...หมอ...ประตูน้ำ...เครือข่ายฯ...คนไข้...ประเทศไทย...


เพื่อนๆครับ...

ผมไม่สบายใจเลยที่ได้อ่านข่าวเรื่องคุณหมอท่านหนึ่งถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปี จากเหตุการณ์ High Block จากการบล็อกหลังคนไข้ไส้ติ่งอักเสบในโรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่งซึ่งไม่มีวิสัญญีแพทย์...

ในทางการแพทย์ ภาวะ High Block อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งๆที่แพทย์คำนวณขนาดยาชาและจัดท่าคนไข้อย่างถูกต้องแล้ว และบางครั้งก็ไม่สามารถอธิบายสาเหตุที่เกิดขึ้นได้ ทำให้คนไข้ไม่สามารถหายใจได้ และถึงแก่ชีวิตหากแพทย์ไม่สามารถใส่ท่อช่วยหายใจได้ทัน...

แน่นอนว่าทุกฝ่ายล้วนมีความเสียใจมากกับการที่คนไข้ต้องเสียชีวิตไป และเห็นใจลูกๆหรือผู้ที่ได้ผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ผมก็ยังคงไม่เห็นด้วยกับการที่ตัดสินให้หมอท่านนี้ (ซึ่งมีการยืนยันจากหลายฝ่ายว่าเป็นคนดีและเป็นผู้ที่เสียสละและขยันขันแข็งทำงานอย่างยิ่ง) ถูกจำคุกสามปี โดยไม่รอลงอาญา...

ลองคิดดูครับว่า คนไปข่มขืนผู้หญิงโดยเจตนาจะติดคุกไม่กี่ปี หรือดาราไปขับรถชนคนตายแล้วศาลสั่งลงโทษจำคุกแต่รอลงอาญา หรือภาวะหงิกฟีเวอร์ที่สุดท้ายเราก็พอจะเดาได้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร... แต่หมอท่านนี้ที่ตั้งใจดูแลรักษา โดยเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ แต่ผลการตัดสินออกมาแบบนี้...

จริงอยู่ว่าเราคงต้องยอมรับว่า การที่ลูกสาวคนไข้ฟ้องศาลดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญานั้น ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะไม่ได้รับความกระจ่างจากบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตรงนี้ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง...

แต่จากผลการตัดสินที่ออกมานี้ ผมขอบอกเพื่อนๆตรงนี้เลยครับว่า...ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ...

สิ่งที่น่ากลัวต่อจากนี้คือ สิ่งที่เคยเกิดมาแล้วในอเมริกา คือ ผู้หญิงเจ็บท้องคลอดต้องขับรถจากมลรัฐหนึ่งไปอีกมลรัฐหนึ่งเพื่อหาหมอสูติเพื่อทำคลอดให้ เนื่องจากไม่มีหมอสูติในที่ที่เค้าอยู่ เนื่องจากกฏหมายที่ไม่ยุติธรรมครับ...

อีกหน่อยชาวบ้านในอำเภอไกลๆ คงต้องเข้าตัวจังหวัดเพื่อมาทำหัตถการหรือการผ่าตัดเล็กๆ ซึ่งโรงพยาบาลชุมชนไม่กล้าทำ...

บางคนอาจแย้งว่า หมอไม่พอก็ผลิตเพิ่มสิ... ผมจะหัวเราะและตอบว่า อีกไม่ถึงสิบปีคุณก็จะเห็นผลครับ ว่าหมอที่ผลิตเพิ่มจากนโยบายรัฐบาลที่แล้วมานั้นคุณภาพเป็นอย่างไร... :)

และถึงผลิตเพิ่มได้ ใครล่ะอยากจะไปอยู่ในโรงพยาบาลอำเภอที่ห่างไกลความเจริญ และไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือเพียงพอ รวมทั้งจำนวนประชากรที่มารับการตรวจแผนกผู้ป่วยนอก 200 คน ต่อหมอ 1 คน

สุดท้ายนี้ผมขอยกบทความจากไทยคลินิก โดยคุณ Hugh Grant มาไว้ในบล็อกนี้ด้วยครับ...

http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1197429835

เรียนนายกแพทยสภา ราชวิทยาลัย เพื่อนร่วมวิชาชีพ   

เรียนทุกท่านครับ
เหตุการณ์ที่ร่อนพิบูลย์คงทำให้เราไม่สามารถปฎิเสธได้ถึงการก้าวย่างอย่างรว ดเร็วของสังคมไทยที่ตามก้นของอเมริกาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว และไม่ได้คำนึงถึงพื้นฐานทางสังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่างสองประเทศ
ทั้งนี้ดูเหมือนว่าคุณหมอสุทธิพรจะกลายเป็นเหยื่อของการกระทำที่ผิดพลาดจาก         เหตุการณ์ต่างๆในอดีตที่สร้างความขุ่นเคืองให้แก่หมอที่รู้สึกเจ็บแค้นกับระบบ รวมถึงผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยที่กลับกลายมาเป็นแกนนำของเครือข่ายฯในที่สุด  
แต่เราก็พอจะเห็นได้ว่า มีการสื่อสารข่าวดังกล่าวไปในสังคมอย่างมากมาย พร้อมกับมีการตอบสนองในสองรูปแบบ กล่าวคือ หนึ่งในสามของผู้ตอบสนองจะให้ความเห็นเชิงซ้ำเติมให้หมอต้องโทษตามที่ตัดสิน  
แต่ที่สำคัญยังทำให้เราเห็นได้ว่า สองในสามของคนที่ตอบสนองยังเห็นใจ เข้าใจ และปกป้องหมอ และเห็นควรให้มีการสร้างระบบช่วยเหลือทั้งหมอและผู้ป่วยให้ดีขึ้น
ผมจึงอยากเรียนทุกท่านให้ช่วยกันพิจารณาประเด็นต่างๆดังต่อไปนี้
1. Medical Education: อาจารย์แพทย์ทุกท่านในทุกสถาบัน ควรจัดหลักสูตรบังคับให้มีการเรียนระดับเข้มข้น ในเรืองของ Moral dilemma, การสื่อสารทางการแพทย์, การบันทึกเวชระเบียนในระดับมาตรฐานสากล, และกฏหมายทางการแพทย์ โดยไม่ได้ใช้วิทยากรที่เป็นอาจารย์แพทย์ในปัจจุบันที่มีอยู่เท่านั้น แต่ต้องมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมาสอนด้วย นอกจากนี้ต้องมีการสอบและประเมินประเด็นต่างๆอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ชั้นปีแร กจนถึงระดับอินเทิร์นหลังจบปี6ไปแล้วอีกด้วย เรืองประเด็นจริยธรรมในการดำรงชีพและดำรงวิชาชีพต้องถือเป็นอันดับแรกของการ ประเมิน มิใช่ว่านักศึกษาแพทย์ทำการปลอมลายเซ็นอาจารย์ในสมุดหัตถการแล้วยังปล่อยให้ ผ่านไปได้โดยไม่ได้ลงโทษให้ซ้ำวิชานั้นอย่างที่เราเห็นบ่อยๆในโรงเรียนแพทย์  
2. Health System Re-reform: ระบบสาสุขบ้านเราต้องยอมรับว่าได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวงจากเจตนาดีของคุณหมอหงวน และเราต้องยอมรับว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงระบบดังกล่าวได้อีกแล้วครับ เท่าที่เห็นมีอยู่ทางเดียวคือ ผู้บริหารและ economist ใน สปสช ใน IHPP ใน สวรส จะต้องทำการคาดประมาณค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากระบบ Defensive Medicine ที่ควรจะได้รับคำแนะนำจากทุกๆราชวิทยาลัยในการสร้างระบบนี้ขึ้นโดยมีจุดประส งค์เดียวที่สำคัญที่สุด คือการปกป้องสมาชิกแพทย์ในประเทศไทยที่จะได้รับผลกระทบทางอาญาและแพ่งจากควา มผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการทำการรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัตถการหรือ Invasive Procedures ใดๆก็ตาม โดยต้องออกมาในรูปแบบของ Standard Operating Procedure มิใช่ Clinical Practice Guidline ดังเช่นที่เห็นในปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเป็นหลักฐานอ้างอิงและช่วยให้ศาลมีบรรทัดฐานในการพิจารณาคดีที่จะเกิดขึ้นในอนาคตครับ
3. การสนับสนุนและทำความเข้าใจกับแพทย์ พยาบาลและบุคลากรสาธารณสุขให้รับทราบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และดำเนินการตามมาตรฐานที่ระบุไว้อย่างเคร่งครัด และ promote การดูแลรักษาแบบ Defensive Medicine ให้เพิ่มขึ้นอย่างเป็นระบบ โดยมีการประสานงานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการวางแผนงบประมาณอย่างสม่ำ เสมอ  
4. การสร้างระบบประกันสุขภาพแบบร่วมจ่าย และการประกันสุขภาพแบบจ่ายเองในประเทศไทย และควรยอมรับได้แล้วว่า ระบบสุขภาพแบบไม่จ่ายเลยนั้นเป็นไปไม่ได้หากจะหวังให้ได้ความเป็นเลิศทางการ ดูแลรักษาอย่างที่บางคนหรือหลายคนคิด
ขอเรียนมาด้วยความเคารพ 
 

สุดท้ายนี้ ขอตบท้ายถึงพี่น้องประชาชนชาวไทย และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่า ตอนนี้ใกล้ถึงวิกฤตแล้วครับ...

คุณหมอเทพ ที่ลงสมัครเบอร์ 36 และพี่น้องเครือข่ายฯ...หยุดเถอะครับ ก่อนที่จะสายเกินไป... 

 

 

หมายเลขบันทึก: 153004เขียนเมื่อ 12 ธันวาคม 2007 10:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 00:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
ชีวิต ครับ เป็นเช่นนั้นเอง

ขอบคุณครับอาจารย์ JJ ที่มาแวะเยี่ยมชม...

ผมเห็นด้วยกับความเห็นของอาจารย์นะครับ

ตอนนี้ผมและหลายๆคนคงอยู่ในระยะของ "Rejection/Denial" :)

จริงๆคงจะฝืนชะตากรรมไม่ได้ ผมเองก็ว่าอเมริกาไว้เยอะ แต่สุดท้ายการเรียนและการทำงานก็ยังผูกพันกับอเมริกันครับ...

ดีที่สุดคงได้แต่เพียงสอนลูกหลานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่พ่อประสบมา อย่างน้อยเพื่อให้รู้เป็นบทเรียน แต่สุดท้ายก็อยู่ที่ประชาชนรุ่นหลังที่จะเลือกชอบ หรือเลือกเดินตามที่เค้าไตร่ตรองว่า...ดีแล้ว...

 

 

สลดใจค่ะ

ถ้าโดนกับตัวเองก็ไม่ทราบว่าจะรับสถานการณ์ไหวมั๊ย..นะคะ...

คงเป็นบทเรียน..ที่ทุกฝ่าย..ต้องร่วมด้วยช่วยกัน...

ไม่ให้ไปในทิศทาง..ที่สังคมต้องเห็นแก่ตัวไปมากกว่านี้อีก..เลย..นะคะ

ส่งกำลังใจให้ผ่านพ้นวิกฤติ.. นะคะ

พี่เสียใจและอยากให้คุณหมอเป็นลูกของศาลที่ตัดสินคดีนี้ซึ่งอาจจะทำให้เข้าใจระบบแพทย์มากขึ้นค่ะ    

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท