอน ปีนี้สิ่งที่ฉันได้สัมผัสด้วยความประทับใจ และอยากทบทวนเก็บไว้และแบ่งปันสู่ผู้อื่นอันได้แก่
หุ่นฟางวิถีบ้านแพรก
• ท่านผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน เริ่มตั้งแต่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดคนปัจจุบัน (นายเชิดพันธ์ ณ สงขลา) ให้ความสำคัญกับมรดกไทยซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลก ท่านมาเปิดงานวันนี้ก็ให้ข้อคิดเห็นกับเรื่องนี้โดยเฉพาะ และท่านนายอำเภอหญิงหัวใจบูรณาการของเรา (นายอำเภอปาณี นาคะนาท) ก็สนับสนุนเต็มที่ เป็นผู้นำประชุมการจัดงานด้วยตนเอง
ท่านผู้ว่าเปิดงานโดยตีระฆังบนหอระฆังไม้
• หุ่นฟางวิถีชีวิตไทยโดยช่างประจำ ต .บ้านใหม่ (ช่างกำจัด ศิริ) ที่ฉันชื่นชอบฝีมือ หุ่นแต่ละตัวแสดงวิถีชีวิตของบ้านแพรกได้อย่างลงตัวมาก ทั้งหุ่นทอดแห ยกยอ สุ่มปลา ไถนา ขี่ควาย ทั้งผู้จัดทำและอาจารย์ประสานบอกว่า ปีนี้มีเวลาเตรียมงานน้อยมากๆ ด้วยปัญหาด้านงบประมาณ หุ่นจะดูหยาบไปหน่อย ครั้งต่อไปจะทำให้ละเอียดกว่านี้
ท่าน ผอ.โรงเรียน(อ.มาฆะ) กับ ช่างกำจัด
• ขบวนแห่นางแมวขอฝน ซึ่งนำรุ่นตัวจริงมาพร้อมด้วยการแสดงของเด็กนักเรียน ที่ทำได้งดงาม และยิ่งใหญ่ (วันนี้ไม่กล้านำแมวมาใส่ในกรงจริงๆ เนื่องจากอดีตนั้น ถ้าทำฝนจะตกจริง เมือวานก็ฝนตกมาก วันนี้ทีมงานกลัวฝนตกอีกจึงไม่นำแมวมาแห่จริงๆ) ซึ่งประเด็นนี้เลยได้ออก สะเก็ดข่าวของช่อง 7 สีในวันที่ 22 กันยายน
• การแสดงพิพิธภัณฑ์ที่ยังคงให้ความขลังเหมือนเดิม ด้วยหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากมาย ทั้งสมุดข่อยโบราณ หลายหลาก รวมถึงบัญชีไพร่พลสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ที่มีชื่อบ้านแพรกอยู่ด้วย ตุ๊กตากับภูมิปัญญาไทย ภาชนะและเศษกระเบื้องเล่าเรื่องโบราณ ตำนานรักบ้านแพรก ซึ่งมีหลายรูปแบบโดยครั้งนี้ฉันไปยืนอ่านตำนานรักของประชาชนต่อท่านผู้พิพากษาที่มีนามว่า พระนนท์ ด้วยคุณงามความดีต่อหน้าที่ เมื่อท่านสิ้นชีวิตแล้วประชาชนได้สร้างสิ่งบรรจุร่างไร้วิญญาณ (เหมเก็บศพ) ทำจากไม้สวยงามอร่ามเรืองด้วยสีทองซึ่งถึงแม้จะเก่าแก่ แต่ก็รู้ว่าท่านเป็นปูชนียบุคคลที่ประชาชนรัก โดยประชาชนนำร่างไร้วิญญาณของท่านใส่สิ่งบรรจุนี้ และมีขบวนนำมาส่งที่จังหวัดอันเป็นบ้านเกิดที่ อำเภอบ้านแพรก ต. สำพะเนียง (ฉันจำได้ว่าตอนอ่านข้อความที่บรรยายในเหมเก็บศพนี้ ฉันเกิดอาการขนลุกขนพอง ซาบซึ้งมีปีติตลอดเวลาจนจบ แม้กระทั่งกลับจากงาน เวลาเล่าให้ผู้อื่นฟังก็ยังมีอาการแบบนี้อยู่)ทั้งนี้รายละเอียดของพิพิธภัณฑ์สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.banprak-nfe.com
เยาวชนคนรักษ์ถิ่นที่สืบทอดเล่าขานประวัติศาสตร์
• การแสดงกลองยาวบ้านแพรก รำวงมาตรฐาน ฟ้อนรำต่างๆ ที่เป็นวิถีชีวิตของบ้านแพรก งดงามด้วยการแสดงของเด็กนักเรียนหลายโรงเรียน
• การละเล่นพื้นบ้านโดยเด็กๆ จากทุกโรงเรียนซึ่งมีครูภูมิปัญญาชาวบ้านร่วมอธิบาย อาทิเช่น กาฟักไข่ เดินกะลา ม้าก้านกล้วย ช่วงชัย(เชลย) มอญซ่อนผ้า ควายกล่อม ก้อยโต่ง บ้องเต้ บ้าซ้อน (ซึ่งฉันเคยรู้จักและเคยเล่นบ่อยๆคือ ม้าก้านกล้วย กาฟักไข่และมอญซ่อนผ้า)
ม้าก้านกล้วย
กาฟักไข่
• การจัดแสดง เรือขุด และเรือโบราณ ต่างๆ มากมายหลายชนิด รวมถึงนำเรือมาทำเป็นโต๊ะกลางสำหรับให้แขกผู้ใหญ่ในงานนี้นั่งรับประทานอาหารว่างแบบไทยๆ และชมการแสดงพื้นบ้าน
• การอนุรักษ์เครื่องจักสานต่างๆในวิถีชีวิต ซึ่งงานนี้มีมือเอกด้านการสานพัดตัวอักษรหรือ สานเป็นรูปราศีต่างๆ มาโชว์กันให้เด็กๆได้สัมผัสจริงๆ
• ซุ้มสมุนไพรไทย ซุ้มอาหารพื้นบ้านที่จัดอาหารแบบไทย ทั้งคาวหวาน ซึ่งวันนี้ฉันอิ่มอร่อยกับข้าวที่หุงแบบไทยดั้งเดิมที่ต้องขุดดินลงไป และใช้กระทะใหญ่ในการหุง (ซึ่งทางช่อง 7นำมาถ่ายทอดในช่วงสะเก็ดข่าว วันที่ 26 กันยายนอันเนื่องด้วยข้าวก้นกระทะอันมีความเหลืองกรอบด้านที่ติดกับกระทะจะถูกปรุงเป็นอาหารแสนอร่อยด้วยมะพร้าวอ่อนขูด น้ำตาลและเกลือป่นเล็กน้อยให้กับเด็กๆต่อไป ตอนเด็กๆ ฉันเคยได้ทานบ่อยเหมือนกัน เป็นแผ่นใหญ่ๆ) กับข้าวและขนมที่อร่อยแบบไทย เช่น ขนมปลากิมไข่เต่า (วันนั้นเห็นแล้วอยากรับประทานมากๆเพราะไม่ได้ชิมลิ้มลองมานาน ก่อนกลับก็รับประทานไป 1 ถ้วยเต็มๆ ) ลอดช่องน้ำกะทิ อาหารทุกอย่างบรรจุในภาชนะเซรามิคโบราณ ขนมบรรจุห่อใบตองต่างๆ โดยนั่งรับประทานเป็นวงๆ ท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ
หน่วยปฐมพยาบาลและนิทรรศการสมุนไพรไทย
ฉันอยู่ร่วมงานไม่จบเพราะต้องกลับมาทำงานที่ รพ. รู้สึกปลื้มใจกับทีมงานที่จัดงานนี้ ไม่ว่าจะเป็นท่านผู้อำนวยการโรงเรียนหญิง (ท่านอาจารย์มาฆะ) ที่เต็มที่กับงานบริการแขกที่มาร่วมงาน แถมท่านยังนุ่งโจงกระเบนที่ฉันชื่นชอบแต่ฉันยังไม่ค่อยกล้าใส่ ท่านอาจารย์ประสานซึ่งเสมือนเป็นหัวหอกของงานที่คงเหน็ดเหนื่อยเป็นที่สุดกับการเตรียมงาน รวมถึงครูอาจารย์และนักเรียนทุกโรงเรียนที่ร่วมกันมาเรียนรู้และขยายผล ปราชญ์ชาวบ้าน หรือครูภูมิปัญญาชาวบ้านที่มาถ่ายทอดสิ่งดีงามเหล่านี้ อีกทั้งผู้สนับสนุนงานในทุกๆด้านที่เห็นประโยชน์ของงาน อย่างน้อยก็เป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้สิ่งดีๆงามๆนี้ ไม่สูญหายไป เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้เด็กๆ ที่นี่ รู้รากเหง้าด้านวิถีชีวิตท้องถิ่นของตัวเองและมีแนวโน้มที่จะรักถิ่น ฉันขอขอบพระคุณและเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านที่ร่วมกันเหน็ดเหนื่อยให้กับงานนี้ และก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งดีๆ แบบนี้จะบังเกิดขึ้นตลอดไป
หมายเหตุ
ประวัติการรับรางวัลของอาจารย์ประสาน เสถียรพันธุ์ ผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม สาขาภูมิปัญญาท้องถิ่น อาทิเช่น
• ครูผู้สอนดีเด่นวิชาสังคมศึกษา รางวัลมูลนิธิสมาน-คุณหญิงเบญจา แสงมะลิ โดยรับพระราชทานรางวัลจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
• รางวัลเสมาธรรมจักรสาขาอนุรักษ์พุทธศาสนา รับพระราชทานรางวัลจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
• รางวัลบุษราคัมศรีราชภัฏ พระนครศรีอยุธยา สาขานักอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น
• เป็นครูภูมิปัญญาไทย สาขาปรัชญาศาสนาและประเพณี จากสภาการศึกษาแห่งชาติ
เห็นรูปที่ลงแล้วช่างเหมาะกับฉายา อยุธยา กรุงเก่าจริงๆ อ่านแล้วก็ชื่นชมกับความเป็นไทยและภูมิใจที่มีการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยวิถีไทยๆให้คงอยู่ ยินดีสนับสนุนด้วยคน
หมายเหตุ นามปากกา ลมเพ ลมพัดคือคนเดียวกันกับ ลมใต้ปีก เพราะว่าเมื่อมาดูตัวเองแล้วพบว่าเป็นคนไม่ค่อยเสมอต้นเสมอปลาย จึงคิดว่าชื่อใหม่เหมาะกับตัวเองมากกว่า
สวัสดีครับ...
ระลึกถึงเสมอ... นะครับ แวะมาดูภาพชีวิตวิถีไทยที่อบอุ่น ชอบการละเล่นต่าง ๆ มาก โดยเฉพาะ "ม้าก้านกล้วนนั้นคือของเล่นอันมหัศจรรย์สำหรับผม เพราะครั้งหนึ่ง ม้าก้านกล้วยเคยพาผมท่องทะยานไปไกลแสนไกลเหลือเกิน
แม่ตัดก้านกล้วย..ทำม้าให้ลูกขี่
ม้านี้ มีพลังอันยิ่งใหญ่
เถิดลูกรัก ควบม้าตัวนี้ไป
ท่องโลกที่สดใสดังจินตนาการ
.....
มาบัดนี้.. ม้าก้านกล้วยซุกตัวอย่างลึกเร้น
รถยนต์ทะยานเต้นมาแทนที่
มอเตอร์ไซด์อหังการ์มาราวี
พรากความฝันอันมากมีไปแสนไกล
รู้สึกและระลึกถึงไม่รู้จบ
พานพบความทรงจำอันยิ่งใหญ่
งดงามเสมอ ณ หัวใจ
โลกของฉันไม่ร้างไร้... ม้าก้านกล้วย
สวัสดีค่ะคุณ...ลมเพลมพัด
สวัสดีค่ะ... pa_daeng
สวัสดีค่ะคุณ แผ่นดิน
สวัสดีค่ะคุณน้อง ขจิต ฝอยทอง
สวัสดีค่ะ
มาบอกกัลยาณมิตรที่แวะเวียนมาว่า...3 วันนี้จะพาน้องอินกับสหายกัลยาณมิตร ไปพักผ่อนคลายด้วยการสัมผัสกับธรรมชาติ แล้วจะเที่ยวเผื่อนะคะ...บ๊าย..บาย...ค่ะ..
คิดถึงจังเลย จำได้ว่าเคยไปดูแห่นางแมวฉบับบ้านแพรกด้วย ดูการละเล่นไทยๆ วิถีชีวิตที่สงบเรียบง่าย เดินดูของลำค่า (ทางประวัติศาสตร์) ในพิพิธภัณฑ์ ... ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ จะได้แวะเวียนไปอีกครา ฝากความระลึกถึง อ.มาฆะ และ อ.ประสานด้วยนะ คะ
สวัสดีค่ะ
สวยจังค่ะชุดไทย และภาพชีวิตวิถีไทยที่อบอุ่น ยอดเยี่ยมมากๆ ชอบวิถีชีวิตที่สงบเรียบง่าย อย่างนี้ค่ะ
ตอนนี้อยู่บ้าน ฝนตกทุกวัน แต่ดอกไม้ใบหญ้าเขียวสดสวยมากค่ะ คิดถึงค่ะ
สวัสดีค่ะ..ผู้ที่เคยผ่านมาทำหน้าที่ที่บ้านแพรก
สวัสดีค่ะ...คุณพี่ sasinanda
ป้าแหววขาเข้าใจเอารูปมาขึ้นเว็บนะค่ะ
แม้มีรูปแพรเสียด้วยสวยพอ ๆ กับใครเอ่ย ตอบหน่อยได้ไหมค่ะ
การทำเว็บแบบนี้ช่วยแสดงให้เห็นถึงภาพวิถีชีวิตแบบไทย ซึ่งหาดูได้ไม่มากนักเพราะกาลเวลาเปลี่ยนไปมาก ภาพการใช้ชีวิตแบบไทยก็เลือนหายไปเหลือแต่ความสะดวกสบายที่เข้ามากับโลกปัจจุบัน
พิพิธภันฑ์บ้านแพรกศูนย์ศึกษาประศาสตร์ชุมชนลุ่มแม่นำลพบุรี ได้จัดเก็บและรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ สมุดข่อยโบราณ ตำนานความรักของคนสมัยโบราณและอื่นๆอีกมากมาย
ในนามตัวแทนหัวหน้ามัคคุเทศย์น้อยแห่งพิพิธภัณฑ์บ้านแพรกขอขอบคุณ คุณพชรวรัตถ์ที่ได้ให้เกียรตินำสิ่งดี ๆ ของพิพิธภัณฑืบ้านแพรกมาเผยแพร่ แก่ประชาชนทั่วไป
หวัดดีจ้า หนูแพร rapipan มัคคุเทศน์น้อยคนสวย..
กลับมาแล้วค่ะ..ด้วยใจคิดถึงพี่ๆ น้องๆ ถึงไม่อยู่บ้าน ด้วยภารกิจมากมาย หลายด้าน แต่ก็คิดถึงอยู่เสมอ...ขอบคุณนะคะกับความรู้สึกดีๆ และ หมั่นมาคอยสอดส่องดูแลบ้านให้ทั้งน้องรักษ์ และน้องขจิต ขอบคุณจริงๆค่ะ.. แล้วจะพยายามส่งข่าวไว้บ้างนะคะ...นี่ก็มิได้บันทึกข้ามเดือนแล้วสินะ...
เป็นสิ่งที่ดีทำไห้กับสังคมและคนรอบข้าง ไม่ต้องมองไกลไห้มาก เป็นชุมชลที่หน้าอยู่อีกชุมชลหนึ่ง ขอเป็นกำลังใจไห้ จากคนต่างแดน