แต่ไหนแต่ไรบริษัทที่ผมเคยทำงานผ่านๆ มาก็ไม่ได้มีนโยบายอะไรแน่ชัดกับการเล่น Instant Messenger หรือ MSN ในเวลางาน เพราะความทื่เป็นบริษัทที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร ไม่มีทรัพยากรมากมายพอที่จะจ้างแรงงานได้ทุกครั้งที่ขาดแคลน จึงมีความจำเป็นต้องใช้ทีมงานอื่นๆ ที่เรียกกันว่า Outsource อยู่บ่อยๆ เช่นโปรแกรมเมอร์ นักวิเคราะห์ระบบ หรือทีมงานอื่นๆ อะไรก็ตามแต่ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ทำงานเพียงระยเวลาสั้นๆ เช่น 3-6 เดือนก็เสร็จ และผมมองว่าลักษณะของงานที่ไม่ได้ทำเป็นประจำ หรือต้องการลดต้นทุนในการทำงานเท่าที่สามารถทำได้ การใช้ Outsourcing น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ Facilities และต้นทุนอื่นๆ ประหยัดไปได้มากโข แต่สิ่งที่สำคัญคือยังต้องสามารถติดต่อพูดคุยได้ตลอดเวลา เพื่ออัพเดทความคืบหน้าของงาน แต่จะทำอย่างไรถ้าทีมงาน Outsource ไม่ได้นั่งที่ทำงานเดียวกันกับที่เรา ซึ่งวิธีที่สะดวกและประหยัดที่สุดก็คือการใช้ MSN
แต่การใช้ MSN ในปัจจุบันมักถูกมองว่าเป็นการใช้เวลาของบริษัทหรือนำเวลางานไปใช้ ไปแช็ตเรื่องไร้สาระ เม้าท์กับเพื่อน จีบหญิงไปวันๆ ซึ่งถ้าจะนับกันจริงๆ ก็คงจะเป็นจริงตามที่เขาว่า แต่สำหรับเรื่องนี้ใครไม่เคยแช็ตคงไม่รู้ว่า มันคืออาการป่วยทางจิตชนิดหนึ่ง (ยังไม่มีการรับรองใดๆ ทั้งสิ้น) ที่เมื่อได้เสพ ได้ใช้แล้ว จะทำให้ติดงอมแงม ยากที่จะทำให้เลิกหายขาด ถ้ามีโอกาสเมื่อใดก็จะหาเรื่องแช็ตได้เมื่อนั้น ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นใคร ขอให้มีชีวิตและพิมพ์แป้นคีย์บอร์ดโต้ตอบกลับมาเป็นตัวอักษรได้ก็เพียงพอ แต่อย่างที่บอกครับว่าจริงๆ แล้ว MSN มันก็มีทั้งโทษและประโยชน์ ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบและวุฒิภาวะของผู้ใช้ ยิ่งเป็นในองค์กรหรือบริษัทที่มีหลายๆ แผนก หลายๆ ฝ่าย การใช้ MSN เป็นเครื่องมือสื่อสารอาจมีประโยชน์มากกว่โทษหรืออาจจะมีทั้งคู่ก็เป็นไปได้ ต้องขึ้นอยู่กับวิจารณะญาณของเจ้านายและฝ่ายไอทีแอดมินเป็นผู้พิจารณา แต่เชื่อเถอะครับการบล๊อกการใช้งานหรือการไม่อนุญาติให้ใช้ MSN นั้น ในทางเทคนิคคงจะบล๊อกกันได้ไม่ง่าย เพราะการทำงานของ MSN นั้น คนไอทีจริงๆ ก็รู้ว่าโปรแกรมมันช่างชาญฉลาดเหลือเกิน สามารถเล็ดลอดจากการถูกบล๊อกไปได้อยู่เรื่อยๆ ถึงแม้ว่าจะบล๊อก MSN ได้แล้วจริงๆ แต่รู้อะไรไหมครับว่า ยังมีโปรแกรมตัวอื่นที่สามารถนำพา MSN ให้ลอดพ้นจากการถูกบล๊อกได้อีก เรียกว่าบล๊อกมา ก็แก้ไป เช่นใช้โปรแกรมอื่นๆ มาครอบ MSN ไว้เช่น Hopster ซึ่งปัจจุบันนับว่าเป็นโปรแกรมที่ฉกาจฉกรร์มาก สามารถเล็ดลอดผ่านผู้ดูแลระบบไปได้ แต่ผมเชื่อว่าอีกไม่นานก็ต้องหาทางบล๊อกได้อยู่ดี ท้ายสุดงานนี้คงต้องเอือมกันไปทั้งสองฝ่าย ไม่ใครก็ใครต้องยอมแพ้ก่อนแน่นอน
ไปเรื่องอื่นๆ http://gotoknow.org/blog/xxl/toc