..คำพูดของคุณไม่มีใครจดและจำ....


..เขาต่อสู้โดยมิได้มีความเกลียดชังใดๆ โดยยกตัวอย่างการสู้รบของทหาร 2 ฝ่ายว่าที่ต้องประหัตประหารเอาชีวิตกันนั้น..ไม่ได้ทำไปด้วยความเกลียดชังต่อผู้ที่อยู่ตรงหน้าแต่..ทำไปค้วยความรักต่อคนที่อยู่เบื้องหลัง...

สวัสดีคะ......

      ..คำพูดของคุณไม่มีใครจดและจำ...ที่มาของหัวเรื่องวันนี้มาจากการที่ได้ฟังข่าวสถานการณ์การเลือกตั้งของเมืองลุงแซมวันที่ 4 มกราคม 2551ตามเวลาในบ้านเรา ..ที่ยกแรกของการเลือกตั้งขั้นต้น (caucuses) รัฐ Iowa ..นายMike Huckabee .พรรคRepublicans..ชนะ  เท่าที่จับใจความได้เขาได้กล่าวกับผู้สนับสนุนตอนหนึ่งว่า..."เขาต่อสู้โดยมิได้มีความเกลียดชังใดๆ" โดยยกตัวอย่างการสู้รบของทหาร 2 ฝ่าย ว่าที่ต้องประหัตประหารเอาชีวิตกันไม่ได้ทำไปด้วยความเกลียดชังต่อผู้ที่อยู่ตรงหน้าแต่ทำไปด้วยความรักต่อคนที่อยู่เบื้องหลัง....(ในขณะที่นักการเมืองบ้านเราเกลียดชังกันน่าดู...)  ได้ฟังแล้วก็นะ...โดนเล็กๆ...(ขอยืมคำพูดวัยรุ่นมาใช้...)


Mike Huckabee
ภาพจาก www.tke.org

      ทำให้นึกถึงคำพูดที่เป็นอมตะและถูกนำไปใช้อ้างอิงทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้  เช่น

       ประธานาธิบดี..John Fitzgerald Kennedy  ... ที่กล่าวไว้เมื่อประมาณ 40-50 ปีมาแล้วว่า....Ask not what your country can do for you but ask what you can do for your country...

John F. Kennedy
John Fitzgerald Kennedy 
ภาพจาก wikipedia

      ประธานาธิบดี ...Abraham Lincoln.. ที่กล่าวไว้เมื่อประมาณ 100 กว่าปีมาแล้วว่า.....Democracy is the groverment of the people for the people and by the people...

Abraham Lincoln
...Abraham Lincoln..
ภาพจาก wikipedia

      หรือที่ "เติ้ง  เสี่ยวผิง" กล่าวไว้ว่า "แมวสีอะไรก็จับหนูได้" กล่าวไว้เมื่อยุคที่ลัทธิคอมมิวนิสต์มุ่งเน้นให้ผู้ปฏิบัติงานต้องเลื่อมใส ศรัทรา เชื่อมั่น ในลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่ "เติ้ง" เห็นต่างออกไปว่า คนจีนโพ้นทะเลก็สามารถที่จะกลับมาพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนได้  ไม่จำเป็นต้องเป็นคอมมิวนิสต์ .. เป็นที่มาของคำกล่าว..แมวสีอะไรก็จับหนูได้..ที่ว่านี้


Deng Xiaoping
Deng Xiaoping
ภาพจาก wikipedia

      เมื่อเขียนมาถึงตรงนี้ทำให้นึกถึงบ้านเราตอนนี้ที่ชอบพูดถึง..คนดี ต้องการคนดี.. แต่ไม่พูดว่า..สามารถทำงานได้หรือไม่..อ่ะ..เลยทำให้นึกถึงจักรพรรดิ์จีนพระองค์หนึ่ง "จักรพรรดิ์เฉียนหลง" ที่ทรงให้ความสำคัญกับขุนนางที่มีความสามารถ โดยตรัสว่า ..ขุนนางที่ดีแต่ไม่มีความสามารถเป็นได้เพียงแค่หุ่นเชิด ...คนมีความสามารถอย่างน้อยก็ทำงานให้บ้านเมืองรับใช้ประชาชนได้  ส่วนจะดีจะเลวค่อยจัดการกันทีหลัง...

หมายเลขบันทึก: 157487เขียนเมื่อ 4 มกราคม 2008 22:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม 2012 00:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

สวัสดีครับ คุณแดงน้อย ชอบเพลงของคุณแหวนครับ สมัยผมยังหนุ่มอยู่

           ขออนุญาต แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยครับ

           ระหว่าง "คนดี"   และ "คนเก่ง"

          สังคมไทยเป็นสังคมพุทธครับ    และตามบริบทของวัฒนธรรมไทย ที่มี "พุทธธรรม" เป็นฐาน    การเลือกคนทำงาน  จึงเลือกเอา "คนดี"  ก่อนครับ   ส่วน "ความเก่ง "  ค่อยมาพัฒนาตอนหลังได้

         ขอบคุณครับ

  • อ่า...
  • สนุกดีครับ เพลินๆ

สวัสดีคะ คุณsmall man

  • ขอบคุณคะที่แวะมา

สวัสดีคะ คุณ suksom

  • แวะมาอีกนะคะ มีเรื่องสนุกๆๆอ่านพอเพลินอีกเยอะคะ
..คำพูดของคุณไม่มีใครจดและจำ..<<< โลกไม่ได้จดจำคำพูดแต่จะจดและจำผู้พูด  คำพูดบางคำมีคนพูดมาก่อนนานนับพันปี แต่พอผู้มีอำนาจหยิบมาพูดซ้ำ ก็จดจำ ซึ่งอาจคิดเอง หรืออ่านมาก็แล้วแต่  และที่สำคัญคำที่ชาวโลกจดจำไม่จำเป็นต้องดี  ไม่จำเป็นต้องจริง

"..คนดี ต้องการคนดี.. แต่ไม่พูดว่า..สามารถทำงานได้หรือไม่.." <<<

มีด้วยหรือที่งานที่คนดีจะทำไม่ได้.....ควรหรือที่จะแยกระหว่างความดีกับความสามารถออกจากกัน... ธรรมดาคนยิ่งดียิ่งเก่ง คนดีจะใช้สติ ปัญญา ความเป็นธรรมไม่มองสิ่งต่างๆ ด้วยอคติส่วนตน ทำให้เป็นอิสระในการมองปัญหาต่าง...นอกจากความชั่ว..ทำลายชาติบ้านเมืองเท่านั้นที่คนดีไม่ทำกัน...

ทำไมต้องคิดว่า "คนดีไม่จำเป็นต้องโง่"  หรือจะสอนเด็กว่าคนโง่คือเป็นคนดี ?

การปล่อยใก้คนไม่ดีมีอำนาจ..แล้วคิดกำจัดภายหลัง...คิดหรือว่าจะมีโอกาส หรือไม่สายเกินแก้ ผู้ที่ได้เป็นผู้นำไม่จำเป็นต้องเป็นคนดี คำของผู้นำจึงไม่จำเป็นต้องดี

ขออภัยครับ 

ทำไมต้องคิดว่า "คนดีต้องโง่"  หรือจะสอนเด็กว่าคนโง่คือเป็นคนดี ? <<< ขอแก้ไขครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท