ความสุขครั้งที่สองในชีวิตเมื่อได้มาทำเศรษฐกิจพอเพียงของผู้ใหญ่สรรค์ ห่วงเงิน ดิฉันได้รับแจ้งจากคุณสถิต ภูทิพย์ เกษตรอำเภอขาณุวรลักษบุรี ว่ามีเกษตรกรประสบความสำเร็จในชีวิตเมื่อมาทำเศรษฐกิจพอเพียง อยู่ที่หมู่ที่7 ตำบลวังหามแห อำเภอขาณุวรลักษบุรี ดิฉัน จึงประสานกับทีมผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นทิพย์เคเบิ้ลทีวี ออกไปถ่ายทำสารคดีเกษตร เพื่อออกเผยแพร่ โดยในวันที่ออกไปท่านเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร(นายสุชาติ ทองรอด) และหัวหน้าฝ่ายยุทธ์ศาสตร์และสารสนเทศ(นายวิโรจน์ พ่วงกลัด) และน้องใหม่อีก 2 ท่านคือน้องปลากับน้องบุ๋ม ได้ร่วมเดินทางไปด้วย
เมื่อเดินทางไปถึงตามที่นัดหมาย ดิฉันเห็นแปลงเศรษฐกิจพอเพียงแปลงนี้คิดว่านี้และคือความฝันที่ดิฉันอยากเดินไปถึง เจ้าของแปลงคือผู้ใหญ่สวรรค์ ห่วงเงิน อายุ 52 ปี ซึ่งรอต้อนรับพวกเราอยู่ ผู้ใหญ่สรรค์ เล่าว่าแต่เดิมมีอาชีพการทำไร่มันสำปะหลัง โดยมีที่ดินเป็นของตนเอง50 ไร่ และเช่าที่ทำมันสำปะหลังอีก 100 ไร่ ปีไหนโชคดีไม่เจอน้ำท่วม ฝนแล้ง ก็มีเงินเหลือใช้ห้า-หกหมื่นบาท ปีไหนโชคร้ายก็ขาดทุน เพราะที่ดินของตนเองเป็นที่สะเทิ้นน้ำ สะเทินบก ถ้าปลูกข้าว น้ำก็ไม่พอเพียง ถ้าปลูกพืชไร่เช่นมันสำปะหลังก็ถูน้ำท่วม เน่าตาย
จึงคิดปรับเปลี่ยนหาอาชีพใหม่ โดยนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาใช้ จึงปรับเปลี่ยนพื้นที่ 5 ไร่ ของตนเองมาขุดสระ เพื่อเลี้ยงปลา เลี้ยงกบ เลี้ยงไก่พื้นเมือง เลี้ยงหมู ปลูกไม้ผลและพืชผักสวนครัว โดยสระที่ขุดเลี้ยงปลาจำนวน3 สระเลี้ยงปลาหลากหลายชนิดเช่นปลา สหวาย ปลานิล ปลาทับทิม ปลาช่อน ส่วนอีก 2 สระ ด้านบนเลี้ยงกบในกระชังด้านล่างเลี้ยงปลาดุกเพื่อให้เก็บอาหารจากกบกิน ทำให้อาหารที่เลี้ยงกบไม่ตกค้างน้ำไม่เน่าเหม็น การเลี้ยงหมูก็จะเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์หมูเพื่อขยายพันธ์เลี้ยงเป็นหมูขุนและจำหน่ายลูกหมู การเลี้ยงหมูก็พยายามลดต้นทุนโดยการผสมสูตรอาหารเอง และเลี้ยงไก่และเป็ดไว้เพื่อเก็บกินเศษอาหารจากหมู สำหรับพืชผักและไม้ผลที่ปลูกไว้นั้นเหลือกินก็เก็บแบ่งปันลูกบ้าน
ในแต่ละวันจะมีลูกบ้านและพ่อค้าในหมู่บ้านมาซื้อปลาและกบทำให้มีรายได้เฉลี่ย 300 -500 บาทต่อวัน ถ้าวันไหนจับหมู จับไก่ขายมีรายได้เป็นก้อนเก็บไว้ลงทุน กบจับจำหน่ายกิโลกรัมละ 60 บาท ปลากิโลกรัม 40 บาท แต่การซื้อขายก็จะเป็นไปในลักษณะเอื้อเฟื้อกัน ถ้าจับกบมา 1 กก. 2 ขีดก็จะคิดราคาแค่ 60 บาท
ผู้ใหญ่สวรรค์ เล่าว่าตั้งแต่ตนได้เริ่มทำเศรษฐกิจพอเพียงมา 2 ปีเศษในขณะนี้ตนเองถือว่ามีความสุขเป็นครั้งที่สองในชีวิต ครั้งแรกคือแต่งงานกับแม่บ้านเมื่ออายุ 27 ปี ทุกวันนี้ตนเองและภรรยาทำกันสองคนตายายไม่ได้จ้างใคร เหนื่อยก็นอนพักที่ศาลา คิดว่าจะไม่ขยายพื้นที่แล้ว ถ้าขยายพื้นที่จะเกินกำลังที่จะสามารถทำได้ อาจจะขยายกิจกรรมการเพาะเห็ดเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอย่างเป็นการนำวัสดุที่เหลือใช้ในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์ ทุกวันนี้นอกจากซื้อข้าวสารเนื่องจากพื้นที่ไม่เหมาะสมการทำนา แทบต้องไม่ซื้ออะไรกินเลย นอกจากนึกอยากกินอาหารทะเล และมีอาหารแบ่งปันแก่เพื่อนบ้านทำให้เกิดความรักความสามัคคีในชุมชน
นี้คือเป็นเพียงส่วนหนึ่งของครอบครัวที่นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้และทำให้ครอบครัวและสังคมมีความสุข
แหล่งข้อมูล : นายสวรรค์ ห่วงเงิน อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 7 ตำบลวังหามแห อำภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร โทรศัพท์ 081-7402163
สวัสดีครับ
- ถ้าทำอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาขึ้นเรื่อยๆจะเป็นความสุขอย่างยั่งยืนนะครับ
- แวะมาเยี่ยมชมครับ