หากใครที่ต้องตื่นเช้ามาแล้วต้องซดกาแฟ ปิ้งขนมปัง ทาเนย แยม แล้วนั่งดื่ม กัด เคี้ยว กลืน อ่านหนังสือพิมพ์ ดูข่าว คงต้องอ่านบทความนี้กันสักนิดนะครับ
สมัยก่อน เมื่อเราเดินเข้าห้างสรรพสินค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ต เหลียวซ้ายแลขวาหาซื้อแยมผลไม้ ก็ต้องมองไปที่ชั้นวางของ มองหาขวดแก้วใสที่ภายในบรรจุของเหลวข้นๆสีต่างๆ สมองได้บรรจุข้อมูลไว้แล้วว่าถ้าเป็นสีแดงก็ต้องเป็นรสสตรอเบอร์รี่ ถ้าสีส้มก็ต้องเป็นรสส้ม เดี๋ยวนี้มีสีใหม่ๆที่เด็กบ้านนอกแบบผมไม่เคยเจอเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก นั่นก็คือเบอร์รี่ต่างๆและเนยถั่ว เมื่อก่อนมีไม่กี่ยี่ห้อ แต่เดี๋ยวนี้มีให้เลือกมากมาย กระทั่งยี่ห้อดอยคำที่เป็นของไทย สนับสนุนผลผลิตของคนไทย ไทยทำไทยกิน กำไรกลับสู่คนไทย ไชโย
ตอนนี้ก็เริ่มมีนวัตกรรม หากเราลองได้สังเกตบ้าง
ผมว่าเราน่าจะเห็นแยมในขวดพลาสติก “บีบๆ” คือชื่อที่ลูกสาวผมเรียกแยมแบบนี้
ครับ ตอนนี้บางบริษัทได้เริ่มนำผลิตภัณฑ์หลากสีแสนอร่อยเหล่านี้ไปบรรจุลงในขวดพลาสติก เมื่อเราจะใช้ก็เพียงแค่เปิดฝา คว่ำขวดแล้วก็บีบๆ แยมก็จะไหลลงมาสู่แผ่นขนมปัง จากนั้นก็ปาดมันให้ทั่วหน้าขนมปัง ประกบสองแผ่นเข้าด้วยกันแล้วเอาเข้าปาก เออ..รสชาติเหมือนเดิมแฮะ แล้วเปลี่ยนมาใส่ขวดพลาสติกทำไม? นั่นคือคำถาม เปลี่ยนแปลงเพื่อเพิ่มยอดการขาย? เป็นกลยุทธ์ทางการตลาด? ลดค่าใช้จ่าย? (แก้วแพงกว่าพลาสติก?) ทั้งหมดนี้ก็คือ ผมไม่รู้ ไม่รู้จริงเพราะว่าผมเป็นหมอสูติฯ ไม่ใช่นักการตลาด ไม่ใช่นักธุรกิจ แต่ผมรู้ว่ามันมีผลกระทบต่อผมเหมือนกัน
อันแรกที่ผมรู้สึกได้ก็คือ ท่ามกลางบรรยากาศของการรณรงค์ลดการใช้พลาสติก ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รณรงค์การปลูกต้นไม้ (อย่างเช่นวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมานั่นปะไร) อุ๊ปส์... อย่าเพิ่งคิดไปถึงการรณรงค์ตัดต้นไม้เพื่อป้องกันหลุมขยะตื้น หรือกลัวว่ารากต้นไม้ไชตูดตึกไปซะก่อน เดี๋ยวจะหมดกำลังใจไป ว่าไปนั่น แม้กระทั่งมีการส่งเสริมให้ใช้ถุงผ้าเวลาไปจ่ายตลาด ตอนนี้ผมก็กำลังทำอยู่ รู้สึกว่ายุ่งยากเล็กน้อยที่ต้องหิ้วหรือพกถุงผ้าติดรถเสมอ แต่ก็สุขใจที่ได้หิ้วมันไปซื้อของ เวลาไปห้างเพื่อซื้อของก็บอกพนักงานว่าไม่ต้องยัดของของผมใส่ถุงพลาสติก เพราะว่าสามารถเข็นรถไปจนสามารถถ่ายของเข้ารถยนต์ได้เลย พนักงานก็ทำหน้างงเล็กน้อย แต่ก็ขอบคุณผม แต่เดี๋ยวก่อน นี่ไม่รวมห้างตราดอกบัวนะครับ เพราะว่าพนักงานเธอจะไม่ยอมเลย เดี๋ยวจะผิดระเบียบที่ว่า สินค้าที่ได้รับการชำระเงินแล้วนั้นต้องยัดลงถุงเพียงสถานเดียว มิฉะนั้นต้องติดกระดาษสีส้มเพื่อแสดงสถานะ หากเราเข็นสินค้าเปลือยๆใส่รถเข็นออกไป คนเฝ้าทางคงออกได้เป่านกหวีดปรี๊ดๆลั่นแน่ๆ ดังนั้น เมื่อไหร่ที่ที่บ้านต้องการถุงพลาสติก เราก็จะไปซื้อของที่ห้างตราดอกบัว ฉลาดมั้ย (ไม่ต้องใช้สมองคิดเลยก็ตอบว่า ใช่แล้วคร๊าบ)
ดังนั้นการหันมาบรรจุแยมในขวดพลาสติกจึงขัดกับกระแสสังคมไปด้วยประการฉะนี้ แต่อย่างว่าล่ะครับ เด็กๆชอบ ลูกผมก็ชอบ “บีบๆ” แต่ตอนนี้ผมไม่ซื้อให้ก็แค่นั้น ดูซิว่าใครจะแน่กว่ากันระหว่างลูก ซึ่งเป็นผู้กิน และพ่อ ผู้ซึ่งเป็นผู้จ่ายเบี้ย
ประการต่อมา เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว
วันหยุดสุดสัปดาห์หนึ่ง คุณป้าข้างบ้านท่านอาบน้ำให้หลานย่าสุดที่รัก หลังจากจัดแจงเอาไอ้ตัวเล็กอายุราวอนุบาล 1 ลงกะละมังได้ ก็จัดแจงเอาน้ำรดหัวทันที จากนั้นก็คว้าแชมพูมาเทใส่มือแล้วจัดแจงสระผมให้หลานชายสุดที่รัก ปัญหามันก็เกิดขึ้นทันทีที่รู้สึกว่า แชมพูขวดนี้ทำไมไม่มีฟองเลย แถมกลิ่นมันยังหอมคุ้นๆจมูกยิ่งนัก ว่าแล้วแกก็จับขวดแชมพูมาพิจารณาอีกครั้ง ยูเรคา (อันนี้ผมรำพันเอง) ที่แท้มันก็คือ แยมสตรอเบอร์รี่ที่ลูกชายแกเพิ่งซื้อมาเมื่อคืนนี้นี่เอง ฮ่า ฮ่า จึงได้เป็นเรื่อง เพราะว่าต้องล้างหัว เอาเศษแยมออก แล้วหาแชมพูตัวจริงมาสระอีกรอบ เล่นเอาหลานชายบ่นอุบ ก็มันเหนียวหัวนี่นา
อย่าเพิ่งว่าคนอื่นเขา เพราะเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดที่ข้างบ้านผมเท่านั้น มันเกิดขึ้นในบ้านผมเองด้วย ทั้งนี้เนื่องจากว่าคุณพี่เลี้ยงลูกสาวคนเล็กของผม เธอก็จัดการสระผมให้ลูกสาวเหมือนกัน ติดอยู่ที่ว่าลูกสาวตัวเล็กมันเห็นซะก่อนเลยประท้วงบอกป้าของเธอว่า ไม่เอา ไม่กินแยมตอนอาบน้ำ เพียงเท่านี้ก็ฮาตรึมกันทั้งบ้าน
นี่ไงครับ โศกนาฏกรรมของแยมขวดบีบๆ
ดีนะที่ ซื้อมาแล้วที่บ้านไม่มีใครเอาไปสระผมบ้าง ชิชิ
สวัสดีปีใหม่ 2551 ค่ะ คุณหมอแป๊ะ
โชคดีปีใหม่ ตลอดปี และตลอดไปค่ะ
สวัสดีครับคุณครูเอ
ครูจะลองดูบ้างก็ได้นะครับ แต่เลือกรสที่มีคุณค่ากับหนังศีรษะนะครับ เช่น พวกที่มีรสเปรี้ยวก็จะมีวิตามินซี ทำให้หนังหัวสดชื่น
ครูอ้อยครับ
ผมสบายดีเสมอครับ ยุ่งและยุ่งนี่มันทำให้รู้สึกว่ามีคุณค่าดี
เรื่องสะดวกนี่เป็นเรื่องใหญ่ครับ แต่เราต้องช่วยกันสอนเด็กครับครูอ้อยที่รัก
โอย ครูเอครับ
อันนี้ขอบายครับ เพราะว่าผมมีของใช้อยู่แล้วครับ ฮ่า ฮ่า
สวัสดีค่ะคุณหมอ
สวัสดีปีใหม่ลูกสาวคุณหมอที่น่ารักและฉลาดมาก
ไอ้บีบๆ นี่ มันปนกันไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่า แชมพูหรือแยม นะคะ
สวัสดียามเย็นค่ะ คุณหมอแป๊ะ
โชคดีปีใหม่ ตลอดปีและตลอดไปค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณหมอ แป๊ะ
ขอบพระคุณสำหรับ สคส.สวยๆครับคุณศศินันท์
ครับ เดี๋ยวนี้มันปนกันมั่ว ผมส่งเรื่องนี้ไปให้เพื่อนอ่าน ก็ได้รับคำบอกเล่ามาว่า สามีของเธอใช้แชมพูหมดขวด แต่ยังไม่ทิ้งขวด พี่เลี้ยงในบ้านเลยเอาไปใส่น้ำยาล้างจาน ลองจินตนาการดูนะครับ ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนของอีกวันหนึ่ง
ครูอ้อยที่เคารพครับ
เดี๋ยวจะตามไปนะครับ รอแป๊บนึง
สวัสดีครับคุณกุ้งกาแฟดอย
บ้านผมไม้แปลกครับ ข้างบ้านตะหาก ฮ่า ฮ่า
สวัสดีครับคุณหมอ
เห็นด้วยกับคุณหมอ เรื่องถุงพลาสติกมากเลยครับ ทุกครั้งที่ผมเข้าไปซื้อของในร้านไม่กี่อย่าง ผมจะไม่ให้เขาใส่ถุง ส่วนใหญ่คนขายทำหน้างง ผมก็แค่ยิ้มให้ (ไม่จำเป็นต้องอธิบายนี่ครับ) ช่วยกันคนละนิด ก็เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ได้ครับ
ครับผม
จะเห็นก็มีแต่ห้างตราดอกบัวนี่แหละ ที่ไม่ยอมเข้าใจ
ห้างรถพอง ห้างสุดยอด เขายอมรับการไม่ถ่ายของลงถุงกันหมดแล้ว
สวัสดีครับคุณกุ้ง
เด็กผมไปทั่วแหละครับ โดยเฉพาะภาคเหนือ เพราะเขาจะได้เที่ยวด้วยครับ
นี่เป็นส่วนหนึ่งของการลงวิชาเลือก selective ครับ ต้องประเมิน มีผ่าน มีตก ครับ
ปกติไม่ชอบหมาครับ โดยเฉพาะหมาขนยาว เพราะว่ามันจั๊กจี้จมูก ฉะนั้นอย่ากังวลว่าอยากได้หอยโข่ง ฮ่า ฮ่า
แล้วอยากได้อะไรเหรอ เอ..อยากเที่ยวปางมะผ้า กะ ปายคร๊าบ
ฮ่าๆ น่าจะเอาแยมสระผมพี่แป๊ะเนอะ
อย่าเลยตุ๊ต๊ะ
พี่ยังไม่แก่ หูตายังดีอยู่จ๊ะ