การเติมเงินสำหรับโทรศัพท์มือถือ ความหมายและคุณค่าที่ซ่อนอยู่
ยิ่งคุยมาก ยิ่งมีเวลาไปทำกิจกรรมอย่างอื่นลดลง
แต่การคุยโทรศัพท์ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปพบเจอกัน สามารถติดต่อสื่อสารให้รู้เรื่องภายในเสี้ยววินาทีทีรับสาย
สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการโทรศัพท์ ซึ่งมีทั้งแบบจ่ายเงินก่อนโทร และจ่ายทีหลัง มีใบเสร็จรวมยอดค่าใช้จ่ายของแต่ละเดือนส่งถึงตัว
หรือระบบ pre paid , post paid
หลายคนบอกว่า ระบบเติมเงิน ประหยัดกว่า เพราะรู้ค่าใช้จ่ายตลอดเวลา
แต่ต้องเสียเวลาไปเติมเงิน ด้วยวิธีการต่างๆ
หลายท่านที่มีเวลาจำกัด มักจะใช้ระบบจ่ายรายเดือน เพราะสะดวกดี ไม่ต้องไปหาซื้อบัตรเติมเงิน
โฆษณาของโทรศัพท์ระบบเติมเงิน มักจะเจาะกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบความสะดวก มีรายได้จำกัด
มีโปรโมชั่นส่งเสริมการขายออกมามากมาย
การเติมเงินสำหรับโทรศัพท์ ก็มีความหมายบางอย่างซุกซ่อนอยู่เช่นกัน
- เมื่อโทรจนหมดเงินที่เติมไว้ ทำให้เป็นการเตือนตัวเองอยู่ตลอด ว่าใช้จ่ายไปเท่าไหร่ เพราะหลายคนมักจะโทรคุยกันจนเพลิน
- หลายคนต้องเช็คยอดเงินที่เหลืออยู่บ่อยๆ ทำให้รู้ว่า เหลือเวลาโทรออกกี่นาที
- เราสามารถใช้การเติมเงินในมือถือ เป็นการเติมมิตรภาพ และเติมใจให้อีกฝ่ายได้ โดยเติมเงินในมือถือให้อีกฝ่าย ซึ่งรูปแบบการเติมเงิน มีตั้งแต่ซื้อบัตรเติมเงินให้ กดโอนเงินในมือถือ เป็นการเติมเงิน เติมเวลาโทรออกให้อีกฝ่าย หรือ การเติมเงินผ่านตู้ ATM
- ผู้ใช้โทรศัพท์ระบบจ่ายรายเดือนมักจะโทรเพลินจนค่าใช้จ่ายสูงกว่า โทรแบบเติมเงิน เพราะโทรได้เรื่อยๆ แต่สำหรับโทรแบบเติมเงิน ถ้าเงินหมด ก็โทรไม่ออก เป็นระบบเตือนถึงค่าใช้จ่ายได้อย่างดี
- เปรียบเหมือนกับชีวิต ที่ควรมีการเติมเต็มสิ่งใหม่ๆอยู่บ่อยๆ เช่น เติมกำลังใจ ความรู้สึกที่ดีๆ หากนานๆครั้งเติมสิ่งดีๆให้ชีวิตสักครั้งหนึ่ง ชีวิตย่อมขาดความสดชื่นแจ่มใส
ความเห็น (6)
วนเข้ามาเป็นเรื่องเดียวกันได้นะคะ ระหว่าง การเติมเงินของบัตรเติมเงิน และ การเติมกำลังใจ อิอิ
ของนิวใช้แบบรายเดือนคะ ก็อยากที่คุณบอก.. มันสะดวกดี แต่ก็ต้องระวังเรื่องค่าใช้จ่ายเหมือนกัน ยิ่งเป็นลูกค้านาน เค้ายิ่งปรับวงเงินให้สามารถใช้ได้สุงสุดมากขึ้น ที่นี้ถ้าใช้ไม่ระวัง เดือนนึงก็คงหลายอยู่คะ อย่างของนิว เป็นลูกค้ารายเดือนมาพักใหญ่...ตอนนี้เค้าปรับวงเงินการใช้เดือนละ 6,000 บาทแล้วคะ (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) เหอๆ ก็ต้องพยายามไม่ให้ใช้เพลินคะ
โรงเรียนอุตรดิตถ์ขอเข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยครับ
โทรศัพท์มือถือมีทั้งประโยชน์มหาศาล และมีโทษอย่างอเนกอนันต์ อยู่ที่เจตนาการใช้จะเป็นทางบวก หรือลบ
มีบางบริษัทใช้เทคนิคบางอย่างเช่นกำหนดระยะเวลา ทำให้เป็นการบังคับผู้ใช้กลายๆว่าต้องใช้นะในช่วงเวลานี้ ถึงแม้ว่าเงินยังเหลือก็ตาม จำเป็นต้องเติมเงิน
โห คุณนิว โทรเยอะเหมือนกันนะครับ เดือนละ 6000 เชียวหรือนี่ โห.................
มากกว่านายบอนตั้งหลายเท่าตัวเลยนะครับ
สงสัย เดือนละ 6000 เนี่ย คงโทรหาแฟนเป็นหลักรึเปล่านะ :)))
แต่ก็สะดวกอย่างที่ว่าน่ะครับ เติมเงิน เติมช่วงเวลาของคนไกลกัน ให้ได้ชิดกันผ่านมือถือ เป็นการเติมใจให้กันด้วย
สวัสดีชาวโรงเรียนอุตรดิตถ์ ครับ
โปรโมชั่นของโทรศัพท์มือถือเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่พิจารณาให้ดีๆ จะเสียรู้่ได้ง่ายๆเหมือนกัน หลายโปรโมชั่น ฟังดูดีมากๆ แต่เมื่อคิดค่าใช้จ่ายแล้ว กลับจ่ายแพงกว่าเดิม และยั่วกิเลสของคนให้ใช้มากขึ้น ไม่งั้นไม่คุ้ม...
แต่เงินในกระเป๋าหายไปอย่างไม่รู้ตัว :))
ไม่ใช่คะ คุณบอน นิวหมายถึงว่า ในแต่ละเดือนเค้าจะให้เรามียอดใช้ได้ไม่เกินเท่านั้นเดือน เท่านี้เดือน อะไรแบบนี้หนะคะ
ถ้าเป็นลูกค้ารายใหม่ เค้าจะให้ใช้ได้เดือนละ 2 พันหรือ 3 พันนี่แหละคะ ทั้งนี้อาจเป็นการป้องกันไม่ให้ใช้เยอะแล้วไม่มีเงินจ่ายมั๊งคะ ที่นี้ว่าเราเป็นลูกค้านาน ๆ เข้า ทางบริษัทเค้าจะปรับยอดเงินให้เราเรื่อย ๆ ซึ่งตอนนี้นิวสามารถใช้ต่อเดือนม่เกินเดือนละ 6 พัน หนะคะ
ปล. ค่าโทรศัพท์ของนิวไม่เยอะขนาดนั้นหรอกคะ แค่เดือนละ เกือบพัน หรือพันนิด ๆ เท่านั้นคะ อ้อ ! ลืมบอกไป นิวยังไม่มี "แฟน" ยังไม่อยากหาเหาใส่หัวตัวเองคะ อิอิ ฮือ ๆ คุณบอนงะ ง่ำ ๆ
สวัสดีปีใหม่นะคะ
นายบอน@kalasin
เดือนละพันกว่าหรือครับคุณนิว...
... โห ก็ถือว่าเยอะอยู่ดี.....
แหม รีบแก้ตัวเลยนะครับว่า ยังไม่มีแฟน มีแต่ เพื่อนสนิทใช่มั้ยครับ อิอิอิ