หลายๆคนบอกผมว่า เริ่มทำงานชุมชน ควรจะเริ่มยังไง??
ผมมองว่า เราต้องทำใจก่อน ทำใจในที่นี้หมายถึง รักที่จะเรียนรู้กับชุมชนเพราะสิ่งที่เราเห็นมีมิติที่ซ่อนๆลึกกว่าสิ่งที่เราเห็นมาก หากเราสนุกที่จะได้เรียนรู้ร่วมกับผู้คนหลากหลาย เรายอมรับในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
ชุมชนเป็นขุมความรู้ที่ให้เราได้เรียนรู้อย่างไม่มีจำกัด ตามพลวัตของวิถีของคนท้องถิ่น ที่ความรู้ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆเช่นกัน
หากจะเริ่มทำงานชุมชน สิ่งสำคัญที่สุดที่เราควรเรียนรู้เป็นพื้นฐานในการเข้าไปทำงานกับชุมชนไม่ว่าจะเป็นงานวิจัย เชิงปฏิบัติการ หรืองานพัฒนา คือ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา
เข้าใจชุมชน อย่างไร??
เข้าใจว่าชุมชนมีพัฒนาการมาอย่างไร ชุมชนประกอบด้วยกลุ่มใดบ้าง มีวิถีการดำเนินชีวิตอย่างไร (ความรู้ดั้งเดิม,ศิลปะ วัฒนธรรม) บริบทอื่นๆที่อยู่รอบๆชุมชน ที่ประกอบด้วย ๔ ระบบใหญ่ๆ ที่จะเป็นตัวกำหนด(เป็นปัจจัยเอื้อ หรือขัดขวาง) การเสริมพลังอำนาจชุมชน มีดังนี้
J ระบบชุมชน เป็นระบบคุณค่าความเชื่อและการจัดความสัมพันธ์ของชุมชนที่มีลักษณะเฉพาะถิ่น เฉพาะเผ่าพันธุ์ ที่เป็นเครื่องยืดโยงสายสัมพันธ์ของคนไว้ด้วยกัน หรือที่เรียกว่า “วัฒนธรรม” นั่นเอง <p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal">J ระบบทรัพยากร วิถีชุมชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบทนั้นอิงอยู่กับทรัพยากร เช่นดิน น้ำป่า ในฐานะเป็นฐานการผลิต เป็นที่มาของปัจจัยสี่ ที่เชื่อมโยงไปสู่แหล่งอาหารธรรมชาติ และบางครั้งเราได้เห็นว่า ทรัพยากรก็เกี่ยวข้องกับวิธีคิด ประเพณีของชุมชน เช่น ป่าสะดือ หรือ ป่าเดปอ ของชาวปกาญอ เป็นป่าที่ศักดิ์สิทธิ์ห้ามมีการตัด เพราะชาวปกาญอมีความเชื่อว่าเด็กทารกที่คลอดต้องเอารกไปแขวนที่ต้นไม้ประจำตัว คนละหนึ่งต้น ตัดไม่ได้ ป่าผืนนั้นจึงเป็นป่าสะดือ ที่ไม่มีการตัดไม้ จึงเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรไปในตัว นอกจากนี้เรายังพบว่าแหล่งทรัพยากร เช่น ป่า เป็นแหล่งรวมของพรรณพืช สมุนไพร เป็นซุปเปอร์มาเกตขนาดใหญ่ของชุมชนด้วย</p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal">J ระบบความรู้ ในการดำรงชีพภายใต้บริบทของระบบชุมชน และระบบทรัพยากรที่มีอยู่ชุมชนได้เรียนรู้ที่จะอยู่รอดได้ จึงมีการ “จัดการ” ทั้งทรัพยากร และความสัมพันธ์ของคนให้เหมาะสมอยู่เสมอ จนในที่สุดความสามารถในการจัดการได้กลายเป็น “องค์ความรู้” ของชุมชนนั้นๆที่มีอยู่ในทุกชุมชน </p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal">J ระบบเหนือชุมชน เป็นระบบเศรษฐกิจ การเมือง การศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นระดับชาติ จังหวัด อำเภอ ตำบล และแปรออกมาในรูปนโยบายรัฐ เป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น ในรูปยุทธศาสตร์ แผนงาน/โครงการ ที่เข้ามาอยู่ในชุมชนโดยโครงข่ายความสัมพันธ์ในแนวดิ่ง ซึ่งชุมชนต้องตั้งรับให้ได้</p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal">การทำความเข้าใจระบบที่เกี่ยวข้องในชุมชนในทุกมิติ เป็นการเข้าใจโลกและระบบที่ซับซ้อน (Understanding Complexity & Conceptualization) เป็นการทำความเข้าใจความสลับซับซ้อนของเรื่องราวต่างๆ สารพัดบนโลก ทั้งนี้ เพื่อมองเห็นการเชื่อมโยงของสรรพสิ่งว่าเกี่ยวพันกันอย่างไร และเกี่ยวโยงกับตัวเรา ชุมชนเองอย่างไร ซึ่งสำคัญมากในการเชื่อมต่อนักพัฒนากับชุมชนในช่วงเริ่มแรกเดินเข้าเรียนรู้ชุมชน</p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal">ส่วนกระบวนการมาได้ซึ่งข้อมูลในแต่ละระบบของชุมชน จะนำเสนอในบันทึกอื่นๆต่อไปครับ</p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"></p>
ตามมาเก็บความรู้เรื่อง ชุมชนค่ะ
แต่ก่อนพี่ไม่เข้าใจว่า...ทำไมเวลาซักประวัติผู้ป่วยเราต้องถามว่าบ้านอยู่ไหน ชุมชนเป็นอย่างไร ความเชื่อ ประเพณี วัฒนธรรมเป็นอย่างไร
แต่ตอนนี้รู้ซึ้งว่า สิ่งเหล่านี้มีผลต่อการดำเนินชีวิตของเขา และเป็นผลต่อการเจ็บป่วย การหายและภาวะสุขภาพเป็นอย่างมากค่ะ
สวัสดีครับพี่อุบล จ๋วงพานิช
บันทึกใน Blog นี้ผมตั้งใจจะให้เป็นที่แลกเปลี่ยนสำหรับคนทำงานชุมชน รวมถึง นศ.ที่ผมได้สอนบ้างในบางรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับ งานวิจัยชุมชน ครับ ผมพยายามจะเขียนเป็นลำดับความคิดตั้งแต่พื้นฐานจนถึงปฏิบัติการ ในชุมชน
การเรียนรู้โลกของคนในชุมชน ทำให้เราเข้าใจมิติของชุมชนได้ รวมถึงนำไปสู่การเข้าใจซึ่งกันและกัน ปรองดอง สมานฉันท์ครับผม
ต้องขอบคุณมากครับสำหรับการเข้ามาแลกเปลี่ยนครับ
ขอแจมด้วยคนนะครับน้องเอก | |
คำกล่าวของน้องอุบลนั้น เป็น แนวทางหนึ่งในการอธิบาย พี่เองก็ใช้บ่อยๆ คือ คุณหมอมีกระบวนการตรวจคนไข้ที่มีหลายขั้นตอน เราก็ใช้กระบวนการนี้กับการศึกษาวิเคราะห์ชุมชนในทำนองเดียวกัน แต่ทางงานพัฒนาซับซ้อนมากกว่าเพราะชุมชนเป็นหน่วยที่ใหญ่กว่า | |
การศึกษาชุมชนนั้นอาจจะแบ่งเป็นหมวดหมู่ได้หลายแบบ อย่างที่น้องเอกนำเสนอนี่ก็เป็นแนวทางหนึ่ง พี่อยากจะขอขยายความครับ
|
|
ประเด็นสำคัญจากทั้งหมดนั้นก็คือ เราไม่ได้หาข้อมูลมาเป็นแบบชิ้นๆ ก้อนๆ แท่งๆ ยิ่งข้อมูลจำนวนมาก ก็ต้องพยายามจัดหมวดหมู่ให้ชัดเจน ในขณะเดียวกันก็ศึกษาความสัมพันธ์ของข้อมูลระบบต่างๆด้วยว่ามันสัมพันธ์กันอย่างไร อย่างที่พระไพศาล วิสาโลกล่าวว่า “ชีวิตจริงไม่ได้แบ่งวิชา แต่ความรู้เรานั้นแบ่งเป็นวิชา” ที่เราเรียกวิถีชีวิต ซึ่งในชีวิตจริงมันคลุกคลีเป็นเนื้อเดียวกัน ดังนั้นข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาเราต้องเข้าใจความสัมพันธ์ในลักษณะเป็นเนื้อเดียวกันในวิถีประจำวัน |
สวัสดีค่ะ
"มหาอยู่ สุนธรทัย" (อดีต) ปราชญ์ชาวบ้านแห่งเมืองสุรินทร์ กล่าวไว้ว่า "ศรัทธา" มีความสำคัญ และย้ำว่า ถ้าจะพัฒนาอะไร ต้องเตรียมสิ่งสำคัญในแต่ละเรื่อง คือ
เป็นความเชื่อมโยงและสัมพันธ์กันค่ะ
เห็นด้วยค่ะที่ว่า "ต้องทำใจ" ให้รักและศรัทธา (ฉันทะ) ก่อน สิ่งอื่นจะง่ายเข้า
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณ พี่ครูรัตน์ มากครับสำหรับ ข้อเสนอแนะเติมเต็มนี้
ขอบคุณพี่บางทราย และ พี่ครูรัตน์ มากครับสำหรับ ข้อเสนอแนะเติมเต็มนี้