กระดูกร้อง


ความซื่อสัตย์

สอนคุณธรรมอย่างไรให้มีความพอเพียง

คุณธรรมแห่งความซื่อสัตย์ 

1. วัตถุประสงค์ เพื่อ รู้ รัก และฝึกคุณธรรมนี้จนเคยชิน

2. นิทานคติ เรื่อง กระดูกร้อง

: ขออาสาสมัครเล่าเรื่องให้ผู้อื่นฟังด้วยความรู้สึกเสียสละ เพื่อให้ผู้อื่นมีความสุขและตนเองมีความสุขบนความสุขของผู้อื่น 

คนไทยเคยสอนกันมาว่า ป่ามีหู ประตูมีตา ชาวญี่ปุ่นโบราณต้องการอบรมลูกหลานให้กลัวการทำผิด แม้คิดว่าไม่มีใครรู้เห็น กระดูกก็อาจจะร้องได้ ดังเรื่องที่เล่าต่อ ๆ กันมาว่า

ครั้งหนึ่ง มีชายหนุ่ม 2 คน เป็นเพื่อนน้ำสาบานกัน ชื่อกามิ และชิโม สองคนปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า จะอยู่ในบ้านของตนเรื่อยไปคงจะตั้งตัวได้ยาก จึงคิดจะไปเสี่ยงโชค ณ แดนไกล สาบานกันว่าไม่มีอะไรจะเกิดขึ้น จะไม่ยอมละทิ้งกันเป็นอันขาด

ครั้นไปอยู่ต่างแดน ชิโมตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก็บเงินทองสะสมไว้ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนกามิเอาแต่คบเพื่อน หาเงินได้เท่าไร ก็ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและเล่นการพนันจนหมด อยู่ได้ 3 ปี ชิโมจึงชวนกามิกลับไปเยี่ยมบ้าน กามิไม่มีอะไรติดตัวกลับบ้าน ชิโมก็ยอมแบ่งทรัพย์สินที่อดออมไว้ได้ให้ครึ่งหนึ่ง เพื่อจะได้ไม่น้อยหน้าเมื่อถึงบ้าน

ครั้นเดินทางกลางป่ากามิก็ฆ่าชิโมเสีย แล้วริบทรัพย์สินเป็นของตนคนเดียว กลับถึงบ้าน  ก็ปั้นข่าวว่าชิโมเหลวไหลจนคบไม่ได้  ส่วนตัวเองตั้งหน้าทำงานจนเก็บเงินได้มาก เขาใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอยู่ไม่นานเงินก็หมด อยู่บ้านต่อไปก็อายเพื่อนบ้านจึงเดินทางกลับไปที่เดิม

ครั้นเดินทางคนเดียวถึงสถานที่ที่ฆ่าชิโมก็ได้ยินเสียงร้องเรียก เข้าไปดูพบโครงกระดูกขาวโพลน โครงกระดูก พูดว่า

เพื่อนเอ๋ย เราคือชิโม เพื่อนจำไม่ได้หรือ ถ้าเพื่อนอยากรวยเร็วก็เอาเราไปแสดงกระดูกเต้นซิ

พูดพลางโครงกระดูกก็เต้นให้ดู กามิเห็นทางได้เงินง่ายจริง ๆ จึงเก็บเอาโครงกระดูกพับใส่กล่องแบกเข้าไปในเมือง ที่ใดมีกลุ่มชนก็แสดงกระดูกเต้นให้ดูแล้วเก็บเงิน ได้เงินมากมาย แต่เขาก็ยัง  ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและเล่นการพนันหนักมือขึ้น หมดเงินก็เปิดแสดงกระดูกเต้นใหม่ เดินทางรอนแรมเรื่อยไป

กิติศัพท์รู้ถึงเจ้าเมือง อยากดูเล่นเป็นขวัญตา จึงให้คนใช้มาเรียกไปแสดงให้ดูในวัง แต่กระดูกไม่ยอมเต้น กลับร้องเรียนและเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เจ้าเมืองฟัง

เจ้าเมืองเห็นว่ากามิ  มีใจชั่วช้านัก อยู่ต่อไปก็รังแต่จะสร้างความเดือดร้อนแก่คนอื่นต่อไป จึงตัดสินใจประหารชีวิตเสีย เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนอื่นต่อไป

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความไม่ซื่อสัตย์บ่อนทำลายตั้งแต่ตัวเองถึงประเทศชาติและมนุษยชาติ พึงช่วยชักจูงใจให้มีความซื่อสัตย์ต่อกันไว้เถิด ความซื่อสัตย์ยิ่งมีมากขึ้นเท่าใด ปัญหาความเดือดร้อนก็จะลดลงเท่านั้น

3. ช่วยกันขยายความ                       

3.1 ให้ช่วยกันหาคติพจน์ ส่งเสริมคุณธรรมแห่งความซื่อสัตย์

3.2 ให้ช่วยกันหาคำสอนของศาสนาต่าง ๆ ที่ส่งเสริมคุณธรรมข้อนี้

3.3 ทั้ง 2 กรณีให้มีอาสาสมัครรวบรวมบันทึกไว้เพื่อทำเอกสารแจกให้เก็บไว้เป็นที่ระลึกโดยลงวันที่ไว้ด้วย                       

4. ฝึกความประพฤติให้เป็นคุณธรรม                       

4.1 ฝึกรู้รอบ นิทานคติเรื่องนี้มีความเหมาะสำหรับสอนคุณธรรมแห่งความซื่อสัตย์หรือไม่  และอย่างไร                       

4.2 ฝึกให้เข้มแข็ง :เราจะมีวิธีใดในการฝึกความซื่อสัตย์ให้เกิดขึ้นในตนเองจนเกิดเป็นความเคยชิน และถ้ามีช่องทางให้เราทุจริตในหน้าที่ได้โดยไม่มีคนรู้เห็น เราจะทำหรือไม่

4.3 ฝึกพอเพียง ความซื่อสัตย์อย่างไร จึงเรียกได้ว่าพอเพียง                                               

 -   อย่างไรเรียกว่าขาด จงยกตัวอย่าง                                               

-   อย่างไรเรียกว่าเกิน จงยกตัวอย่าง

4.4 ฝึกให้ชอบธรรม ความซื่อสัตย์ที่ขาดความชอบธรรมมีหรือไม่ จงยกตัวอย่าง : ความซื่อสัตย์อย่างไรที่อยู่บนฐานของความชอบธรรม จงยกตัวอย่าง 

 

กิจกรรมสันทนาการ            ให้แบ่งเป็นสองทีม เพื่อโต้วาทีในหัวข้อที่ว่า คนซื่อสัตย์แต่จน ดีกว่า คนทุจริตแล้วรวย   

รองศาสตราจารย์วนิดา  ขำเขียว

ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมมาธิการคุณธรรม จริยธรรมฯ 

บรรณานุกรมกีรติ  บุญเจือ. (2522) ชุดนิทานญี่ปุ่น. กรุงเทพฯ : อัญธานีบุ๊คสโตร์

หมายเลขบันทึก: 151431เขียนเมื่อ 4 ธันวาคม 2007 20:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีครับ เท่าที่อ่านประวัติโดยย่อ ผมขอเรียกว่าคุณน้านะครับ

ผมเป็นเด็กขอนแก่นที่โดนคุณครูสั่งงานให้ทำนิทานคุณธรรม

ผมชอบหัวข้อความซื้อสัตย์ เมื่อผมหาผมก็เลยมาพบนิทานเรื่องนี้

และได้อ่านประวัติของคุณน้าดู ผมชอบในสิ่งที่คุณน้าทำ

อ่อ ผมเรียนที่ขอนแก่นวิทยายนครับ ม.5 น้าอาจจะสงสัยไหมครับ ว่าม.5แล้วยังต้องมานั่งทำนิทานๆอีก มันก็คงมีประโยชน์ของมันจริงมั้ยครับ

ผมจึงขออนุญาตินำไปเป็นต้นแบบเนื้อเรื่อง เพื่อวาดภาพประกอบต่อไป

ผมขอบคุณคุณน้ามากครับ จริงๆแล้วชอบบทบาทของคุณน้ามากกว่านิทานที่คุณน้าแต่งขึ้นเสียอีก สวัสดีครับ

เหนว่ามีประโยชน์มากๆเลยค่ะ

จะขอยืมเนื้อเรื่องไปวาดภาพประกอบย้ะค้ะ

ขอบคุนค่ะ

สวัสดีครับ เท่าที่อ่านประวัติโดยย่อ ผมขอเรียกว่าคุณน้านะครับ

ผมเป็นเด็กขอนแก่นที่โดนคุณครูสั่งงานให้ทำนิทานคุณธรรม

ผมชอบหัวข้อความซื้อสัตย์ เมื่อผมหาผมก็เลยมาพบนิทานเรื่องนี้

และได้อ่านประวัติของคุณน้าดู ผมชอบในสิ่งที่คุณน้าทำ

อ่อ ผมเรียนที่ขอนแก่นวิทยายนครับ ป.6

ผมจึงขออนุญาตินำไปเป็นต้นแบบเนื้อเรื่อง เพื่อวาดภาพประกอบต่อไป

ผมขอบคุณคุณน้ามากครับ จริงๆแล้วชอบบทบาทของคุณน้ามากกว่านิทานที่คุณน้าแต่งขึ้นเสียอีก สวัสดีครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท