วันแรกหลังถอดหัวโขน วันใหม่เริ่มต้นแห่งชีวิตใหม่


วันปลดเปลื้องพันธนาการแห่งชีวิต ภูมิสังคมที่อุดมไปด้วยคุณอำนาจ คิดแต่น้อยทำมากๆ เต็มไปด้วยธงที่ต้องวิ่งชน เป็นสังคมทีไม่ชอบทั้งคุณอำนวยและคุณเสนอ

วันนี้เป็นวันที่ได้ใช้ชีวิตอย่างไร้สาระและมีสาระผสมผสานกัน 

เริ่มจากงานสาระช่วงบ่ายร่วมสัมมนากับสถาบันเอเชียศึกษา  จุฬา พูดกันเรื่อง"ธรรมยาตราผ่าเส้นทางปืน:ผ้าเหลืองกับการเมืองพม่าในสายตาโลก" ฟังดูแล้วอยากให้พม่าเป็นประชาธิปไตย  เหมือนตะวันตกซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย  แล้วจะใช้วิธีบังคับให้เป็นยิ่งยากใหญ่  แม้ไทยเองยังวิ่งออกคลองเข้าคลองประจำ  แถมบางครั้งเข้าถึงคลองซอยไปเลย  พม่าดูออกจะเปิดกว้างมากซะอีกเช่นที่ผู้นำเสนอบอกว่ามีการจัดปกครองแบบเขตปกครองพิเศษในหลายเมืองของพม่า  ของไทยเองมีการเรียกร้องอยู่

สาเหตุสำคัญจากราคาน้ำมัน  และมีการจัดตั้งและผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง  พร้อมมีการเสนอให้จีนบีบบังคับ

ความเห็นที่ได้เสนอไปคือไม่ต้องไปพิสูจน์ทราบว่ามีอภิมหาอำนาจอยู่เบื้องหลังหรือไม่  ที่ผ่านมาทั้งเปิดเผยและปิดลับทำประจำอยู่แล้วและทำในหลายๆประเทศเช่นในจีน  เลบานอน  คิวบา  อินโดนีเซีย  ในอิหร่านปัจจุบัน  ฟิลิปปินส์เปิดเผยเลย  รวมทั้งในอาฟกานิสถานและอิรัก  เชื่อแน่ว่าจะไม่รุนแรงเทียบเท่าภาคใต้ของไทย 

เสร็จจากสาระไปไร้สาระ
จากจุฬาไป Center Point ในรายการ Indy Style
รายการIndy Style ที่มีการออกแบบจัดทำงานศิลปะกันแบบสดๆๆ  ลองตามไปดู

วาดรูปแบบสดๆโดยศิลปินเหมือนหรือไม่ดูเอา

แหล่งชุมนุมวัยรุ่นกลางย่านสถานศึกษามีของตกแต่งด้วยฝีมือสดๆ

 

 

ฝีมือสดๆทั้งปักทั้งถักทั้งวาดทั้งสลักครบถ้วนมากมาย  

 

 

สุดท้ายไปจบที่พารากอน  ได้หนังสือดีมาอ่านหนึ่งเล่มชื่อว่า Beginning a New
ชื่อไทย"เริ่มต้นใหม่"ของรอยติช  นัท  ฮันห์ การรันตี

โดยท่าน ว.วัชรเมธีและพระไพศาล  วิสาโล

วันแห่งสาระและไร้สาระจบลงในท้ายสุดของวันหลังถอดหัวโขนครับ

หมายเลขบันทึก: 134255เขียนเมื่อ 2 ตุลาคม 2007 23:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

Thich Nhat Hanh l'Eveillé du village des Pruniers

ติช นัท ฮัน ผู้ตื่นแห่งหมู่บ้านลูกพรุน

เคยได้ยินชื่อท่านมาบ้างแล้ว เห็นหนังสือที่ท่านเอกซื้อมาอ่านเลยค้นคว้าดูพบว่า

ท่านหนีสงครามเวียดนามไปอยู่ฝรั่งเศสเมื่อปี ๑๙๗๐ เป็นผู้นำเสนอศาสนาพุทธแบบเซนให้กับชาวตะวันตกที่มาจากทั่วยุโรปและอเมริกาเพื่อฟังคำสอนของท่านในหมู่บ้านพรุนแถวบอร์โดถิ่นไวน์ดีของฝรั่งเศส

ผู้ที่อยู่ในหมู่บ้านจะจับอยู่กับลมหายใจเข้าออกตลอดเวลา ทำให้เกิดสติที่มั่นคงสม่ำเสมอในการหายใจ การเดิน การพูด การมอง การกิน การดม การสัมผัส และการใช้ชีวิตร่วมกับสิ่งมีชีวิตอื่นไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง สัตว์ พืช

"หายใจ แสดงว่า ท่านยังมีชีวิตอยู่" ข้อความเขียนติดผนัง

ท่านได้เริ่มมาตั้งถิ่นฐานในถิ่นปลูกไวน์มีชื่อเสียงก้องโลกของฝรั่งเศสในช่วงปี ๑๙๘๒ โดยถอนต้นองุ่นทิ้งและปลูกต้นพรุนแทนจำนวน ๑๒๕๐ ต้น ตัวเลขที่มีความหมายในศาสนาพุทธเมื่อภิกษุจำนวน ๑๒๕๐ รูปมาประชุมกันโดยมิได้นัดหมายในวันมาฆบูชาเป็นวันเกิดพระธรรม และต้นพรุนมีความหมายถึงความยั่งยืนนิรันดร์ นอกจากนั้น ยังมีบ่อน้ำที่มีกอบัวปลูกอยู่มากมาย ดอกบัวสัญญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และการตื่นขึ้นจากโคลนตม

ผู้สนใจศึกษาค้นคว้าแสวงหาทางสงบให้กับชีวิตจากหลายประเทศ อเมริกา เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ สวิส ฯลฯ ทั้งฤดูร้อนและฤดูหนาว ชาวพุทธ คริสต์ หรือคนไม่มีศาสนา ต่างเดินทางมาเรียนกับท่านติช นัท ฮัน

ทุกคนจะต้องยึดถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะ และถือศีลห้า ความเคารพซึ่งกันและกันของสิ่งมีชีวิต ทุกคนในหมู่บ้านจะกินอาหารมังสวิรัต และเคารพในสิ่งมีชีวิตแม้จะเป็นแมลงตัวเล็ก

"พืชผักจะเป็นอย่างไรถ้าไร้แสงตะวัน ไร้น้ำ ไร้คนปลูก นั่นคือ พืชอยู่ไม่ได้ด้วยตัวเอง คนเราก็เช่นกัน ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันด้วยความเคารพต่อกัน"

"เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ ถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง"

 

สวัสดีค่ะ

ตามมาอ่านค่ะ  เห็นบล๊อกแล้วดีใจมากค่ะ ในที่สุดก็ตามจนพบค่ะ  เป็นกำลังใจให้คนทำงานด้วยความจริงใจ  หัวโขนเมื่อเราถอดแล้ว เราก็สบาย ทำอะไรได้อย่างสบายใจ 

ปล. เหมือนเข้าไปนั่งอยู่ในเหตุการณ์ค่ะ ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณที่ตามมาหา ยังใส่คำสำคัญไม่เก่งครูราณีช่วยสอนด้วย  เมื่อสักพัก อ. Beeman โทรมาคุยด้วย

ดีใจที่เริ่มผูกใจชาวบล็อกได้บ้าง

  • สวัสดีครับ
  • ตามอาจารย์ราณีมาเยี่ยมเยียนครับ
  • ขอบพระคุณมากครับ

ครับ สิงห์ป่าสัก หนุ่มไฟแรงอีคนที่เบียดสูสีกับ อ.ขจิตยินดีที่รู้จักครับ  แหมถ้ารู้จักก่อนคงได้ร่วมงานกันหลายยก  ไม่เป็นไรเวลาและโอกาสยังอำนวย

  • ตามมาดู
  • หลากหลายมากเลยนะครับ
  • งานมีหลายแบบ
  • ท่าทางสนุกดี

ตามมาดูอาจารย์เอก เขียนเรื่องไร้สาระให้เป็นสาระครับ แฮ่ม

ไปเก็บมุมมองต่างๆมามากมายแต่ไม่สามารถถ่ายทอดได้ทันวันเวลาไม่รู้มันจะเร่งไปไหน 

ตามกลิ่นไอคนทำดีมากค่ะ   หอมจริงๆเลยนะคะอาจารย์เอก   อิอิ

เคยอ่านเรื่องของท่านติช เหมือนกันค่ะ 

 ขอบพระคุณค่ะ

สวัสดีครับอาจารย์ P เอก

  •  กลับถึงบ้านเรียบร้อยแล้วครับ
  • เดินทางบนอากาศรวดเร็วกว่าเดินดินเยอะมากครับ
  • ขนาดใข้สองล้อซิกแซก  ยังเกือบชั่วโมง
  • สมควรแล้วที่บรรดา เทวดา นางฟ้า จึงชอบอยู่บนอากาศ  เพราะไม่มีรถติดนี่เอง..ใช่ไหมครับ

Pผมก็นั่งไฟฟ้ามาซะเร็ว
ต่อรถเมล์อีกสิบนาที
แต่คอยแท็กซี่เกือบครึ่งชั่วโมงเจ็บจริงๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท