24-11-50
วันพฤหัสที่ 22-11-50 หลังจากออกตรวจคลินิกนรีเวชแล้ว ดิฉันมาให้อาจารย์จากบริษัท Knowledge Power สัมภาษณ์เพื่อจัดทำหลักสูตรการถอดบทเรียนจากผู้เชี่ยวชาญชื่อวิชา การบริหารจัดการความรู้ในองค์กรโดยมีเป้าหมายที่จะเก็บไว้ในคลังความรู้ของกรมคร สำหรับเจ้าหน้าที่กรมได้เรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านระบบ e- learning
เบื้องต้นกรมจะทำเฉพาะเรื่องระบาดวิทยาประยุกต์และการถอดองค์ความรู้ โดยรูปแบบสื่อเป็น Web Base CAI พร้อมด้วยระบบ LMS ( ดิฉันไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ )
ต่อมากรมเพิ่มเติมหลักสูตรการถอดองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญเนื้อหาความยาวประมาณหนึ่งชั่วโมง/ วิชา โดยทำประมาณ10 วิชาคือ
เคล็ดลับความสำเร็จในการบริหารราชการ
การรักษาผู้ป่วยโรคเรื้อน
ประสบการณ์ในการบริหารโครงการวัคซีนเอดส์
การบริหารกลยุทธ์
โรคเท้าช้าง
วัคซีนตับอักเสบบี
แผนยุทธศาสตร์ไข้หวัดนก
การบริหารจัดการความรู้ในองค์กร
ยุทธศสาตร์ในการกำจัดโรคเรื้อน
การพัฒนาบุคลากรด้านระบาดวิทยา
ดิฉันไม่มีเวลาเตรียมตัว อาศัยความรู้ที่อาจารย์วิจารณ์และอาจารย์ประพนธ์สอนในบล็อกค่ะ ดิฉันกังวลเพราะไม่ได้อ่านตำรามาก เหมือนผู้อื่น
ดิฉันตอบตามที่ได้ข้อมูลเบื้องต้นและอ่านตำราเพิ่มเติมเท่าที่เคยอบรมมา
คำถามมีดังนี้
1การจัดการความรู้คืออะไร 2 การจัดการความรู้ มีความสำคัญและมี ประโยชน์ อย่างไร3 สถาบันมีแนวทาง ขั้นตอนในการนำการจัดการความรู้ไปทำให้งานสำเร็จได้อย่างไร 4 CSF หรือปัจจัยแห่งความสำเร็จของการจัดการความรู้ของสถาบัน 5 ปัญหาและอุปสรรคของ KM และการแก้ไข6 ตัวอย่างของ Best Practice ที่ทางสถาบันภูมิใจ
ดิฉันขอนำส่วนที่ได้เตรียมตอบมาให้อ่านเพื่อ ลปรรกันค่ะ ข้อมูลมาจากหนังสือที่อาจารย์วิจารณ์เขียนและดิฉันเพิ่มจากประสบการณ์ค่ะการจัดการความรู้ ในองค์กร Knowledge Management
พ.ญ. อัจฉรา เชาวะวณิช หลักสูตรการถอดบทเรียนกับผู้เชี่ยวชาญเนื้อหา (SMEs )ความยาวหนึ่งชั่วโมงวิชา
1 การจัดการความรู้คืออะไร
เป็นเรื่องของกลุ่มผู้ปฏิบัติงานภายในหน่วยงานหรือองค์กร ร่วมกันจัดกระบวนการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อสร้างความรู้จากประสบการณ์ในการทำงานร่วมกันสำหรับนำไปใช้ปรับปรุงงาน และเพื่อยกระดับความสามารถในการเฟ้นหาความรู้จากภายนอกเข้ามาใช้ในงาน โดยมีเป้าหมายของงานในระดับที่เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างน่าภาคภูมิใจไปสู่การ สร้าง นวตกรรมจากการทำงานเป็นการดำเนินการเพื่อให้งานมีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้น โดยมีการสร้างความรู้เพิ่มขึ้น หรือเป็นความรู้ที่ยกระดับขึ้น
KMจึงเป็นเครื่องมือเพื่อการบรรลุเป้าหมายอย่างน้อย4ประการคือ
บรรลุเป้าหมายของงาน
การพัฒนาคน
การพัฒนาองค์กรไปเป็นองค์กรเรียนรู้
บรรลุความเป็นชุมชน เป็นหมู่คณะ มีความเอื้ออาทรระหว่างกันในที่ทำงาน
KMเป็นการดำเนินการอย่างน้อย 6 ประการต่อความรู้ได้แก่ 1 การกำหนดความรู้หลักที่จำเป็นต่องานหรือกิจกรรมขององค์กร
2 การเสาะหาความรู้ที่ต้องการ
3การปรับปรุงดัดแปลงหรือสร้างความรู้บางส่วนให้เหมาะต่อการใช้งานของตน
4การประยุกต์ใช้ความรู้ในกิจการของตน
5การนำประสบการณ์จากการทำงานและการประยุกต์ใช้ความรู้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสกัดขุมความรู้
6การจดบันทึกขุมความรู้และแก่นความรู้สำหรับไว้ใช้งานและปรับปรุงให้เหมาะต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
KMเป็นการดำเนินการกับความรู้ส่วนที่เกี่ยวข้องหรือแนบแน่นกับงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในทีมงาน มีการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ผ่านการเฟ้นหา สร้าง กลั่นกรอง แลกเปลี่ยน ประยุกต์ใช้ และยกระดับ เป็นกระบวนการที่มีวิวัฒนาการและยกระดับตลอดเวลา KM เป็นทักษะ 90 ส่วน ทฤษฎี 10 ส่วน KMไม่ทำไม่รู้KMเป็น Demand –side KM 90 Supply –side KM 10 ( เช่นการดำเนินความสะดวกต่อการจัดการความรู้โดยผู้ปฏิบัติ)
2 อะไรไม่ใช่การจัดการความรู้
KM ไม่ใช่เป็นเรื่องของผู้มีความรู้นำความรู้มาจัดระบบเพื่อให้ผู้อื่นนำไปใช้ประโยชน์
ไม่ใช่กิจกรรมรวมความรู้ใส่ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับใช้บริการ
ไม่ใช่การดำเนินการถอดความรู้จากกิจกรรม
3 การจัดการความรู้ มีความสำคัญและมี ประโยชน์ อย่างไร
ใช้เป็นเครื่องมือพัฒนางานให้ประสบความสำเร็จในภารกิจหลัก พัฒนาคนมีให้คุณสมบัติที่เปิดใจกว้าง รับฟังและเข้าใจผู้อื่น มีทักษะในการสื่อสารและรับสาร และ เป็นคนที่เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง พัฒนาองค์กรไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ มีวัฒนธรรมแนวราบ ให้อิสระและอำนาจในการตัดสินใจ มีบรรยากาศของความสุข ภูมิใจในงานและมีความเป็นประชาคมภายในองค์กร มีทุนปัญญาขององค์กรเพิ่มขึ้น
เหตุผลที่องค์กรนำการจัดการความรู้มาใช้ ( จากหน้า26 หนังสือการจัดการความรู้เพื่อคุณภาพที่สมดุลย์ )
1 เพื่อเก็บความทรงจำขององค์กรไว้ เพื่อเก็บความรู้ไว้ในองค์กรเมื่อมีการเกษียณ มีการเปลี่ยนงานของคนในองค์กร
2 เพื่อสงวนสมองขององค์กรทำให้คนมีความสุข มีคุณค่า ไม่ออกไปจากองค์กรถึงแม้จะมีทางไป
3 เพื่อเพิ่มประสิทธิผลขององค์กรซึ่งจะครอบคลุม มีการตอบสนอง ความต้องการของลูกค้า ต่อเป้าหมายขององค์กร และเป้าหมายของสังคม
มี นวัตกรรม
มีขีดความสามารถ
มีประสิทธิภาพ
4 แนวคิดและทฤษฎีที่สถาบันนำไปใช้เกี่ยวกับการจัดการความรู้ เนื่องจากความรู้ที่ใช้ในการทำงานให้สำเร็จมาจากความรู้ที่เราได้เรียนมาจากตำรา ผู้เชี่ยวชาญ หรือความรู้ชัดแจ้ง Explicit Knowledge เมื่อมีการทำงานก็จะมีประสบการณ์ มีทักษะ เรียกความรู้ในคนว่า Tacit Knowledge ซึ่งความรู้นี้มักจะไม่มีการบันทึกไว้ เมื่อมีการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างผู้ทำงานด้วยกันที่มีความรู้จะทำให้เกิดความรู้ใหม่ที่มีการยกระดับความรู้ เกิด innovation เกิดประสิทธภาพของการทำงาน คนจะเก่งขึ้น มีความสุข ภาคภูมิใจกับงาน คิดพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง องค์กรจะเกิดการพัฒนา มีสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมที่ดี สามารถปรับตัวกับปัญหาที่เราไม่สามารถประเมินได้ในอนาคตกิจกรรมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการใช้เครื่องมือ KM ซึ่งจะมีกิจกรรมย่อยดังนี้
มีการใช้ความรู้เพื่อพัฒนางาน มีการยกระดับความรู้ที่เป็นความรู้จำเพาะต่อขีดความสามารถด้านใดด้านหนึ่ง มีการสร้างความรู้สำหรับนำมาทดลองใช้งาน มีการสกัดเอาความรู้ออกจากคน มีการสังเคราะห์ความรู้จากความรู้หลายองค์ประกอบได้ความรู้ที่ครอบคลุมและกว้างขวางลึกซึ้งยิ่งขึ้น มีการซึมซับความรู้เข้าไปในคน กลุ่มและกระบวนการ มีการประเมินความน่าเชื่อถือและความเหมาะสมของความรู้ มีการปรับปรุงความรู้ให้เหมาะสมต่อสภาพหรือบริบทของงาน มีการเสาะหาหน่วยงานภายนอกที่มีผลการดำเนินงานตามขีดความสามารถหลักเป็นเลิศสำหรับไปขอการเรียนรู้โดยการนำกระบวนการเทียบเทียงสมรรถนะ มีการจัดกระบวนการเพื่อนช่วยเพื่อน เรียนรู้ระหว่างงาน เรียนรู้หลังเสร็จงาน กระบวนการเทียบเทียงสมรรถนะ เกิดชุมชนนักปฏิบัติในบางขีดความสามารถหลักที่มีความสำคัญต่อองค์กร สมาชิกเครือข่าย
5 สถาบันมีแนวทาง ขั้นตอนในการนำการจัดการความรู้ไปทำให้งานสำเร็จได้อย่างไร
5.1ทำวิสัยทัศน์โดยให้คนมีส่วนร่วมมาตั้งแต่ปี2540?
5.2 ตั้งเป้าหมายของงาน
5.3สร้างทีมจัดการความรู้โดยใช้คณะทำงานชุดเดียวกับคณะทำงานของCQIซึ่งมีการพัฒนาคุณภาพมาก่อนที่จะใช้KM
5.4 มีการทำงานเป็นโครงการคือโครงการTUCทำให้เสริมกับงานที่ทำ
5.5 ตั้งหน่วยงาน การถ่ายทอดความรู้
5.6ทำแผนและมีการประเมินแผนเป็นรายปีและทำรายงานและมีการประเมินตามตัวชี้วัด
5.7 สร้างบรรยากาศของความเป็นมิตร
5.8 สร้างเวทีให้คนมาร่วมนำเสนอผลงานในตลาดนัดKM CQI ทำให้ผู้นำเสนอและหน่วยงานประทับใจ
5.9 พัฒนาคนผ่านการทำงานโดยให้มีการมาเรียนรู้ร่วมกัน 5.10 มีการมอบรางวัลเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ 5.11 มีเครือข่ายของการทำงานทั้งชมรมโรคติดเชื้อ กองโรคติดต่อทั่วไป สำนักระบาด กรมการแพทย์
6 CSF หรือปัจจัยแห่งความสำเร็จของการจัดการความรู้ของสถาบัน 6.1 วัฒนธรรมและบรรยากาศที่ส่งเสริมของสถาบันคือ ความรู้ของสมาชิกในองค์กรจากประสบการณ์การดูแลโรคติดต่อ ความสามัคคีในองค์กรและ วัฒนธรรมองค์กรที่ดี
6.2 ผู้บริหารและทีมงานมีภาวะผู้นำ โดยมีการสื่อสารถึงบุคลากรทุกระดับ
6.3 มีกระบวนการและการสนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็น
7 ปัญหาและอุปสรรคของ KM และการแก้ไข
ระบบคุณภาพมีหลายระบบ มาตรฐานของ HA และระบบคุณภาพของกรมที่ทำ PMQAทำให้เกิดความซ้ำซ้อนของงานและเพิ่มภารกิจทางด้านเอกสารจำนวนมาก KMเป็นส่วนหนึ่งของระบบคุณภาพของกรมที่บังคับให้ใช้แต่เครื่องมือของHAไม่ได้เน้นKMมากนัก
การแก้ปัญหา
กำหนดเป้าหมาย ของงานและตัวชี้วัด ใช้KMมาเป็นเครื่องมือทำให้เป้าหมายของงานสำเร็จโดยไม่ได้อบรมKMมากนักเพื่อลดความสับสนคนในองค์กร ผู้นำองค์กรมาแก้ไขและชี้ทิศทางของการใช้เครื่องมือที่ง่ายๆและกลืนไปกับการพัฒนาคุณภาพHAเดิมๆโดยให้คุณอำนวยเป็นผู้รับผิดชอบรายงานกรมตามตัววัด
8 ตัวอย่างของ Best Practice ที่ทางสถาบันภูมิใจ และ อะไรที่เป็นแบบอย่างที่นำไปปฏิบัติได้
การควบคุมโรค SARS มีการกักกันผู้ป่วย หาองค์ความรู้ คุยกันกับผู้มีประสบการณ์จากต่างประเทศ ประสานงานกับต่างประเทศเพื่อมีความรู้ใหม่ๆ ทำแบบอย่างห้องแยก มีหน่วยงานมาดูงานทั่วประเทศ มีการพัฒนาความรู้ประชาชน และหน่วยงานของโรงพยาบาลทั่วประเทศ การดูแลผู้ป่วยเอดส์ที่ติดเชื้อวัณโรคโดยมีการคัดกรองกลุ่มเสี่ยง การตรวจรักษาพยาบาลที่เป็นมาตรฐาน มีระบบเฝ้าระวังวัณโรคและมีการดูแลบุคลากรที่มีโอกาสติดเชื้อวัณโรค
การดูแลสตรีที่ตั้งครรภ์และติดเชื้อเอดส์ มีการดูแลหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อเอดส์โดยจัดกิจกรรมกลุ่มและมีพยาบาลให้คำปรึกษาและพยาบาลห้องฝากครรภ์เป็นพี่เลี้ยง มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันทำให้เกิดกลุ่มที่คอยช่วยเหลือกันเอง มีความไว้ใจบุคลากรและเชื่อใจกัน มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการดูแลตัวเอง การกินยาต้านไวรัส การสื่อสารกับญาติ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการเปิดเผยผลเลือด
การป้องการเกิดมะเร็งปากมดลูกในสตรีที่ติดเชื้อเอดส์ มีการให้ความรู้บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการดูแลคนไข้เอดส์เพื่อให้ความรู้ผู้ป่วยและแนะนำให้มีการตรวจเชื้อเอดส์
การดูแลเด็กที่ติดเชื้อเอดส์มีการดูแลเป็นทีม
9 เคล็ดลับที่ทำให้งานประสบผลสำเร็จ
มีใช้มาตรฐานของHAเป็นหลักโดยมีเป้าหมายของการพัฒนางาน
ผู้บริหารสูงสุดเข้าใจระบบคุณภาพที่หน่วยงานนำมาใช้และสามารถนำระบบคุณภาพที่กรมกำหนดเช่น PMQA KM PMS ให้เป็นส่วนหนึ่งของการทำHA
ทักษะในการสื่อสารและรับสารเพื่อให้เจ้าหน้าที่ไม่รู้สึกว่าเป็นการทำงานมากขึ้น
กำหนดโครงสร้างให้มีงานประจำและงานโครงการ (โครงการTUC )
สร้างทีมผู้ประสานงาน และกำหนดทีมที่สามารถทำงานร่วมกันได้และรีบแก้ไข้เมื่อมีปัญหาของทีม
เน้นความรู้ที่สำคัญต่อองค์กรและสมาชิกโดยร่วมคิดประเด็นของการพัฒนา
ใช้KMเป็นเครื่องมือในการทำงานให้สำเร็จ
ให้ความสำคัญกับคน ส่งเสริมให้สมาชิกมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรม และไม่ให้เวลาเป็นอุปสรรคกับการ จัดการความรู้โดยจ้างคนช่วยทำทางด้านเอกสาร การพิมพ์ แบบฟอร์ม มีคนทำงานระบบคุณภาพเต็มเวลา
สร้างบรรยากาศและแรงจูงใจโดยดูแลสิ่งที่บุคลากรขาดแคลนเช่นการปรับเงินเดือนที่ทำมาก่อนกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการ วินิจฉัย
เท่าที่อ่าน เนื้อหายากเหมือยกันนะครับ ชอบข้อ 9 มากครับ ให้ HA เป็นเป้าหลักชัดเจน แต่ HA ก็ขยันผลิตตัวชี้วัดใหม่ๆ เรื่อยๆ มาคอยวัดเราจนผมอดถอนใจไม่ได้....(ต้องเก็บค่าใหม่อีกรอบ) กำลังคิดว่าถ้าเราจะพัฒนาตัวชี้วัดเดิมไม่สนตัวใหม่จนกว่าจะทำอันเดิมได้ดีก่อนได้ไหม ถ้าได้ผมจะโล่งอกมากครับ ไม่ต้องทำงานใหม่ล้มงานเก่า
---------------------------------------------
เบื้องต้นกรมจะทำเฉพาะเรื่องระบาดวิทยาประยุกต์และการถอดองค์ความรู้ โดยรูปแบบสื่อเป็น Web Base CAI พร้อมด้วยระบบ LMS ( ดิฉันไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ )
LMS คือ Learning Mamagement System ขอรับ
ถ้าจะแปลเป็นไทยก็ลำบากหน่อยแต่สรุปตามความเข้าใจผม มันคือ ระบบที่ให้ผู้เรียนสมารถเข้าไปเรยนรู้ได้เองผ่านทางเครือข่ายซึ่งในที่นี้ คือ ผ่านอินเตอเน็ตคงทำเป็นเว็บไซต์ให้ผู้สนใจเข้าไปดู
ผมคาดว่าคงเป็นแบบให้ดูเนื้อหาผ่านเว็บแล้วทำแบบทดสอบ ทางคนดูแลเว็บก็สามารถนำข้อมูลคนที่เข้ามาเรียนและคะแนนที่ได้เก็บผลไปวัดดูผลงานได้
คนเรียนก็สามารถรู้ระดับผลของตัวเองได้ก่อน-หลังเรียนจบ รวมทั้งสามารถฝากคำถามทิ้งไว้ได้ ถ้าคนดูระบบมีการจัดการมาตรวจสอบนะขอรับ
ตอนนี้ระบบเปิดให้เรียนได้แล้วนะคะ พยายามนำวิชาที่อาจารย์ตรวจความถูกต้องของข้อมูลขึ้นระบบให้เรียนกัน (ยังไม่ครบทุกวิชา) เข้าไปแวะชม + ให้คำแนะนำ ได้ที่ www.kmddc.go.th แล้วคลิก Banner "E-learning" ที่ด้านซ้าย สมัครฟรีค่ะ ได้ทั้งบุคลากรกรมควบคุมโรค และประชาชนทั่วไปที่สนใจ
ขอบคุณหนูส้มที่แวะมาแจ้งให้ทราบค่ะ จะรีบไปดูผลงานของหน่วยงาน KM กรมด้วยความชื่นชมค่ะ