เรียนจบเทอมแรกแล้วค่ะ.....บันทึกของครูน้อยในเดือนที่สี่ ธันวาคม 2550


มาฟังชีวิตด้านอื่นๆ ของนักศึกษาปริญญาเอกกันบ้างนะคะ

เรียนจบเทอมแรกแล้วค่ะ.....บันทึกของครูน้อยในเดือนที่สี่  ธันวาคม 2550   

สวัสดีค่ะ ครูใหญ่ 

คราวนี้เขียนทันตามกำหนดเป็นครั้งแรกค่ะ   เพราะเขียนจากเมืองไทยนี่เอง  เนื่องจากมาเยี่ยมบ้านในช่วงปิดเทอมฤดูหนาวค่ะ   เรียนจบหนึ่งเทอมแล้วรู้สึกดีใจมากๆ เลยค่ะ  ตอนเรียนรู้สึกทำไมมันช้ามากกกกกกกกกกก  แต่ปิดเทอมเนี่ยผ่านไปเร็วจริงๆ เลยค่ะ    เดี๋ยวต้องกลับไปเรียนอีกแล้ว   ต้องกินเผื่อไว้เยอะๆ ก่อนกลับ (เอ๊ะ..เกี่ยวอะไรกันเนี่ย) เดือนนี้ก็คุยกันแบบสบายๆ นิดหนึ่งนะคะ  ว่าด้วยเรื่องชีวิตด้านอื่นๆ นอกไปจากเรื่องเรียนของนักศึกษาปริญญาเอกกันมั่งดีกว่า  ไหนๆ ก็อยู่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ทั้งที  ขอพูดถึงเรื่องเบาๆ แบบมีสาระเล็กๆ สลับฉากบ้างนะคะ 

(ผู้ที่เข้ามาอ่านท่านใดอยากรู้ที่มาที่ไปหรือว่าครูใหญ่และครูน้อยเป็นใคร  ต้องไปอ่านบันทึกหมายเลข 0 ก่อนเลยนะคะ) 

ขอแบ่งเป็นหัวข้อตามนี้ละกันค่ะ 

  • ชีวิตประจำวันของครูน้อยในหนึ่งอาทิตย์
  • กิจกรรมเข้าจังหวะ  เอ๊ย..ไม่ใช่ค่า..  กิจกรรมวิชาการ  กึ่งวิชาการ และนอกวิชาการของโรงเรียน
  • กิจกรรมนอกหลักสูตรของนักเรียนไทยใน MSU
  • ทำลิสต์ดีกว่าค่ะ  ไหนๆ ก็จบเทอมทั้งที

  เริ่มกันเลยนะคะ  

 

  • ชีวิตประจำวันของครูน้อยในหนึ่งอาทิตย์

ตารางชีวิตครูน้อยเริ่มต้นที่เย็นวันศุกร์ค่ะ  หลังจากการเรียนวิชาสุดท้ายประจำอาทิตย์ตอนบ่ายวันศุกร์  เย็นวันศุกร์ก็จะเป็นวันพักผ่อนค่ะ  อาจจะมีการกำหนดตารางการอ่านของอาทิตย์ถัดไปคร่าวๆ ไว้ก่อน  แต่จะยังไม่มีการอ่านหนังสือในคืนวันนั้นแบบเด็ดขาด  แล้วก็อาจจะออกไปซื้อของใช้และอาหารสดหรือแห้งมาตุนไว้บ้าง  หรือไปทานข้าวเย็นกับเพื่อนที่โรงเรียน  หรือน้องๆ นักเรียนไทยด้วยกันบ้างค่ะ 

วันเสาร์ อาทิตย์และจันทร์  จะเป็นวันอ่านหนังสือ  ก็จะอ่านไปเรื่อยๆ สำหรับวิชาที่จะเรียนวันอังคารและพุธเนื่องจากเป็นสองวิชาที่มี reading assignments ปริมาณมหาศาล  อย่างที่เคยพูดถึงไป  

วันอังคารหลังจากไปเรียน  ก็จะกลับมาเตรียมทำสรุป presentation ของวิชาที่จะเรียนวันพุธค่ะ  โดยเฉลี่ยก็จะมีทุกอาทิตย์  วันพุธเมื่อกลับจากเรียนต่อเนื่องถึงวันพฤหัส  ก็จะเตรียมทำการบ้านของวิชาที่เรียนวันศุกร์  ซึ่งมีการบ้านทุกอาทิตย์อีกเช่นกัน  แล้วก็อ่าน reading assignments ของวันศุกร์ด้วย  ไม่เช่นนั้น จะทำการบ้านไม่ได้ค่ะ  

ขอสารภาพว่าไม่เคยอ่านวิชาของวันศุกร์ได้ครบตามที่อาจารย์สั่งเลยค่ะ   เพราะให้เวลาน้อยเกินไป  สาเหตุหลักๆ ก็คือ  คืนวันพุธและเช้าวันพฤหัส ครูน้อยมักจะใช้เวลาในการคุยโทรศัพท์กับครอบครัวหรือเพื่อนๆ ที่เมืองไทยค่ะ  ซึ่งจะกินเวลายาวนานมากตามประสาผู้หญิง (อันนี้แก้ตัวเต็มๆ)   จริงๆ ก็รู้อยู่แก่ใจล่ะค่ะว่าควรจะแบ่งเวลาให้วิชาของวันศุกร์มากกว่านี้   เพราะสุดท้ายก็อ่านไม่ทันเกือบจะทั้งเทอมและทำให้มีปัญหาในช่วงตอนใกล้สอบอย่างมาก  เพราะต้องมาตามอ่านใหม่เกือบทั้งหมด  เรียกว่าแทบเอาตัวไม่รอดกันเลยทีเดียวค่ะ 

อันนี้ก็เล่าเฉพาะช่วงเรียนตามปกตินะคะ  ถ้าเป็นช่วงสอบหรือส่ง paper ก็บวกความโกลาหลเข้าไปเพิ่มเติม   ส่วนกิจกรรมด้านอื่นๆ ก็สอดแทรกเข้าไปตามช่วงเวลาอ่านหนังสือข้างต้นนั่นแหละค่ะ  เพราะฉะนั้นการจัดเวลาในบางอาทิตย์ก็อาจจะระส่ำระสายไปบ้าง  แต่ก็พยายามที่จะจัดการให้เข้าสู่ระบบหรือไม่ก็ตัดกิจกรรมบางอย่างออกไปตามสมควรค่ะ  

 

  • กิจกรรมเข้าจังหวะ  เอ๊ย..ไม่ใช่ค่า..  กิจกรรมวิชาการ  กึ่งวิชาการ และนอกวิชาการของโรงเรียน

 เริ่มต้นด้วยกิจกรรมวิชาการของโรงเรียนที่ต้องทำในเทอมที่ผ่านมานี้ (แต่ยังไม่ได้ทำค่ะ..  แหะ แหะ)  ก็คือการช่วยทำงานวิจัยร่วมกับอาจารย์ค่ะ   อย่างที่เคยเล่าไปในเดือนก่อนๆ  กิจกรรมนี้ถือว่าต้องทำเลยค่ะ  รวมไปถึงการเข้าร่วมฟังหรือนำเสนอผลงานวิชาการตามงาน conference ต่างๆ  ซึ่งครูน้อยก็ควรที่จะต้องเริ่มๆ เข้าสู่วังวนนี้ได้แล้ว  แต่เนื่องจากครูน้อยรู้สึกว่าตนเองยังประสบมรสุมในการเรียน Coursework อยู่  ก็เลยขอเลื่อนมาเป็นเทอมหน้านี้แทน   

ตอนนี้อาจารย์ก็ให้การบ้านมาอ่านเพียบตั้งแต่ปิดเทอมนี้กันเลยค่ะ  เนื่องจากในภาควิชา management นี้  นักศึกษาปริญญาเอกจะได้รับการปฏิบัติเสมือนหนึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของอาจารย์มากกว่าจะถูกมองว่าเป็นนักเรียน   ดังนั้น  อาจารย์จะค่อนข้างให้เกียรตินักศึกษาในการนำเสนอหัวข้อวิจัยที่นักศึกษาสนใจก่อน   และถ้าอาจารย์สนใจก็จะทำร่วมกันโดยอาจารย์ก็ยินดีให้นักศึกษาใส่ชื่อในผลงานเป็นชื่อแรกด้วยค่ะ   ซึ่งครูน้อยได้ยินมาว่าเป็นวัฒนธรรมที่ค่อนข้างแตกต่างจากที่มหาวิทยาลัยอื่นๆ   และก็ถือเป็นจุดแข็งของที่นี่ด้วยในสายตานักศึกษาปริญญาเอกด้วยกัน  แต่ส่วนใหญ่ในเทอมแรกๆ  นักศึกษาจะเสนอตัวเข้าไปช่วยทำงานในโปรเจคท์ของอาจารย์และอาจจะไม่ได้เข้าร่วมแบบเต็มตัวนักเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในช่วงแรกค่ะ 

กิจกรรมกึ่งวิชาการ  ก็มีเสริมไปเรื่อยๆ ทั้งเทอมค่ะ  ตัวอย่างเช่น เวลาที่มีอาจารย์ใหม่มาสมัครงาน   ก็จะต้องมานำเสนองานวิจัยของตัวเอง  มาคุยกับอาจารย์คนอื่นๆ ในโรงเรียน  และก็ต้องมาคุยกับนักศึกษาปริญญาเอกค่ะ  คล้ายๆ กับสัมภาษณ์แต่จะไม่เป็นทางการมาก   นักศึกษาป.เอก  ก็ต้องเข้าฟังการนำเสนองานวิจัยเหล่านี้  เข้าร่วมงาน reception และเข้าไปนั่งพูดคุยกับอาจารย์ใหม่ที่มาสมัครงานเหล่านี้ใน session แยกต่างหากอีกด้วย  รวมถึงต้องประเมินผลว่าทางโรงเรียนควรจะรับอาจารย์ใหม่คนนั้นๆ หรือเปล่า   ที่นี่ก็จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากๆ เลยค่ะ   ต้องเข้าร่วมให้มากที่สุดถ้าไม่ติดเหตุสำคัญจริงๆ   ซึ่งก็มีประโยชน์นะคะ  ตัวนศ. ป.เอกก็จะได้เรียนรู้วิธีรับมือกับการสัมภาษณ์เวลาสมัครงานล่วงหน้าเลย  เพราะทุกโรงเรียนจะใช้ลักษณะคล้ายกันนี้ (ไม่แน่ใจว่าเฉพาะในอเมริกาหรือเปล่านะคะ)   

อีกกิจกรรมหนึ่งก็เวลาที่นศ.ปีอื่นๆ นำเสนอผลงานไม่ว่าจะแบบเอาจริงตอนก่อนเรียนจบ  หรือแบบซ้อมมือก่อนไปสมัครงานอื่นๆ   ทั้งอาจารย์และนศ.ก็จะต้องเข้าร่วมฟังตลอดจนถามคำถามต่างๆ   ซึ่งก็เพื่อเป็นการฝึกฝนทั้งตัวคนพูดและคนถามไปด้วยเลย  

สุดท้ายก็คือกิจกรรมนอกวิชาการของโรงเรียนค่ะ   ก็จะมีงานสังสรรค์ที่อาจารย์หรือเพื่อนนักศึกษาจัดขึ้นตลอดเทอมและงานคริสมาสต์ที่บ้านอาจารย์หัวหน้าภาค  ซึ่งก็มีธรรมเนียมว่าเด็กปีหนึ่ง (ป.เอกนะคะ) จะต้องแสดงการละเล่นอะไรก็ได้อย่างหนึ่ง   พวกเราก็เลยทำเป็นละครเรื่องการปรับตัวของเด็กปีหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาเรียนในช่วงแรก  แต่ทำเป็นแบบละครตลกล้อเลียนตัวเองนิดๆ  และอัดคลิปวีดีโอไว้ไปเปิดในงาน  แล้วก็มีการเล่นเกมส์ jeopardy เพื่อให้คนอื่นได้ตอบคำถามซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวกับความแตกต่างทางพื้นเพของเด็กปีหนึ่งกับวัฒนธรรมของอเมริกาหรือของที่มิชิแกน  แล้วก็มีการรำอวยพรของครูน้อยเพื่อสื่อถึงการขอบคุณและอวยพรอาจารย์และรุ่นพี่เนื่องในโอกาสคริสต์มาสและปีใหม่ด้วยค่ะ  (ต้องขอขอบคุณน้องสาวคนสวยที่มาช่วยสอนรำไทยหลักสูตรเร่งรัดแบบสองชั่วโมงจบให้นะคะ)    

การแสดงทั้งสามช่วงก็ได้รับความสำเร็จอย่างมากเลยค่ะ  วัดจากเสียงหัวเราะและเสียงปรบมือของคนดู   พวกเรายังคุยกันเล่นๆ  ว่าถ้าเป็นสอบคงได้ A+ ไปแล้ว   เสียดายจริงๆ ที่ไม่มีเกรดให้ด้วยนะเนี่ย..  

 

  • กิจกรรมนอกหลักสูตรของนักเรียนไทยใน MSU

กิจกรรมสุดท้ายเป็นกิจกรรมสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างนักเรียนไทยใน MSU และระหว่างมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในรัฐมิชิแกน  เช่น การทำบุญร่วมกันที่วัดไทย    การจัดมีตติ้งต่างๆ  การแข่งขันกีฬา 5M อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว  ส่วนกิจกรรมที่เผยแพร่วัฒนธรรมไทยก็มีเช่นงาน Global  (ลืมชื่อเต็มๆ ไปแล้วค่ะ)  งานนี้ครูน้อยก็ได้ร่วมในการแสดงรำวงค่ะ  กิจกรรมอื่นๆ ก็มีการแสดงรำไทย (แบบของจริง  โดยน้องสาวมือชั้นครูสองคนซึ่งรำเชิญพระขวัญได้แบบโปรมากๆ) แสดงการสานปลาตะเพียนและให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยค่ะ  

 

  •   ทำลิสต์ดีกว่าค่ะ  ไหนๆ ก็จบเทอมทั้งที

 หัวข้อสุดท้ายแล้วค่ะ..  ไหนๆ มาอยู่อเมริกาทั้งที  ทำลิสต์กันหน่อยดีกว่าค่ะ  มาดูซิว่าที่สุดของครูน้อยในเทอมนี้มีอะไรบ้าง 

เศร้าที่สุด:     วันที่ไปส่งครอบครัวเดินทางกลับเมืองไทย  แล้วตัวเองเดินกลับออกมาจากสนามบิน  บรรยากาศเป็นใจมาก  ฟ้าครึ้ม ฝนตกปรอยๆ  ข้างนอกสนามบินมีสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวได้อยู่แค่ครูน้อยกับ รปภ. ของสนามบินอีกหนึ่งคน  น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัวเลยค่ะ  ยืนเศร้าอยู่ไม่กี่นาทีก็ไม่ไหวแล้ว  หนาวจะตาย  เข้าไปในข้างในสนามบินโทรเรียกแท็กซี่ดีกว่า 

หนักที่สุด:     วันที่ไปซื้อของพวกอาหารสดและแห้งที่ Supermarket ซึ่งอยู่ไกลจากบ้านมากๆ และแบกของทั้งหมดขึ้นรถเมล์กลับมา  โดยลืมประเมินความสามารถของตัวเองในการแบกของไป   ขากลับต้องใช้วิธีเดินสองก้าวแล้ววางของที่พื้น  ถอนหายใจหนึ่งเฮือกแล้วค่อยหยิบขึ้นมาเดินต่ออีกสองก้าว  แล้วก็ทำเหมือนเดิมใหม่ตั้งแต่ป้ายรถเมล์จนถึงบ้านเลย 

ซึ้งที่สุด:       หลังจากนั่งรันทดว่าจะประทังชีพได้อย่างไรท่ามกลางความหนาวเหน็บกับกล้ามแขนน้อยๆ ของเรา   ก็มีน้องๆ ที่น่ารักมาช่วยชีวิตด้วยการเสนอตัวขับรถพาไปซื้อของกินของใช้   ตอนที่น้องบอกว่าไปทุกอาทิตย์ยังได้เลยพี่  พี่ก็ซึ้งใจมากๆ เลยค่ะ   แค่พาไปเดือนละหนก็เป็นพระคุณแล้ว   (สุดท้ายก็ได้ไปอาทิตย์ละหลายหนอยู่เหมือนกันแฮะ  ขอบคุณอีกทีตรงนี้เลยนะคะ) 

เซ็งที่สุด:      ตอนคะแนน midterm ประกาศออกมาค่ะ  ได้ที่โหล่เลย  กลับมานั่งเครียดอยู่นานมาก   จนถึงสอบไฟนอลเสร็จก็ยังทำใจไม่ได้เลย   แต่อาจารย์ที่สอนน่ารักมากๆ ค่ะ  ให้กำลังใจและให้คำปรึกษาตลอด  ขอบคุณอาจารย์ ครูใหญ่ เพื่อนๆ น้องๆ และทุกท่านที่อ่าน blog แล้วให้กำลังใจครูน้อยด้วยนะคะ 

ดีใจที่สุด:        ตอนเกรดออกค่ะ    ไชโย!!! ครูน้อยรอดชีวิตผ่านเทอมที่หนึ่งมาได้แล้ว  หวังว่าจะอยู่รอดปลอดภัยจนเรียนจบภายในเวลาอันควร     

และแล้วก็จบไปหนึ่งเทอมแล้วค่ะ   ดีใจที่ผ่านไปได้ถึงแม้จะกระท่อนกระแท่นมีเรื่องให้ลุ้นอยู่บ้างพอให้ตื่นเต้น   แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ   ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้นะคะ  แล้วเจอกันเดือนหน้ากับเทอมใหม่ที่คงมีอะไรใหม่ๆ มาเล่าสู่กันฟังอีกเช่นเคยค่ะ  

สวัสดีปีใหม่ 2551 ค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #กิจกรรม
หมายเลขบันทึก: 156834เขียนเมื่อ 1 มกราคม 2008 08:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 10:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • มาเชียร์ให้สู้ๆๆ
  • มีประโยชน์มากสำหรับคนเรียน
  • อยากให้เขียนมาอาทิตย์ละครั้งหรือ
  • เดือนละครั้งก็ยังดีครับผม
  • ขอบคุณครับ
  • สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้มีความสุขกับการเรียนครับ

ผมชอบข้อความนี้มากที่สุดครับ "นักศึกษาปริญญาเอกจะได้รับการปฏิบัติเสมือนหนึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของอาจารย์มากกว่าจะถูกมองว่าเป็นนักเรียน"  

สวัสดีปีใหม่อีกครั้งครับ

วิจารณ์

ขอขอบคุณ ครูน้อยมากๆ ที่เขียนเป็นวิทยาทาน ชอบ เรื่องราว กระบวนการเรียน ป.เอก มากๆ เขียนบ่อยๆนะครับ ชอบจริงๆ ขอบคุึณครับ

จากwww.gotoknow.org/goldenboy 

สวัสดีค่ะ

อ่านแล้ว...คิดถึงตอนที่เรียนอยู่ที่เมืองนอกเหมือนกัน ตอนนี้จบกลับมาทำงานได้สองปีแล้ว เป็นกำลังใจให้นะคะ

ยินดีด้วยครับที่ผ่านเทอมแรกไปได้ด้วยดี  ..เทอมที่เหลือก็สู้ต่อไปนะครับ ครูน้อย  ...เป็นกำลังใจให้ครับ...

เริ่มจะเห็น "ข้อดี" ของ "การเขียนสรุป" เพื่อแบ่งปันผู้อ่าน (ถ้า "ผู้อื่น" ฟังดูห่างเหินไปนิด) แบบ "ครูน้อย" นิดๆๆแล้วค่ะ ว่า "การเขียนสามารถจัดระบบความคิดของเราได้" ช่วยให้เราได้ทบทวน และรู้จักตัวเองมากขึ้น (เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะคะ ออกตัวไว้ก่อนค่ะ)

สรุปแล้ว จุดประสงค์ เป็นการเขียนเพื่อ"แบ่งปันผู้อ่าน" แต่เรา "ผู้เขียน" เป็นผู้ที่"ได้ประโยชน์ที่สุด" .................. เห็นคล้องจองกับที่เติ้ลคิดไหมคะ ครูน้อย ^^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท