วันนี้ขอนำสนอการจัดการความรู้เกษตรกรรมแบบประณีตเป็นตอนที่ 3 นะครับ เพื่อที่เราจะได้สร้างความเข้าใจร่วมกัน และสามารถนำไปบอกต่อ สำหรับคนที่กำลังหาทางออกให้กับชีวิตของตนเอง ครั้นพอมาถึงวันนี้ และตอนนี้จึงมีคำถามว่า
มีปัจจัยพื้นฐานอะไรบ้างที่ต้องมีในที่ดิน 1 ไร่
1. ความรู้ และกระบวนการการเรียนรู้ นับเป็นหัวใจสำคัญในการทำเกษตรกรรมแบบประณีต 1 ไร่ โดยเฉพาะความรู้เกี่ยวกับการพึ่งตนเอง ความรู้เกี่ยวกับการทำเกษตรผสมผสาน
2. ทุนต่าง ๆ ที่จะก่อให้เกิดความสำเร็จ ได้แก่
1) ทุนทางสุขภาพ ได้แก่ แรงงานที่แข็งแรงในครัวเรือนทั้งทางร่างกายและจิตใจ
2) ทุนทางสังคม ได้แก่ ญาติสนิทมิตรสหายที่จะมีมารวมตัวกันอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ ในการร่วมคิดร่วมทำ ทัศนคติ ความเชื่อความศรัทธา และวิสัยทัศน์
3) ทุนที่เป็นเงิน เพื่อจับจ่ายใช้สอยวัสดุที่ต้องใช้เงินซื้อ เช่น วัสดุ อุปกรณ์ในการทำการเกษตร เช่น จอบ เสียม มีด ขวาน กากน้ำตาล ถึงทำปุ๋ยหมักชีวภาพ เป็นเงินทุนสำหรับสร้างที่อยู่อาศัย สร้างคอกสัตว์ ซื้อพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ และเงินทุนสำรองจ้างเครื่องจักรกลมาขุดสระเพื่อออมน้ำ
4) ทุนทางสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ดิน ซึ่งควรมีที่ดินไม่น้อยกว่า 1 ไร่ สภาพต้นไม้มีไม้ใช้สอย ไม้ผล พืชสมุนไพร พืชผักสวนครัว เห็ด ไม้ดอกไม้ประดับ สัตว์ชนิดต่าง ๆ เช่น สัตว์น้ำ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา กบ สัตว์บก เช่น หมู่ วัว ควาย แพะ แกะ สัตว์ปีก เช่น เป็ด ไก่ ห่าน นก เป็นต้น
3. การจัดการ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุด เพราะการจัดการทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ และการจัดการบวกกับความรู้เดิมจะช่วยให้เกิดความรู้ใหม่ในการแก้ปัญหายาก ๆ ได้ การจัดการประกอบด้วย
1) แผนงาน ควรมีความสอดคล้องกับเป้าหมายชีวิต โดยมีการวางแผนพื้นที่โดยแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนต่าง ๆ ได้แก่ พื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่แหล่งน้ำ พื้นที่เลี้ยงสัตว์ พื้นที่ปลูกไม้ใช้สอย พื้นที่ปลูกสมุนไพร พื้นที่ปลูกพืชล้มลุก และพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจ โดยเน้นความสมดุล และการเกื้อกูลกันของพืชและสัตว์ให้เกิดระบบนิเวศที่สมดุล แผนการปรับปรุงบำรุงดิน แผนการตลาด เพื่อจำหน่ายผลผลิตเองไม่ได้รวมทั้งมีการวางแผนเวลาโดยต้องแบ่งเวลาในการทำงาน เวลาในการเรียนรู้ เวลาในการวางแผนพัฒนางานและแก้ปัญหา รวมทั้งเวลาในการพักผ่อน
2) องค์กร ในครอบครัวต้องรู้ว่าบทบาทหน้าที่ของใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ในชุมชน และเครือข่ายต้องมีเวทีระดมสมอง มีผู้รับผิดชอบและประสานงานเรื่องต่าง ๆ ตามแผนงาน
3) การประเมินผล มีการเตรียมการจดบันทึกบัญชีรับ - จ่าย บันทึกการใช้แผนงาน บันทึกปริมาณผลผลิตที่ได้รับ
4) ทุนที่พอเพียง เพื่อใช้ในการบริหารจัดการ
ปัจจัยที่นำเข้าที่สำคัญมีอะไรบ้าง
1. ฉันทะ กล่าวคือ มีความพอใจ และศรัทธาด้วยใจรักในการทำเกษตรกรรมแบบประณีต
2. วิริยะ คือ ความเพียรที่จะดำเนินการในเรื่องต่าง ๆได้แก่ การใช้แรงงาน การลงทุนทำแหล่งน้ำ การปรับปรุงบำรุงดิน การจัดหาพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์รวมทั้งการปรับปรุงสายพันธุ์ที่มีอยู่ให้ดีขึ้น การใช้ทุนที่เป็นเงินในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เพิ่มเติม การสร้างเรือนเพาะชำ โรงเพาะเห็ด เรือนเลี้ยงสัตว์ ซื้อวัสดุอุปกรณ์ และเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มผลผลิต และแปรรูปผลผลิตให้กินและใช้ได้นานขึ้น เหลือกินได้ขายในราคาที่ดีขึ้น
3. จิตตะ คือ ใส่ใจในงานที่ทำอยู่ด้วยรักและศรัทธา รวมทั้งด้วยใจจดจ่อ
4. วิมังสา คือ ประเมินผลตลอดเวลา แล้วนำมาปรับปรุงงานเกษตรกรรมแบบประณีตที่ทำอยู่ พร้อมทั้งคอยหาเพื่อน และหน่วยงานต่าง ๆ ที่สนใจมาให้ความคิดเห็นข้อเสนอแนะรวมทั้งการสนับสนุนในรูปแบบต่าง ๆ
ครับทั้งหลายทั้งปวงนี้ เป็นเพียงแนวทางในการปฏิบัติเพื่อนำไปสู่การเรียนรู้ที่พอเพียง ซึ่งน่าจะเป็นทางในการดำเนินชีวิตของพี่น้องเกษตรกร และผู้สนใจทั่วไปที่จะไปปรับใช้ให้เกิดความเหมาะสมสำหรับตนเอง อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่สูตรสำเร็จ ท่านจะต้องพิสูจน์ด้วยตัวของท่านเอง และอย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะครับ
ขอบคุณครับ
อุทัย อันพิมพ์
เรื่องนี้ควรเขียนเมื่อ ๓ ปีที่แล้วครับ
หรือรอให้หลังจากจบไปแล้ว ๓ ปี ก็ได้
จะคม ชัด ลึกกว่านี้ครับ
ขอบพระคุณมากครับอาจารย์
จะพยายามปรับปรุงและสร้างสรรค์สิ่งที่ดี และมีประโยชน์ต่อไป ถึงแม้จะช้าบ้างก็คงไม่เป็นไรนะครับ
หวัดดีครับน้องกิ่ง
ขอบคุณมากครับ
ด้วยความระลึกถึง