...หลังจากที่ได้รับความรู้จากการเข้าร่วม "การบริหารการเงินสำหรับงานวิจัย" ที่คณะวิทยาศาสตร์ ม.นเรศวร ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการจัดในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2550 ที่ผ่านมา โดยได้รับฟังข้อคิดเห็นจาก รศ.ดร. อธิชิต เทอดโยธิน (ตำแหน่งรองอธิการฝ่ายการเงินและทรัพย์สิน มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี)วิทยากร จาก มจธ. ได้กล่าวถึงที่มาของมหาวิทยาลัย รวมทั้งนำเสนอการบริหารจัดการเงินวิจัยของมหาวิทยาลัยที่ดำเนินการอยู่ ณ ขณะนี้...ซึ่งได้แก่
รูปแบบการบริหารการวิจัย
1. ทำประกาศโครงการ (เพื่อกำหนดแนวทางบริหารตลอดจนอำนาจการบริหารงานวิจัย ให้เกิดความชัดเจน)
2. ระบบการเงินยังคงใช้ระบบเบิกจ่าย เช่นเดียวกับ ส่วนอื่น ๆ (ใช้กฎระเบียบอย่างพอเหมาะ)
3. การเบิกจ่ายยังคงใช้ระบบบัญชี 3 มิติ (ให้มหาวิทยาลัยดำเนินการเบิกจ่ายแทน)
4. การเบิกจ่ายเงินมีกลุ่มทำงานช่วยทำให้ (ได้ตั้งกลุ่มงานดูแลเงินวิจัย จากเจ้าหน้าที่การเงินของมหาวิทยาลัย)
5. ต้องคิดค่าใช้จ่ายให้ครบถ้วน
6. ไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
7. การลดหย่อนภาษีเงินได้สำหรับเงินสนับสนุนการวิจัย
ในส่วนรูปแบบของการจัดสรรเงินวิจัย....
กำหนดตัดค่าใช้จ่ายทางอ้อม จากงานวิจัย 10+2 % (ซึ่งไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เป็นครุภัณฑ์ และ ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้กับบุคคลภายนอก)
10 % แบ่งออกเป็น
1. กองทุนอุดหนุนการวิจัย 5 %
2. ให้มหาวิทยาลัย 2 %
3. ให้คณะ 1 %
4. ให้ภาควิชา 2 %
และในส่วน 2 % (10+2%) ข้างต้นนั้น ให้คณะไว้จ่ายเป็นค่าสาธารณูปโภค
ปัญหาของงานวิจัยที่เกิดขึ้น...
1. ปริมาณงาน (ไม่สม่ำเสมอ - ไม่ได้งานวิจัยเป็นประจำ)
2. การรักษาคุณภาพของผลงาน
3. การพิจารณาเรื่อง ความเสี่ยงของทุน (อาจเกิดเงินติดลบ)
4. การยึดถือระเบียบเป็นสรณะ (ใช้ระเบียบอย่างเหมาะสม ไม่ติดยึดเกินไป)
5. การหาเจ้าของเงินไม่พอ (เนื่องจากเงินเข้าระบบมหาวิทยาลัยทั้งหมด)
สิ่งที่ได้จากการรับฟังครั้งนี้...ก็ต้องขอทิ้งท้ายไว้ว่า อย่าลืมเก็บเงินของงานวิจัยไว้เผื่อให้สตง. ให้ส่งคืนด้วยนะคะ เพราะข้อนี้ ท่านวิทยากรของเราเป็นห่วงมากๆ เลย....