เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสลงชุมชนกทม. แถวพระราม 3 คลองเตย ภาพแรกที่เห็นขณะที่เดินเข้าไปกับประธานชุมชน(ขนาด 200กว่าห้องซึ่งเป็นชุมชนไล่รื้อ) คือ ภาพคุณยายหลังโก่งกำลังร่อนเศษเหล็กออกจากดิน ซึ่งได้ความจากยายว่า ไปโกยมาจากพื้นดินของร้านรับซื้อขยะอีกที เพราะมันเล็กเกินกว่าที่ร้านจะนำไปทำอะไรได้ แต่ดูว่ามันก็มีค่าเหลือเกินสำหรับคนที่ไม่มีทุนอย่างยาย
มันเกิดอะไรขึ้นกับแผ่นดินไทย ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่มหาศาล โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มีพื้นที่อีกตั้งมาก ไม่เพียงพอให้คนได้อยู่ได้นอน ที่นี่เรียกที่พักของตนว่า "ห้อง" บางห้องพาดที่นอนทับน้ำคลำเอาไว้เพราะไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อกระดาน
ชุมชนนี้ เพิ่งจะแก้ปัญหายาเสพติดได้ ประธานเล่าว่าจริงๆ ปัญหาเรื่องยาเนี่ยคนตัวเล็กๆ น่ะไม่มีสิทธิ์ขายหรอก เพราะมันต้องอาศัยองค์ประกอบหลายเรื่อง แต่พอชี้มาคนจนมันก็ต้องโดนก่อน เพราะมองแล้วว่ามันสมเหตุสมผลว่าคนจนมัน "อับจน" จนต้องค้ายา ที่จริงไปดูเถอะ "มีสี" กันทั้งนั้น บ่อนเอย หวยรายวันเอย ก็อาศัยบารมี "สี" ของตัวเองนี่แหล่ะมาบังคับเปิดในชุมชน ตัวเล็กๆ จนๆ มันจะไปมีเสียงอะไรล่ะ ได้แต่ขอร้องกันไป แต่เรื่องพวกนี้ทำไมต้องให้ขอด้วยนะ เรื่องดีๆ ทำไมต้องขอกัน ทำไมเราไม่มีสิทธิ์ขอให้ชุมชนเราสะอาดปลอดภัยไม่ได้เลย
เราฟังแล้วก็ได้แต่สะท้อนใจนะ การพัฒนาของรัฐพรากเขาจากบ้านมาสู่เมืองใหญ่ เพราะการผลิตแผนใหม่เล่นเอาเสียหมดตัว แถมหนี้สินมาอีกบาน ถ้าไม่มาหากินในเมืองแล้วจะกินอะไร ที่ดินกระพีกมือเดียวเช่าเดือนละ 500 บาทก็พยายามต่อรองกับเจ้าของที่ อาชีพก็พยายามหาที่สุจริตทำกันเศษดินที่เขาไม่เอาก็ไม่อายที่จะเอามาร่อนขาย โรงเรียนเด็กเล็กนั้นก็หาเงินมากันเอง ไม่เคยไปแบมือขอจากรัฐเลย แต่ก็ดันมายัดเยียดเอาอบายมุข เหล้า บุหรี่ บ่อน ยา มาให้เขาอีก
ตกลง "ใครมันจนกันแน่เนี่ย"
แล้วเมื่อไรคนรวยจะได้เสียภาษีมรดกกันเสียที รัฐบาลก็มีแต่คนรวยๆ ขออะไรไปที่เป็นประโยชน์กับประชาชนก็มีแต่ "ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก(เลือก)"
โทษทีนะคะ วันนี้ไม่ทันหายใจเลย รู้สึกท้อแท้กับ(ว่าที่)หน้าตารัฐบาลชุดใหม่มากๆ ด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เราต้องเรียนรู้ที่จะพึ่งตนเองให้มากๆ เพราะนี่คงเป็นทางออกแห่งยุคสมัยจริงๆ
ขอให้กำลังใจคนจน จะเรียนรู้อย่างไร ในการเอาตัวรอดในสังคม ที่ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ รัฐคงจะต้องให้การดูแล ให้โอกาสคนจนอย่างจริงจัง เขาจะได้ไม่ถูกเอาเปรียบค่ะ