Gutjang
อ. สุดารัตน์ [กั๊ต] เสาวโค

สวยวันละสูตร : สบู่ก้อนสมุนไพรจากน้ำหมักชีวภาพเปลือกมังคุด ตอน สรรพคุณอันหลากหลายของมังคุด


จากการทดลองในระดับห้องปฏิบัติการพบว่า น้ำหมักชีวภาพและสารสกัดจากเปลือกมังคุดมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย ซึ่งเป็นตัวที่ก่อให้เกิดสิวหนองทั้งสองชนิดได้ดีที่สุด

ค้นข่าวชิ้นเก่าๆ ขึ้นมาอ่าน มาสะดุดกับข่าวชิ้นหนึ่งของ นสพ.มติชน ว่า

"การตรวจสอบการยื่นจดสิทธิบัตรสมุนไพรไทยในต่างประเทศ พบว่ามีการยื่นจดสิทธิบัตรคุ้มครองการนำน้ำสกัดจากเปลือกมังคุดมาทำเครื่องดื่ม โดยบริษัทแห่งหนึ่งของประเทศสหรัฐ ซึ่งยื่นจดที่สำนักงานกฎหมายสิทธิบัตรสหรัฐ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2549 โดยคุ้มครองครอบคลุม 17 ข้อ ทั้งนี้ เนื้อหาสำคัญที่ยื่นและส่งผลกระทบกับไทย คือ การยื่นจดสิทธิบัตรน้ำสกัดจากเปลือกมังคุด เพื่อทำเครื่องดื่ม และวิธีการสกัดน้ำจากมังคุด ด้วยการใช้แอลกอฮอล์ โดยมีเอธิลแอลกอฮอล์ ผสมน้ำอย่างละ 50% รวมทั้งการอบแห้งเปลือกมังคุดในระบบสุญญากาศ นอกจากนี้ยังได้จดสูตรเครื่องดื่มน้ำมังคุด โดยนำไปผสมกับน้ำผักผลไม้อื่นๆ เช่น น้ำองุ่น เป็นต้น"

และยังมีรายงานต่ออีกว่า "กรณีนี้กระทบต่อไทยมาก เพราะแม้ว่ามังคุดจะไม่ได้ปลูกที่เมืองไทยแห่งเดียว แต่ก็ถือว่าไทยเป็นต้นกำเนิด และปัจจุบันส่งออกมากที่สุดในโลก และการจดสิทธิบัตรจะทำให้ไทยอยู่ในฐานะผู้ส่งออกวัตถุดิบเท่านั้น ไม่สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปได้ ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มได้ แม้จะมีศักยภาพก็ตาม และการทำเครื่องดื่มน้ำมังคุด ในลักษณะนี้คนไทยโดยเฉพาะชาวสวนทำน้ำดื่มมาก่อน ไทยต้องมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่กลไกเฝ้าระวัง กรมทรัพย์สินทางปัญญาต้องทำอย่างจริงจัง ก่อนที่สมุนไพรไทยจะหมด"

    โรงเรียนเกษตรอินทรีย์    ของเราเองก็ทำน้ำหมักมังคุด (แต่ใช้เปลือกมังคุดและไม่ได้ใช้แอลกอฮอร์เป็นสารสกัด) ไม่น่าจะมีปัญหาเนาะ...แล้วเราทำมาก่อนที่จะมีการยื่นจดสิทธิบัตรอะไรนี้ด้วย

จริงๆ แล้ว "มังคุด" ไม่ใช่ผลไม้ประจำถิ่นของจังหวัดสุรินทร์ แต่ว่าทุกๆ ปี คนสุรินทร์ (และจังหวัดอื่นๆ) จะบริโภคมังคุดจำนวนมาก และเปลือกของมังคุดก็ถูกทิ้งลงถังขยะเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน ทำอย่างไรเราจะสามารถช่วยลดปริมาณขยะในส่วนนี้ลงได้ ......


.....วันนี้เราจึงจะขอเชิญชวนท่านทั้งหลายมาทำน้ำหมักชีวภาพเปลือกมังคุดพร้อมๆ กับการทำสวยด้วยธรรมชาติ....กับสบู่ก้อนสมุนไพรสูตรน้ำหมักชีวภาพเปลือกมังคุด....


...........ทำไม !!!....เราใช้เปลือกมังคุดทำสบู่ได้ด้วยหรือคะ.............

นักเรียนที่เรียนการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากน้ำหมักชีวภาพที่โรงเรียนบ้านจันรมก็ตั้งคำถามเช่นนี้เหมือนกัน

ถ้าได้ศึกษาทราบถึงสรรพคุณของมังคุด ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น "ราชินีของผลไม้" ละก็...ท่านจะรู้สึกเสียดายในภายหลังว่า ... เราไม่น่าทิ้งเปลือกมังคุดลงถังขยะเลย...(นะ...โรบิ้นส์!!)

ก่อนจะลงมือทำสบู่ ฯ...ขอศึกษาสารพัดสรรพคุณพร้อมๆ กับดูงานวิจัยของหน่วยงานที่ได้ศึกษาเรื่องราวของราชินีผลไม้เป็นการทบทวนความรู้กันก่อนนะคะ

 

ราชินีแห่งผลไม้....มังคุด

 

มังคุด ( Mangosteen;ฉายา Queen of fruit มีชื่อภาษาลาตินว่า Garcinia mangostana-GM)

........................

คุณค่าทางโภชนาการ       เมื่อเราบริโภคมังคุดเราจะได้บริโภคกากใยจากเนื้อของมังคุดด้วย ซึ่งจะช่วยในการขับถ่ายและยังได้สารอาหารวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ อีกหลายชนิด เช่น น้ำตาล กรดอินทรีย์ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก ประโยชน์ของมังคุดมิได้มีอยู่แค่เนื้อในของมังคุดที่เราใช้เป็นอาหารเท่านั้น เปลือกมังคุดก็มีสรรพคุณเป็นยาเช่นกัน


-เปลือกมังคุดนี้มีสารแทนนิน (Tannin) และสารแซนโทน (Xanthone) ที่มีชื่อเรียกเฉพาะชื่อเดียวกับมังคุดว่า สารแมงโกสติน (mangostin) สารแทนนินมีฤทธิ์สมานแผลช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น สารแมงโกสตินมีฤทธิ์ช่วยลดอาการอักเสบ และต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง สารแซนโทนในเปลือกมังคุดยังมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังและกลากได้อีกด้วย

-สารสกัดน้ำต้มเปลือกผลมังคุดมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุอาการท้องเสีย ได้แก่ Shigella dysenteriae, Sh. flexneri, Sh. sonnei และ Sh. boydii, Escherichia coli ฯลฯ

-สารสกัดเปลือกมังคุดมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการเกิดหนอง คือ Staphylococcus aureus  และ S. aureus

-Mangostin และอนุพันธ์ที่ละลายน้ำได้ 2 ชนิด มีฤทธิ์ต้านการอักเสบของข้อ

หรือหากต้องการความสะดวกไม่ต้องการทำน้ำหมักชีวภาพให้เสียเวลา เราสามารถนำเปลือกมังคุดมารักษาอาการท้องเสียได้โดย

1.  ใช้เปลือกผลตากแห้งต้มกับน้ำปูนใส นำน้ำมาดื่ม

2.  ใช้เปลือกผลตากแห้งฝนกับน้ำดื่ม

3.  ใช้เปลือกผลตากแห้งฝนกับน้ำ ให้เด็กดื่มครั้งละ 1-2 ช้อนชา ทุก 4 ชั่วโมง และผู้ใหญ่ ครั้งละ 4 ช้อนโต๊ะ ทุก 4 ชั่วโมง

4.  หรือจะใช้มังคุดรักษาแผลโดยเอาเปลือกมังคุดตากแห้งฝนกับน้ำปูนใส ใช้ทาแผลพุพอง แผลเน่าเปื่อย


ส่วนข้อมูลด้านการวิจัย มีข้อมูลจากการศึกษาวิจัยของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ได้ทำการศึกษาฤทธิ์ต้านแบคทีเรียก่อสิวของสารสกัดจากพืชและน้ำหมักพืชที่มีในไทย ผลจากโครงการศึกษาดังกล่าวพบว่า น้ำหมักชีวภาพจากเปลือกมังคุดมีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดสำหรับพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์รักษาสิว โดยสามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย 2 ชนิด ที่เป็นตัวการก่อให้เกิดสิวหัวหนอง ในการศึกษาได้เลือกน้ำหมักจากพืช 4 ชนิดที่พบในไทยคือ  เปลือกมังคุด กระชายดำ ขมิ้นชันและใบบัวบก นำมาหมักแยกกันโดยใช้เชื้อจุลินทรีย์เป็นเวลา 3 เดือน จากนั้นนำมากรองเพื่อแยกให้เหลือเฉพาะน้ำหมัก และส่งไปทดสอบประสิทธิภาพการรักษาสิว เปรียบเทียบ "สารสกัด" จากพืชชนิดเดียวกัน

จากการทดลองในระดับห้องปฏิบัติการพบว่า น้ำหมักชีวภาพและสารสกัดจากเปลือกมังคุดมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย ซึ่งเป็นตัวที่ก่อให้เกิดสิวหนองทั้งสองชนิดได้ดีที่สุด
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างน้ำหมักชีวภาพกับสารสกัดแล้วพบว่า

"คุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวหนองนั้นไม่แตกต่างกัน แต่หากพิจารณาถึงขั้นตอนการผลิตเชิงอุตสาหกรรมแล้ว น้ำหมักชีวภาพสามารถทำได้ง่ายกว่า ขั้นตอนการผลิตไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อน ขณะที่การสกัดสารจากพืชมีความซับซ้อนมากกว่า" แต่อย่างไรก็ตามการใช้น้ำหมักจากเปลือกมังคุดในผลิตภัณฑ์รักษาสิว ต้องคำนึงถึงความเข้มข้นที่เหมาะสมกับผิวหน้าด้วย....

ขณะเดียวกันมีข่าวอีกชิ้นค่ะว่า คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.)ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงโครงการ ร่วมกับบริษัมเอกชนแห่งหนึ่งเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมยั่งยืนจากสมุนไพรเพื่อเป็นการแปรผลิตภัณฑ์เปลือกมังคุดไปสู่ยาและเครื่องสำอางออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ และมีการขยายผลซึ่งจะนำไปสู่ตลาดการค้าต่อไป
ถือว่าเป็นความคืบหน้าที่ดีต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสิ่งที่คิดว่าไร้ค่า....แต่ปลายทางสุดท้ายเราจะได้ร่วมเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากผลงานชิ้นนี้กี่มากน้อย...หากนักวิชาการร่วมกับหน่วยงานราชการพัฒนาผลิตภัณฑ์...คงจะเป็นคุณอนันต์ต่อประชาชนตาดำๆ อย่างเราๆ จะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ดีมีคุณภาพและราคาถูก....เพราะว่าสาร GM ซึ่งสามารถพัฒนาและสกัดต่อไปจนกระทั่งผลิตเป็นยาและเครื่องสำอางทั้งสบู่และครีมรักษาสิวนี้ เป็นผลงานการค้นพบของอดีตนักศึกษา มอ.เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ......

....................
อยากเล่าต่อค่ะ.....แต่บันทึกเริ่มจะยาวมากแล้ว....ขอยกยอดไปครั้งหน้า และจะพาท่านทำน้ำหมักชีวภาพเปลือกมังคุด..นะคะ

.....................

ขอขอบคุณ  ลุงพูน   P  เจ้าของบันทึก เรื่องมังคุด ที่บล็อกเกษตรกรรม+ธรรมชาติ ที่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ของมังคุด และมีสาระทางวิชาการจากบันทึกของท่าน จึงขออนุญาตยกมาต่อบันทึกนี้ด้วยเลยนะคะ ------------------->>

............ดูกันที่เปลือกมังคุดเมื่อวิเคราะห์พบว่า มีการประกอบ 3 กลุ่มที่สำคัญ คือ
     กลุ่มสารแทนนิน (Tannin) ให้รสฝาด เป็นสารที่ช่วยสมานแผลให้หายเร็ว รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
     กลุ่มที่เป็นรงควัตถุ (Anthocyanin) หรือเม็ดสีบริเวณผิวเปลือกด้านนอกสีแดง สีม่วง-น้ำตาล มีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)
     และสุดท้ายเป็นกลุ่มสำคัญคือ สารแซนโทน (Xanthone) ซึ่งมีอยู่มากถึง 43 ชนิด เช่น mangostin, mangostenol เป็นต้น
     ซึ่งสารแซนโทนนี้มีมากที่เปลือกมังคุด แต่จริงแล้วมีที่เมล็ด ลำต้น และใบด้วย แต่ปริมาณน้อยกว่าที่เปลือก
     เมื่อกล่าวถึงเปลือกมังคุดพบว่า มีสรรพคุณหลายด้านซึ่งมีการใช้มาตั้งแต่โบราณ โดยการใช้เป็นยาฝาดสมาน แก้ท้องเสีย แก้บิด รักษาแผล
     ไม่เฉพาะไทยเท่านั้น ประเทศอินโดนีเซียใช้เปลือกแก้บิด ใบแห้งนำมาต้มดื่มแก้ไข้ บรรเทาอาการปวดท้อง คนจีนใช้เป็นยาแก้บิด และนำไปผสมในขี้ผึ้ง ทาแก้ผื่นคัน รักษาอาการท้องเสียและหนองใน ฟิลิปปินส์ใช้แก้ท้องเสีย ถ่ายพยาธิ ส่วนมาเลเซียใช้เปลือก ราก ต้มรักษาอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ
     หากจะจำแนกประโยชน์ของเปลือกมังคุดเกี่ยวกับฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา สามารถแบ่งได้เป็น 6 ประเด็น ดังนี้
     1.มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย สารสกัดจากเปลือกมังคุดสามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย S.aureus สาเหตุแผล ฝี หนอง ของร่างกายมนุษย์ ทั้งสายพันธุ์ปกติและสายพันธุ์ดื้อยาเพนนิซิลลิน ประสิทธิภาพเทียบเท่า ยาแผนปัจจุบันคือ Vancomycin ที่ใช้เป็นสาร antibiotic กับคนไข้ ไอซียู ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดอาการท้องร่วง แผลในกระเพาะอาหาร เช่น E.coli, Shigella Spp. ต้านเชื้อแบคทีเรีย H.pyroli และต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว ฝ้า พวก P.acne
   2.มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อรา พวกเชื้อราสาเหตุของโรคผิวหนัง กลาก เกลื้อนได้บางชนิด
     3.เป็นสารกดการทำงานของระบบประสาทส่วนกลางในหนู ซึ่งทำให้สงบ เชื่องช้า เป็นสารเสริมฤทธิ์ยานอนหลับ ทำให้หลับนานขึ้น ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อหัวใจ และเพิ่มความดันโลหิต
     4.สารแมงโกสตินและอนุพันธ์ สามารถลดอาการอักเสบ บวมแดงและร้อนของกล้ามเนื้อผิวหนัง ใช้ทาแผลสด แผลไฟไหม้ได้ดี พอๆ กับว่านหางจระเข้ รักษาแผลโรคเบาหวานและแผลเรื้อรังจากการติดเชื้อแบคทีเรียได้ดี ผลการทดสอบสามารถต้านการอักเสบได้ดีกว่ายาแอสไพริน 3 เท่า
     5.ต้านออกซิเดชั่น (antioxidant) ในกระบวนการต่อต้านและกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกายและจากสภาพแวดล้อมภายนอกที่เป็นสาเหตุอาการผิดปกติของร่างกาย เซลล์ผิวหนัง เนื้อเยื่อต่างๆ ป้องกันการเกิด LDL และลดความเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดอุดตัน จากการทดสอบความสามารถในการดูดซับอนุมูลอิสระของสารสกัดจากผลไม้ชนิดต่างๆ เช่น แครอต ราสป์เบอร์รี่ โพมกราเนต วูฟเบอร์รี่ และมังคุด พบว่า สารแซนโทนจากมังคุด มีคุณสมบัติดูดซับอนุมูลอิสระได้มากสุด
     6.บรรเทาอาการแพ้ โดยมีฤทธิ์ต้านอีสตามีน และเซโรไทนิน สาเหตุโรคภูมิแพ้ น้ำมูกไหล จาม-ไอ แก้มแดง ตาแดง ผิวหนังผื่นคัน ระคายเคือง ลดอาการบวมแดงเนื่องจากหลอดเลือดขยายตัว
     ผลทดสอบในห้องทดลองจากประเทศจีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น อินเดีย และยุโรป ยังพบว่า ยับยั้งเอนไซม์ของเชื้อ HIV และสารที่เป็นพิษต่อพันธุกรรมมนุษย์ กระตุ้นกระบวนการ phargocytosis คือ การกำจัดสิ่งแปลกปลอมพวกจุลินทรีย์ที่เข้าสู่ร่างกายและช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดที่มีรังสีอัลตราไวโอเลต โดยมีค่า SPF 10.4
     จากผลการวิจัยที่ว่า สารแซนโทนและอนุพันธ์ มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหลายด้าน จึงได้มีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ หลายแบบ เช่น ยาการ์ซิดีน (Garcidine) ยาใส่แผลสดจากเปลือกมังคุด ที่ใช้ทดแทนยาแดง ยาเหลือง ทิงเจอร์ไอโอดีน ที่ชื่อโพวีโดนไอโอดีน ซึ่งยานี้มีข้อจำกัดเพราะมีสารโลหะหลายชนิดและเป็นพิษต่อร่างกาย ระคายเคืองแสบมากและเปรอะเปื้อนเสื้อผ้า ไม่สมานแผลจึงหายช้า ที่สำคัญคือ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ขาดดุลการค้ามหาศาล ขณะที่ยาการ์ซิดีนนั้นมีประสิทธิภาพฆ่าเชื้อได้ดีกว่ายาโพวีโดนไอโอดีน เพราะมาจากธรรมชาติ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและฝาดสมาน แผลจะหายเร็วกว่า

 @@@@@@@@@

รายละเอียดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บันทึกของลุงพูนข้างต้น และที่ลิ้งค์..... [ CLICK ] .... [ CLICK ] ... (ขอบคุณเจ้าของข้อมูลค่ะ)

ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องพันธุ์และการปลูกมังคุด....[ คลิ้กที่นี่ค่ะ ]....

หมายเลขบันทึก: 157832เขียนเมื่อ 7 มกราคม 2008 00:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

P  อ้อยควั้น

  • สวัสดีค่ะ...ครูพี่กั๊ต
  • สวัสดีปีใหม่ค่ะ
  • ขอบคุณมากค่ะ...สำหรับ ส.ค.ส 2551
  • ได้รับแล้วค่ะ
  • ขอให้พี่มีวามสุขมากนะค่ะ
  • อะแหม...สวยวันละสูตรกันอีกแล้ว
  • คราวนี้สวยด้วยสบู่เปลือกมังคุดเหรอค่ะ
  • เคยลองใช้แล้วค่ะ...ก็ถือว่าโอเคนะค่ะ
  • แต่ไม่ได้ใช้ติดต่อก่อเท่านั้นเอง อิอิ
  • สบู่มังคุด สรรพคุณมากมาย ที่ยะลาก็มีสนับสนุนให้กลุ่มแม่บ้าน ฯ ทำเหมือนกันค่ะ

สวัสดีค่ะน้องอ้อยควั้น

  • ขอบคุณค่ะสำหรับวันดีๆ ในทุกๆ วัน
  • วันนี้ได้ยินเสียงตามสายแล้วงงๆ ค่ะ (อิ.อิ.) เพราะกำลังเบลอกับเด็กๆ (ก็เลยงงว่า...เอ...อ้อยควั้นไหนหว่า !!!! ฮ่าๆๆ)
  • สบู่เปลือกมังคุดใช้ได้ดีกับผิวหน้าที่มีสิวค่ะ
  • เพราะสรรพคุณของเปลือกมังคุดช่วยรักษาสิวหัวหนองและกระชับรูขุมขน ทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย (จะเป็นสาวพันปีกันคราวนี้ล่ะ)
  • มีบริษัทเอกชนหลายแห่งที่ได้ผลิตเป็นการค้าแล้วค่ะ พร้อมกับการประชาสัมพันธ์ขายทางสื่อต่างๆ
  • แต่เราผลิตเองก็ได้...ง่ายจัง
  • ขอบคุณนะคะ

สวัสดีค่ะ

มังคุด เป็นผลไม้รสอร่อย พี่ชอบมากๆค่ะ

มักนิยมปลูกทางใต้ และทางตะวันออก ทางสุรินทร์มีปลูกไหมคะ เคยอ่าน มีสรรพคุณมาก เช่น....

เขาใช้เปลือก   เปลือกผลแห้ง รสฝาด แก้ท้องเสีย บิด มูกเลือด

ใช้น้ำต้มเปลือกมังคุดล้างแผล ช่วยให้แผลหายเร็ว

เป็นยารักษาอาการท้องเดิน ใ

ช้เปลือกผลตากแห้ง ต้มกับน้ำปูนใส หรือฝนกับน้ำรับประทาน บิด

ใช้เปลือกผลแห้ง ย่างไฟไหม้เกรียม ฝนกับน้ำปูนใส

แต่ที่เอามาทำสบู่ เพิ่งทราบค่ะ แต่น่าจะดี เพราะ หน้า ควรขาวขึ้นนะคะ แต่เคยมีคนแพ้ไหมคะ

สวัสดีค่ะsasinanda

  • จังหวัดสุรินทร์ไม่มีสวนมังคุดเลยค่ะ...ส่วนใหญ่เกษตรกรจะปลูกข้าว (หอมมะลิ/ขาวดอกมะลิ 105)
  • โรงเรียนเรามีโครงการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากน้ำหมักชีวภาพ (ซึ่งเราผลิตหลายสูตรเพื่อการศึกษา)
  • มังคุดก็เป็นหนึ่งในนั้น
  • จากการทดลองแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์และทดลองใช้ในหลายๆ รุ่น (กับสาวๆ ในชั้นเรียน) ยังไม่พบว่ามีอาการแพ้ค่ะ
  • และโดยเฉพาะครูกั๊ต ที่มักจะแพ้เครื่องแต่งหน้าได้ง่าย (มาก) ได้ทดลองใช้แล้วก็ไม่พบว่ามีอาการแพ้เช่นกันค่ะ
  • ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากเราใช้น้ำตาลทราย (ไม่ฟอกสี) + น้ำสะอาด (น้ำฝน) + เปลือกมังคุดสด
  • รวมทั้งเราใช้เวลาในการหมักนานข้ามปี...ทำให้กระบวนการหมักสมบูรณ์ (ซึ่งจากการทดลองเปรียบเทียบกับสูตรที่ใช้น้ำหมักที่ผ่านการหมักในระยะเวลาสั้นๆ แล้ว คุณภาพของผลิตภัณฑ์จะต่างกัน)
  • เดี๋ยวนี้สบู่เปลือกมังคุด (ทั้งสูตรสบู่เหลว+สบู่ก้อน) จึงมีประจำในบ้านค่ะ
  • .....

>> พึ่งกลับจาก HBD ที่บันทึกครูอ้อยค่ะ (ตามรอยคุณพี่ไป...ขอบคุณนะคะ)<<<

  • คนอยากสวยมาแล้วค่ะพี่กั๊ต
  • อืม จะสวยแล้วสวยเลยไหมค่ะ
  • ช่วงนี้ยุ่งมากค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

- แวะมาชมความมหัศจรรย์ของเปลือกมังคุดด้วยครับ

- ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ (อำเภอลับแล)อากาศดี สภาพแวดล้อมเหมาะสมสามารถปลูกไม้ผลได้หลายชนิดไม่ว่าจะเป็นราชาแห่งผลไม้(ทุเรียน) ราชินีแห่งผลไม้(มังคุด) สำหรับทุเรียนที่ขึ้นชื่อของลับแลคือพันธุ์หลง พันธุ์หลินครับ แถมราคาแพงกว่าหมอนทองอีก

- ขอบคุณครับสำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้

ครูพี่กั๊ตขา

  • มหัศจรรย์ผลไม้ไทยนะคะ  มีประโยชน์มากมาย  แล้วก็ยังคงมีอีกหลายชนิดที่กำลังรอการค้นพบ
  • บ้านหนูมีลิ้นจี่ค่ะ  นอกจากทานแล้วนำมาทำสวยได้บ้างมั๊ยคะพี่กั๊ตขา

น้องอ๊อดคะ naree suwan

  • จะให้ครบกระบวนท่า ... เผ็ด...สวย...ดุ....ใช่ไหมคะ (อิ.อิ.)
  • สวยด้วยธรรมชาติ>>>สวยทนสวยนานแน่นอนค่ะ
  • หลายๆ คนงานชุกแต่ต้นปีเหมือนกันเลย....ดูแลสุขภาพเช่นกันนะคะ

สวัสดีค่ะอาจารย์ โต

  • ขอบคุณค่ะที่แวะมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้
  • ทุเรียนกับมังคุด (ราชากับราชินี) คู่กันนะคะ
  • หนึ่งร้อนอีกหนึ่งเย็น
  • เปลือกมังคุดมีสรรพคุณใช้ได้ทั้งจากการหมักและจากการสกัดฯ ค่ะ
  • แต่การหมักจะสะดวกมากกว่า ไม่ต้องใช้ทรัพยากร/ความชำนาญการมาก แถมได้ผลผลิตที่มากกว่าด้วยค่ะ
  • คาดว่าอนาคตผลิตภัณฑ์จากเปลือกมังคุดจะสดใสเนื่องจากกำลังเริ่มได้รับความนิยม
  • ขอบคุณค่ะ

น้องหมีเชอรี่คะ ทะเลดาว

  • อยากเห็นบ้านสวนแล้วค่ะ...(และบรรยากาศการหลงทาง..อิ.อิ.)
  • จะได้มาชิมลิ้นจี่ด้วย...เอาไว้เบื่อก่อนแล้วค่อยคิดเรื่องเอามาทำสวยหรือเอามาหมัก...นะคะๆ
  • ^ - ^
  • สวัสดีค่ะพี่กั๊ต
  • มังคุดน่าอร่อยจังค่ะ หิวๆๆๆ
  • แถมยังมีประโยชน์มากมายหลายอย่างด้วย
  • โดยเฉพาะคุณสุภาพสตรีทั้งหลาย.....
  • ต้องติดตามตอนต่อไป  ตอนนี้ให้ทานมังคุดไปก่อนใช่ไหมคะ  อิอิ
  • ครูกั๊ตสบายดีนะคะ
  • ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีค่ะ

สวัสดีค่ะน้องรักษ์  RAK-NA

  • เปลือกมังคุดมีประโยชน์มากเลยค่ะ
  • ทำสบู่ก็ได้...แชมพูก็ดี
  • มีสิว (หนอง) จากการแพ้เครื่องประทินผิว...สบู่มังคุดและแชมพูมังคุดของเราแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี (ไม่เชื่อ...ต้องลองค่ะ)
  • ตอนนี้ได้ข่าวว่าไทยจะตกลงความร่วมมือกับบริษัทเอกชนในเรื่องการจำหน่ายน้ำ (เครื่องดื่ม) มังคุดส่งออกต่างประเทศ...เงินกำลังจะไหลมาแล้วค่ะ...ติดตามต่อไป
  • ตอนนี้ชิมมังคุดหวานๆ ไปพลางๆ ก่อนนะคะ
  • ขอบคุณค่ะ
  • ตามมาบอกอีกรอบ
  • มังคุดเป็นของโปรดแต่ไม่ทานเปลือก
  • คราวหน้าจะส่งเปลือกมังคุดไปให้พี่กั๊ตทางอีเมล์นะคะ อิอิ
  • ธุ ครูพี่กั๊ต ค่า..

เคยได้ยินถึงสรรพคุณของเปลือกมังคุดมานานแล้วค่ะ    แล้วก็ได้เห็นผลิตภัณฑ์จากผลไม้ชนิดนี้ด้วย   

ว่าแต่ ท่านพี่นารีส่งเปลือกมังคุด..  ครูพี่กั๊ตก็ส่งสบู่เปลือกมังคุดมาให้ต้อมลองใช้  อิอิ  เป็นน้องที่ดีจะขอทดสอบสรรพคุณให้พี่ๆ ไง   ใช้ได้ผล..หน้าใสเด้ง  ขายออกเมื่อไหร่   แสดงว่าเปลือกมังคุดท่านแน่มาก  55

น้องอ๊อดคะ  naree suwan  ทานทุเรียนจะร้อนใน..ทานมังคุดตามเป็นยาเย็นเพื่อดับร้อน....ถ้าทานบ่อยๆ อาจจะช่วยลดความดุลงได้น๊า....(อิ.อิ.)

น้องต้อมขา เนปาลี  ความสุขจากกะเหรี่ยงส่งถึงเมืองช้างวันนี้เองค่ะ....เย้!!! มีเหยื่อให้ทดสอบคุณภาพสบู่แล้ว ...แต่ขอรับประกันแค่ใช้แล้วสวย ใส ปิ๊ง ได้ไหมคะ....ใช้แล้วขายออก คนทำสบู่หนักใจๆๆ ค่ะ....

P
  • สวัสดีค่ะ...ครูพี่กั๊ต ที่คิดถึง
  • สบายดีนะค่ะพี่สาว
  • อิอิ ส่งกลับไปให้เหมือนกันนะค่ะพี่...แต่คงหลายวันกว่าจะถึงค่ะ
  • ใช่ค่ะ...เปลืองมังคุดสารพัดประโยชน์จริง ๆ...เป็นทั้งยา และบำรุงความงาม อิอิ 

สวัสดีค่ะอ้อยควั้น

  • "วันเด็ก" ทำอะไรดีเอ่ย
  • สุขสันต์วันเด็กค่ะ
  • อิ.อิ.

สวัสดีครับครูกั๊ต

     ผมหวังว่าปีหน้าคนที่กินมังคุดแล้วคงจะเก็บเปลือกไว้ใช้ประโยชน์นะครับ

     ฤดูกาลที่ผ่านมา ผมบดเปลือกมังคุดไว้หน่อยหนึ่ง ก็เอามาทำลองทำของเล่นดู

     ผงเปลือกมังคุด ไม่ละลายในน้ำมันมะพร้าว แต่ละลายในน้ำได้ดีกว่า ตอนแรกตั้งใจจะทำน้ำมันมะพร้าวผสมเปลือกมังคุด เพื่อจะเอาคุณสมบัติของสองสิ่งมารวมกัน และใช้ได้ง่าย แต่พอเข้ากันไม่ได้ก็ต้องทำใหม่

     เอาไปใส่ในสบู่แบบที่ครูกั๊ตทำก็น่าจะดีกว่า

     เปลือกมังคุดสดๆจะนิ่มๆ แต่พอแห้งแล้วจะแข็งมากๆ ดังนั้นใครๆที่จะเก็บเปลือกไว้เอาไปบดจะต้องหั่นเปลือกมังคุดตั้งแต่สดๆ เอาไว้ก่อน หากเอาไปบดทั้งผังเป็นชิ้นๆ จบบดได้ยาก หรือเอามาหั่นทีหลังก็จะหั่นยากอีกครับ

     ว่าจะเอาไปลายลายในแอลกอฮอล์ดู น่าจะละลายได้ แต่ยังไม่ได้ลอง

     หรือเอามาใช้ก่อน แบบไม่ต้องคิดมาก ก็เอาผงเปลือกมังคุดมาผสมกับโลชั่นทาผิว ยี่ห้ออะไรก็ได้ ใช้แต้มสิว หรือแผลพุพอง ก็น่าจะได้ผลครับ

     เคยเขียนเกี่ยวกับมังคุดเอาไว้หน่อยหนึ่ง ในบันทึกของผม แล้วก็ไม่ได้เพิ่มเติมเลย

     http://gotoknow.org/blog/agri-natural/119091 

สวัสดีค่ะ ลุงพูน

  • ดีใจค่ะที่ลุงพูนแวะมา
  • ครูกั๊ตได้ศึกษาเรื่องมังคุดจากบันทึกลุงพูนด้วยค่ะ..ก็เลยขออนุญาตดึงข้อมูลมาต่อที่บันทึกนี้เพื่อให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น
  • โรงเรียนบ้านจันรม เริ่มต้นดำเนินการตามนโยบายเกษตรอินทรีย์จากการศึกษา เรื่องน้ำหมักชีวภาพสูตรต่างๆ โดยเริ่มจากสูตรง่ายๆ (เรียกว่าสูตรใจง่ายค่ะ...อิ.อิ.) คือ เอาเศษพืชผักที่อยู่ใกล้มือ ทุกชนิดใส่ถังเติมกากน้ำตาลเติมน้ำแล้วปิดฝาทิ้งไว้ สุดท้ายก็เป็นบ้าง /เน่าบ้าง
  • ก็ได้เรียนรู้ว่าเศษผักที่เราเก็บมาจากตลาด "ส่วนใหญ่" มักจะไม่สามารถนำมาใช้หมักได้ เนื่องจากจุลินทรีย์ตายหมดถัง จากพิษสารเคมีที่ตกค้างในผัก
  • หลังจากนั้นเราเริ่มศึกษาการหมักแยกสูตรและศึกษาสรรพคุณของพืชผัก/ผลไม้ที่นำมาหมักเพื่อการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ นอกเหนือจากการนำไปใช้ในแปลงผักของโรงเรียน
  • ............
  • ขอบคุณในข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ------------> 
  • ผงเปลือกมังคุด ไม่ละลายในน้ำมันมะพร้าวแต่ละลายในน้ำได้ดีกว่า
  •  เปลือกมังคุดสดๆจะนิ่มๆ แต่พอแห้งแล้วจะแข็งมากๆ ดังนั้นใครๆที่จะเก็บเปลือกไว้เอาไปบดจะต้องหั่นเปลือกมังคุดตั้งแต่สดๆ เอาไว้ก่อน หากเอาไปบดทั้งผังเป็นชิ้นๆ จะบดได้ยาก
  • และเปลือกมังคุดสามารถสกัดได้โดยใช้เมทิลแอลกอฮอร์ค่ะ
  • สรุปได้ว่านำมาหมักฯ จะสะดวกและประหยัดกว่านะคะ
สวัสดีครับครูกั๊ต รพ พระยาอภัยภูเบศร์ ออกน้ำยาล้างมือผสมเปลือกมังคุดมาขายแล้วครับ รร ของครูกั๊ตก็น่าจะทำน้ำยาล้างจานผสมเปลือกมังคุด หากแถวบ้านครูกั๊ตมีการปลูกยางพารา ขอแนะนำให้เอาน้ำหมักเปลือกมังคุดไปทาหน้ายางกันเชื้อรา ทางใต้นิยมผสมดินสีแดงลงไปด้วย ตอนนี้อากาศเริ่มจะแห้ง ต้นไม้ใบหญ้าจะเหี่ยวเฉา ตัดมาแล้วจะเอามาหมักทำปุ๋ยหรือน้ำชีวภาพ ก็ต้องเติมน้ำลงไปมาก อยากจะให้ลองเปลี่ยนจากต้นผัก ต้นหญ้า มาเป็นต้นกล้วย แทนครับ คงเคยได้ยิน น้ำจุลินทรีย์หน่อกล้วย ใช้หน่อกล้วย หรือต้นกล้วยที่ตัดเครือแล้วก็ได้ครับ เอามาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ขุดมาทั้งต้นก็ได้ ให้ติดดินที่โตนกล้วยมาด้วย จะได้จุลินทรีย์ที่อยู่ในดินโคนต้นกล้วย แล้วผสมกากน้ำตาลลงไปในอัตรา 3:1 ต้นกล้วยสับ 3 ส่วน น้ำตาล 1 ส่วน หมักไว้ในภาชนะปิดฝา กวนวันละครั้ง สัก 2 สัปดาห์ก็กรองเอาน้ำมาใช้ได้ครับ ถึงแม้ว่าอากาศจะร้อนและแห้งแล้งแค่ไหน แต่ต้นกล้วยไม่เคยแห้งครับ

สวัสดีค่ะลุงพูน

  • สรรพคุณของมังคุด----> น่าสนใจนำมาแปรรูปเป็นน้ำยาล้างจานสูตรน้ำหมักชีวภาพมังคุดเพราะคงจะมีประโยชน์ต่อการฆ่าเชื้อโรคนะคะ (ฤดูมังคุดที่จะถึง...คงต้องเฝ้าเข่งมังคุดแล้วค่ะ...^ - ^)*
  • สนใจน้ำหมักสูตรต้นกล้วยค่ะ.....ตอนนี้ภาคอีสานอากาศแห้งมาก ต้นไม้ที่ปลูกไว้หลังบ้านเมื่อปลายฝนที่ผ่านมาเริ่มเหี่ยว รดน้ำก็ช่วยได้ไม่มาก
  • ต้นกล้วยไม่เคยแห้งในหน้าแล้ง...น่าจะช่วยแก้ปัญหาต้นไม้เหี่ยวได้อย่างลุงพูนว่าค่ะ
  • ขอบคุณมากเลยค่ะในคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อโรงเรียนเกษตรอินทรีย์

P 

อ้อยควั้น

  • สวัสดีค่ะ...พี่กั๊ตที่คิดถึง
  • สบายดีนะค่ะ
  • ฮั่นแน้...มีสุขสันต์วันเด็กด้วยแฮ่ะ...จะพ้นวัยไหมนี่ อิอิ วันเด็กอยู่บ้านค่ะพี่
  • แวะมาขโมย ๆ ๆ ๆ ความวยจากสูตรเด็ดเช่นเคยค่ะพี่จ๋า อิอิ

สวัสดีค่ะน้องอ้อยอ้อยควั้น สบายดีนะคะ

  • "เงินไหลมา" ส่งถึงเมืองช้างแล้วค่ะ..สวยมากเลย...ขอบคุณนะคะ
  • รอบสัปดาห์ที่แล้ว..เราได้สูตร "เด็ด" อีกสูตรค่ะ
  • เป็นสูตรดอกกุหลาบ
  • ซึ่งเรากำลังศึกษาวิธีการและสรรพคุณอยู่ค่ะ
  • คราวนี้หล่ะ.....จะแจกสวยซะให้เข็ด...อิ.อิ.

พึ่งเข้ามาอ่านค่ะ

พอดีเข้ามาอ่านหาข้อมูลในเน็ตและหัดทำน้ำหมักชีวภาพจากเปลือกมังคุด

พึ่งทำเมื่อวันที่ 28 กค.52 นี้เอง ทำใส่ขวดเล็ก ๆ เพราะกินแล้วก็ทิ้งเปลือก ซื้อมากิน 3 กก.น้ำหนักเปลือกมากกว่า ทิ้งใส่ถังขยะก็เต็มเร็ว มาอ่านในเน็ต ก็ลองมาทำดู

ใส่ขวดปิดฝาไว้ วันแรก ๆ เปิดเกลี่ยวออกไม่มีกลิ่นเลย ได้ยินแต่เสียงแก๊วออก พอได้หลายวัน รู้สึกมีกลิ่นหอม

เลยอยากถามท่านผู้รู้ที่เคยทำมาแล้ว ว่าปกติมีกลิ่นแล้วใช้ได้ไหม และจะเอาไปใช้ได้เมื่อไร และกลิ่นมีประโยชน์หรือโทษหรือเปล่า เพราะหอมดี ถ้าเปิดในบ้านกลิ่นจะเป็นประโยชน์หรือโทษมากกว่ากันค่ะ ช่วยตอบตามเมย์ด้วยนะคะ หรือตอบในกระทู้นี้ก็ไดค่ะ

จุดประสงค์หลักที่อยากทำน้ำหมักชีวภาพนี้ คือที่บ้านเวลากลางคืน จะมีแมลงสาปออกมาจากท่อระบายน้ำมากินขยะ เยอะ มาก เอายาฉีดแรก ๆ ก็หายไป สักพักมาใหม่ ซื้อยาฉีดไปหลายตัง แล้วก็ไม่ได้ผล มาอ่านในเน็ตว่าน้ำหมักชีวภาพช่วยได้ก็เลยลองทำดู

ทีแรกกำลังจะหาว่าจะเอาอะไรมาหมักดี เพราะที่บ้านอยู่กันแค่ 3 คน พอดีกินมังคุดว่าง ๆ ก็เลยเอามาหั่นเล่น ๆ ก็เลยลองทำใส่ขวดน้ำกินที่เหลือทิ้ง ตอนนี้รอดูผลอยู่ค่ะ

ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

ข้อมูลในนี้ดีมากเลยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท