"สมมติว่า วงดนตรีชื่อดังที่ท่านชื่นชอบนำอัลบั้มใหม่ที่ยังไม่ได้วางขายตามแผงมาให้ท่านดาวน์โหลดผ่านทางเว็บไซต์ ให้เก็บไว้ฟังได้ครบทุกเพลง มิหนำซ้ำ ยังบอกด้วยว่า ให้ท่านตั้งราคาซื้อขายได้เองตามใจชอบ รักมาก ก็ให้มาก รักพอเพียง ก็ให้แบบพอดีพองาม หรือใจร้ายอยากดาวน์โหลดไปฟังฟรี ไม่จ่ายสักแดง คนขายก็ไม่ว่า
เรียกว่า ตั้งราคาแบบตามใจคนซื้อเต็มที่ คนฟังอยากจ่ายเท่าไหร่ก็ได้ ไม่จ่ายเลยก็ได้
ลองถามตัวเองว่า ถ้าเป็นท่าน จะยินดีจ่ายเงินไหมครับ และจะจ่ายเท่าไหร่?"-----------------------------
อยากเขียนเรื่องนี้มากตั้งแต่วันแรกที่ได้ดูข่าว ทางทีวี วันทีทางวงออกมาประกาศ แต่ก็อยากรอดูผลว่าตกลงมันออกมาเป็นอย่างไร
วันนี้อ. ปกป้อง จันวิทย์ เขียนมาให้อ่านได้ถูกใจมากค่ะ
แถมอีกอันค่ะ http://www.inrainbows.com/
สวัสดีครับคุณหมอ
ตามคุณหมอไปแล้วได้ความรู้ดีครับ กองทุนสำหรับGOTOKNOW น่าจะทำแบบนี้เหมือนกัน เป็นการซื้อใจ แต่ไม่น่าใช่การให้ทิปครับ
ขอบคุณครับผม
สวัสดีค่ะ อ.มัท
ชอบอีกแล้วจ้า.... โอเพ่นออนไลน์นี่อ่านทีไรไม่เคยผิดหวังสักที แต่รอบนี้พี่แอมป์ตอบต่อยอดไม่ค่อยถูก เพราะไม่ใคร่เข้าใจวิธีคิดชุดนี้สักที....
คือสงสัยว่าเขาไม่เชื่อจริงๆหรือ... ว่า "คนที่คิดจะให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่คิดจะเอาเปรียบใคร และเต็มใจที่จะให้โดยไม่หวังอะไรตอบแทน" ยังมีอยู่อีกมากมายบนผืนโลก
หรือเขาไม่เคยพบคนชุดนี้เลยจริงๆ
หรือเขาเคยพบ....แต่เขาไม่เชื่อ ว่าคนที่คิดแบบนี้มีอยู่อีกตั้งเยอะแยะ
..... หรือเขาไม่เลือกที่จะเป็นคนชุดนี้ และหาเหตุผลรองรับ เพื่อที่จะไม่ต้องเป็นคนชุดนี้......
พี่แอมป์ไม่ได้ "ตัดสินคุณค่า" ของศาสตร์นะคะ พี่แอมป์แค่สงสัย"วิธีคิดเรื่องคุณค่า" ของศาสตร์ เฉยๆ และชื่นชมวิธีคิดแบบวิทยาศาสตร์ตรงที่สามารถหาคำตอบโดยการทดลองได้แทบทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องที่เกี่ยวเนื่องด้วยการให้คุณค่าแก่กันของมนุษย์ (ด้วยการกำหนดเป็นมูลค่าของปัจเจกอย่างอิสระ) : )
หนนี้พี่แอมป์ยอมรับว่าพูดอะไรงงๆละ ขออนุญาตคิดแบบงงๆด้วย เพราะวิธีคิดชุดนี้อยู่ในระบบการศึกษาของเราด้วยแล้วจริงๆ แล้วก็ทำให้เรางงๆไปด้วยกัน
จนเมื่อชุมชนมาทำให้เราเห็นว่า "การให้คุณค่าแก่กันนั้น ในหลายๆครั้ง เป็นอิสระจาก "มูลค่า" ได้จริงๆ" กลไกการตลาดไม่จริงเสมอไปในทุกที่หรอก ถ้าคนเรามี "ใจ"ให้กัน
ถ้าเรามองโลก...ในมุมมองของ คุณค่า มิใช่ มูลค่า เราจะไม่พูดคำว่า โลกนี้มีอะไรฟรี ด้วยซ้ำ แต่เราจะพูดว่า "เอาไปเถอะ..... ฉันให้" อะค่ะ
พี่แอมป์ขออภัยที่ว่าเรื่อยเจื้อยนอกเรื่องไปไกลเลยนะคะ อ.มัท : )
ขอบคุณ อ.มัทมากนะคะ ที่สรรหาบทความชวนคิดมาให้อ่านบ่อยๆ อ่านแล้วก็คุ้มค่าน่าคิด คิดแล้วพี่แอมป์ก็ไปยาว..ว.. ทั้งๆที่ไม่ใคร่เข้าใจเนี่ยแหละค่ะ : )
สวัสดีค่ะพี่แอมป์
มัทเป็นโรคเดียวกับพี่เลยหล่ะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องขออนุญาตหรือขออภัยใดๆทั้งสิ้นค่ะ
มัทต้องขอบคุณมากๆที่มาต่อยอดความคิดให้ซะอีก
พี่แอมป์ตามอ่านบันทึกต่อไปของมัทนะคะ มันเกี่ยวกันกับเรื่อง คุณค่า และ มูลค่า แล้วก็นิสัยจิตคนเรานี่แหละค่ะ
แล้วเรามาฟุ้งกันต่อตามประสาคนไม่ได้เรียนทางนี้มา
คนที่เค้าเรียนมาเค้าเอาตัวแปรจับเข้าโมเดล แล้วเห็นภาพเป็นฉากๆ ไว้ถ้าโชคดีอาจมีผู้รู้แวะมาอ่านความงงของเรา 2 คนแล้วทนไม่ไหวมาช่วยเราอธิบายความงงออกมาเป็นภาษาเค้าที่เราเข้าใจได้ก็ได้นะคะ (โอมเพี้ยง)