สวัสดีครับอาจารย์
บางครั้งงานที่เราทำอยู่แล้วทุกวันเอามาเขียนในบันทึกเราก็เบื่อครับ...
รายการเพื่อการศึกษาทำยากครับเพราะมีระเบียบมาจับเยอะ ง่าย ๆ เราผลิตรายการละ ๒ หมื่น เบิกได้ก็ไม่ครบได้ไม่กี่พันบาท เพราะบางอย่างไม่มีใบเสร็จ คนผลิตต้องออกตังเอง(รายการที่ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจแต่ก็กลัวการกล่าวหา) แต่เอกชนเขาเหมาจ่ายรายการละแสน อันไหนน่าทำกว่ากันครับ...
PORTAL web ก็ดี แต่ใครจะทำหน้าที่นี้ครับ เดี๋ยวผลงานไม่ปรากฏครับ ก็โดนโวยว่าไร้ฝีมืออีก กลัวกันจัง สังคมไทยยังไม่ให้โอกาสผู้ที่บริหารจัดการเก่งให้งานสำเร็จตามวัตถุประสงค์ครับ
สวัสดีครับผม
ได้ดูรายการbeyound tomorrow ในวันเสาร์ที่ 5มกราคม2551 แล้วรู้สึกทึ่งมากๆโดยเฉพาะการฉายภาพบนอากาศซึ่งเราสามารถเดินผ่านมันได้ วาดรูปอากาศก็ได้ ซึ่งเขาใช้เทคโนโลยีเกี่ยวกับเเสงและคุณสมบัติของอากาศเพียงแค่มีเครื่งฉายและจอนำก็สามารถทำได้ดูเเล้วรู้สึกว่าเป็นเป็นเวทมนตร์
เคยได้ยินคำพูดของผู้รู้บางท่านบอกว่า "เขาจะเป็นคนอย่างไร ก็ให้ดูอาหารที่เขากิน เพื่อนที่เขามี ครอบครัวที่เขาเกิด " คงไม่พอแล้วในวันนี้ น่าจะเพิ่มไปอีกว่า..."และ ความรู้ที่เขาได้รับ"
ที่เล่ามาทั้งหมด ไม่ได้ตำหนิใคร แต่อยากบอกความรู้สึกวันนี้...และเดาความคิดของเด็กคนนั้น...
ได้อ่านบทความสัมภาษณ์พิเศษ จากมติชนสุดสัปดาห์ฉบับประจำวันที่ 4 -10 มกราคม 2551 หน้าปก รูปอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร (http://info.matichon.co.th/weekly/) หน้า 29 สัมภาษณ์พิเศษ "เปิดเบื้องหลัง'เคมี อ.อุ๊' โรงเรียนกวดวิชาสุดฮ็อต 19 สาขานักเรียนแน่นทุกห้อง" ผมมีความชื่นชมในความสามารถของ...อาจารย์อุ๊...มาก โดยเฉพาะวิญญาณความเป็นครู และเทคนิคการสอนขอยกข้อความที่ท่านให้สัมภาษณ์ไว้ตอนหนึ่ง...
สิ่งที่ อ.อุ๊ ได้ถ่ายทอดผมเชื่อว่าผู้ที่เป็นครู หรือเรียนสายครุศาสตร์ ต้องเคยผ่านเนื้อหาพวกนี้กันทุกคน โดยเฉพาะถ้าเรียนสาขาเทคโนโลยีทางการศึกษา หรือโสตทัศนศึกษา เพราะคือหลักพื้นฐานของการสอนแบบโปรแกรม (Program Instruction) ที่เรียกว่า 4i ( Interactive, Information, Individual differentail, Immediate feedback) ซึ่งยอมรับกันอย่างกว้างขวางและประกันคุณภาพการเรียนการสอนได้ว่าผุ้เรียนจะประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์....ผมเชื่อว่ามีครูที่รู้หลักการนี้มากมาย ทั้งที่จบ ปริญญาตรี, ปริญญาโท ตามสถานศึกษาต่างๆ แต่ก็เกิดคำถามว่าทำไมการเรียนการสอนในสถานศึกษายังทำให้นักเรียนต้องไปเข้าคิวลงทะเบียนเรียนพิเศษ....ย้อนกลับมาดู กศน.ของเราบ้าง....เราเชื่อว่าวิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง ต้องผ่านการเรียนการสอนและฝึกประสบการณ์อย่างเข้มข้น และการออกแบบการเรียนการสอนน่าจะมาจากครูผู้ผ่านงานสอนอย่างโชกโชนที่จะเป็นพี่เลี้ยงและกำกับดูแล ครู กศน.ได้ ภาพที่ขัดแย้งกันก็คือ ครู ศรช. หรือ ครูอาสาฯ จะเป็นผู้ที่จบปริญญาตรีจากหลากหลายสาขาวิชา เรายังเชื่อว่าวิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูงอยู่หรือไม่ (เพียงต้องการเสนอมุมมองอีกด้านหนึ่ง ทดแทนทุกท่านที่อาจเคยคิดเช่นนี้เหมือนกัน)
อ.กล้อยครับ มีความเห็นที่จี้ใจดำดีจริงครับ และนี่แหละคือ ส่วนหนึ่งในหน้าที่ของเราที่จะต้องทำให้สิ่งเหล่านี้ดีขึ้น พัฒนาขึ้น แต่ก็คงทำได้ในขอบเขตและความรับผิดชอบของเราครับ และพอดีผมก็มีแนวคิดเกี่ยวกับ ICT อีกขั้นหนึ่งดังนี้
กระตุกแนวคิดการพัฒนา ICT
ที่กล่าวมานี้มิได้เสนอให้เลิกใช้ระบบสารสนเทศ เป็นแต่เพียงอยากให้พิจารณา 2 เรื่องคือ
อ.ศริเชาว์ กำลังจะบอกว่า " ข้าวสวย น้ำพริกกะปิ อร่อยได้ถ้าเขาหิว.....ระบบ ICT จะเกิดประโยชน์ถ้า คน กศน.หิวข้อมูล........มาช่วยให้คนกศน. หิวข้อมูลกันดีกว่า...เข้าจะได้เข้ามาตักอาหารใส่ปากเองโดยไม่ต้องบังคับ...อิอิ "