เรื่องเล่าบทที่ 14 - เมืองแห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์...เมื่อชีวิตเริ่มต้นที่เดือนตุลาคม


ขึ้นชื่อว่าเมืองแห่งมหาวิทยาลัยทั้งที เปิดเทอมกันที่เดือนตุลาคม ชีวิตมันก็ต้องวุ่น ๆ สักหน่อยสิน่า ^_^

เดือนตุลาคม เดือนแรกประจำปีการศึกษาของหลายมหาวิทยาลัยในอังกฤษ รวมทั้งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์แห่งนี้ นี่ก็ครบหนึ่งปีเต็มที่เรามาอยู่เมืองนี้ เลยมองย้อนกลับไปดูว่าหนึ่งปีที่ผ่านมามีอะไรเกิดขึ้นและวนเวียนอยู่ในเคมบริดจ์ เมืองที่เต็มไปด้วยนักเรียน นักศึกษา นักวิชาการ และรางวัลโนเบล แห่งนี้บ้าง 

   

จะว่าไปแล้วเมืองเคมบริดจ์มีชีวิตอยู่ได้ด้วยนักเรียนจริง ๆ เพราะประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของเมืองนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ทั้งนั้น ฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร รถเมลล์ ที่อยู่อาศัย ความวุ่นวายในเมือง หรือบางช่วงกลายเป็นเมืองผีหลอก ก็ล้วนขึ้นอยู่กับว่าเป็นช่วงเปิดเทอมหรือปิดเทอม วันนี้จะเล่าชีวิตเมืองเคมบริดจ์ในเดือนตุลาคม เดือนที่หลาย ๆ อย่างเพิ่งเริ่มต้นขึ้น

   

ตุลาคม จะว่าเป็นเดือนแห่งการเริ่มต้นฤดูหนาวของประเทศอังกฤษก็คงได้ ใบไม้เริ่มหล่นหายไป ลมหนาวพัดมาให้พอรู้สึกถึงอากาศที่เริ่มเปลี่ยนแปลง พระอาทิตย์เริ่มขึ้นช้า แต่ตกเร็วกว่าเดือนที่ผ่านมา ผ้าพันคอ ถุงมือ หมวก เสื้อโค๊ต รองเท้าบู๊ต ที่เคยเก็บไว้ในตู้เมื่อยามหน้าร้อน เห็นทีจะต้องถูกเรียกหามาใช้งานอีกครั้งในเดือนนี้

   

ตุลาคม สำหรับเมืองเคมบริดจ์ คือเดือนที่เต็มไปด้วยคนหน้าใหม่ มองไปทางไหนก็จะเห็นเด็กที่เพิ่งมาเรียนที่นี่ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ เช่น เอเชีย เดินเกาะกันเป็นกลุ่มเพราะยังไม่คุ้นเคยกับเมือง รวมทั้งนักเรียนหน้าเก่าแต่เพิ่งกลับจากบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองจากช่วงปิดเทอม หลายคนแวะหยุดทักทายเพื่อนฝูง ถามไถ่ข่าวคราวกันตามสมควร ร้านค้าทั้งที่เป็นร้านขายของชำ ซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านที่ขายครื่องปรุงอาหารจากประเทศแถบเอเชีย (เช่นร้านขายของจีน ของไทย ของอินเดีย) ก็จะเต็มไปด้วยเด็กนักเรียนหรือผู้ปกครองมาจับจ่ายซื้อของ เพื่อเริ่มต้นชีวิตในเมืองนี้

ฉะนั้น พวกที่อยู่เคมบริดจ์อยู่ตลอดทั้งปี เช่นพวกเรียนปริญญาเอก จะรู้สึกเซ็ง จะปั่นจักรยานไปทางไหนก็ต้องระวังเพราะมีแต่นักเรียนเดินขวางถนนเต็มไปหมด จะจอดจักรยานสักทีก็ไม่มีที่จอด จะแวะซื้อของในซุปเปอร์ก็ต้องต่อคิวยาวเหยียดเพราะพวกเพิ่งมาใหม่ก็ต้องเริ่มนับหนึ่งซื้อของกินของใช้กันทั้งนั้น

ส่วนตัวแล้ว ถ้าจะไปซื้อกับข้าวที่ซุปเปอร์ ต้องไปก่อนห้าโมงเย็น ไม่งั้น ไม่มีที่จอดจักรยาน ไม่มีที่เดินในซุปเปอร์ ต้องต่อคิวจ่ายตังค์นานและแถวยาวมาก และที่สำคัญที่สุดคือถ้าไปหลังหกโมงเย็นแล้วของจะหมด หมูไก่เนื้อ องุ่น กล้วย แครรอท ขนมปัง หมดเกลี้ยง ไม่รู้ว่านักเรียนพวกนี้มาขนซื้อของไปไหนกันเยอะแยะ และไม่รู้ว่าทำไมร้านค้าจึงไม่เอาของมาเพิ่มหรือเตรียมแผนสำรอง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเดือนนี้ของทุกปีจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก อย่าว่าแต่ของกินเลย เราเคยไปเดินหาซื้อแก้วพลาสติคสักโหลก็ยังหาซื้อไม่ได้ เพราะทุกชมรม ต่างจัดปาร์ตี้รับสมาชิกใหม่กันในเดือนนี้ทั้งนั้น เฮ้ออออ

   

ยังมีอีกอย่างที่เห็นชัดในเดือนตุลาคม คือจักรยาน เคมบริดจ์เป็นเมืองแห่งจักรยาน จำนวนจักรยานคงมากกว่ารถยนต์หลายเท่าตัว เคยเขียนบันทึกเรื่องจักรยานไปแล้วครั้งนึง และในเดือนนี้เราก็จะได้เห็นจักรยานคันใหม่ ๆ ออกมาโฉบเฉี่ยวอยู่ในเมืองให้หลาย ๆ คนอิจฉาเล่น ร้านจักรยานเกือบทุกร้านจะแน่นขนัดตั้งแต่เช้าจดเย็น แม้จะมีโปรโมชั่นแย่งลูกค้าให้เห็นกัน แต่ในเดือนตุลาคมนี้ จักรยานจะมีราคาแพงกว่าเดือนอื่น ๆ ในรอบปี ถ้าใครอดทนไม่มีจักรยานใช้ไปสักเดือนสองเดือน ก็อาจจะหาจักรยานได้ในราคาที่ถูกลง ยังมีจักรยานมือสองมือสามจอดติดราคาขายในที่สาธารณะให้เห็นอยู่ทั่วไป

ที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ เดือนนี้จะมีจำนวนจักรยานถูกขโมยมากที่สุดเช่นกัน เพราะจักรยานใหม่ ๆ ใคร  ๆ ก็อยากได้ แถมนักเรียนใหม่อาจจะยังไม่ระวังที่จะจอดจักรยานให้ปลอดภัยจากสายตาโจร ก็ที่จอดจักรยานในเมืองนี้หาง่ายซะที่ไหนกันล่ะ ฮ่า ๆ  ที่จอดหนะมีอยู่ทั่วเมือง แต่ถ้าอยากได้ที่จอดจักรยานว่าง ๆ นี่สิ คงต้องอดทนเดินหาหน่อยนะ

   

ใครจะทานอาหารนอกบ้านหรือนัดปาร์ตี้ร้านไหนในเดือนนี้ ก็คงต้องโทรจองล่วงหน้ากันสักหน่อย เพราะทุกร้านมีลูกค้าแน่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพื่อนฝูงคิดถึงกันช่วงปิดเทอมก็มานัดทานข้าวกันช่วงเปิดเทอมใหม่ อาจารย์นัดลูกศิษย์หน้าใหม่มาทานข้าว เพื่อนใหม่นัดทำความคุ้นเคยสนิทสนมกันตอนทานข้าว และอีกสารพัดนัดทานข้าว ถ้าจะคิดนัดเดทกับคู่รักให้สวีทโรแมนติคหวานแววในเดือนนี้ก็หมดสิทธิ์ อิ อิ

   

เอาเป็นว่าพอก่อนดีกว่าสำหรับชีวิตในเมืองเคมบริดจ์ช่วงเดือนตุลาคม ไว้จะมาเล่าจังหวะชีวิตของเมืองนี้ในเดือนพฤษจิกายนที่กำลังจะมาถึงกันต่อนะคะ ^__^

หมายเลขบันทึก: 141280เขียนเมื่อ 24 ตุลาคม 2007 05:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 16:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีค่ะ พี่ณิชนันทน์

อ่านแล้วสนุกดีจังค่ะ ได้รู้ว่าประเทศอื่นๆ มีวิถีชีวิตเป็นยังไงบ้าง แล้วจะเข้ามาติดตามอีกนะค่ะ

หวัดดีจ้า P มะปรางเปรี้ยว
เล่าจากที่เห็นอยู่รอบ ๆ ตัวนี่ล่ะค่ะ จริง ๆ เริ่มเปิดเทอมใหม่ในหลาย ๆ มหาลัย คงมีอะไรที่คล้ายกัน แต่เคมบริดจ์เป็นเมืองเล็กมาก และชื่อเสียงหลักของเมืองมาจากมหาวิทยาลัย เปิดเทอมทั้งทีมันก็วุ่นแบบนี้ล่ะจ๊ะ :-D
ณิช
อะโหแฮะ กะเข้ามาเขียนโกทูโนอีกทีเดือนพฤศจิเลยสิเนี่ยะ....

อ่ะอ้าวววว นึกว่าไผ งัยมาโผล่นี่ได้ล่ะเพื่อน ไว้จะตามไปอ่านเด้อ :-P

นู๋ ณิช

ถ้าจะคิดนัดเดทกับคู่รักให้สวีทโรแมนติคหวานแววในเดือนนี้ก็หมดสิทธิ์

  • น่าเสียดายจังเลยนะจ้ะหนูณิช น่าจะมีข้อยกเว้นสำหรับบางกรณีนะเนี่ย  555
  • ไม่ได้เป็นเฟรชชี่แล้วนะ ดีใจด้วยที่แก่ขึ้นอีกหนึ่งปี

เรย์

P Raynu

นั่นดิ ตอนนี้ทำอะไรต้องระวัง จะอ้างว่า หนูไม่รู้ หนูเป็นเด็กปีหนึ่งค่ะ คงจะโดนเค้าเขม่นเอา ฮ่าๆๆ

ว่าแต่อย่ามาเผากันแถวนี้สิเพื่อน :-P

ณิช

K Nichanun

  • อยู่ที่นั่นมาปีหนึ่งเหมือนกันครับ St. Catharine
  • ช่วงแรกอยู่ที่ Russell Street แล้วขยับย้ายมาที่ Trumpington Street
  • ชอบไปเดินซื้อหนังสือเก่าตรงตลาดกลางเมือง
  • ร้าน Fitzbilly's ยังคนแน่นอยู่ไหมหนอ คิดถึง เค้กอร่อยมาก

สวัสดีค่ะคุณนเรศ

ได้พักอยู่แถวในเมืองโชคดีมากเลยค่ะ เพราะที่พักตอนนี้อยู่ไกลมาก กว่า 20 นาทีปั่นจักรยานมาแล็บ ฮ่าๆ

ชอบไปเดินดูหนังสือที่ Borders ค่ะ ไม่แน่ใจว่าร้านหนังสือในตลาดยังมีอยู่รึเปล่า ส่วนร้าน Fitz นี่ คนเยอะตลอดเวลา ขนมอร่อยและเรียกน้ำหนักได้ดีมาก ๆ เลย ถ้าวันไหนมีเพื่อนมาเยี่ยมหรือเที่ยวเคมบริดจ์ ก็ต้องพาไปซื้อขนมร้านนี้ทุ๊กกกที :-D

ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท