น้องออยไม่มีบัตรทอง ไม่สามารถเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ใครหลายคนบอกว่าทำเพื่อ "บุคคลทุกคน"
เมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๔๘ ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้เพิ่มชื่อชาวบ้าน อ. แม่อาย จำนวน ๑๒๔๓ คนในทะเบียนราษฎร ทร.๑๔ ส่งผลให้บุคคลกลุ่มนี้กลับคืนสู่ สถานะของคนสัญชาติไทยโดยการเกิด จนกว่าจะมีการพิสูจน์เป็นอย่างอื่น ซึ่งอำเภอแม่อายก็ได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาสำหรับผู้ชนะคดีทั้ง ๑๒๔๓ คน เรื่องทั้งหมดคงจบลงด้วยดีหากทางอำเภอไม่ปฏิเสธที่จะเพิ่มชื่อใน ทร.๑๔ ให้แก่บุตรของผู้ชนะคดี จนกว่ากรมการปกครองจะมีคำสั่งให้กระทำ
น้องออยเป็นบุตรสาวของนางสุดา ซอหริ่ง หนึ่งในชาวบ้าน อ.แม่อาย ๑๒๔๓ คน ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้โดยตรง น้องออยเกิดเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๗ ณ โรงพยาบาลแม่อาย ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.แม่อาย จ.เชียงราย เมื่อแม่ของเธอซึ่งเป็นคนไทยโดยการเกิดถูกถอนชื่อออกจากทะเบียนราษฎรส่งผลให้เธอถูกถือเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย สำหรับเด็กที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงก็คงไม่รู้สึกอะไรมากนัก แต่สำหรับน้องออยที่ป่วยกระเสาะกระแสะต้องวนเวียนเข้าออกโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำนี่สิ การเจ็บป่วยของเธอแต่ละครั้งนั่นหมายถึงภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ตามมามากมาย นี่ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกนะที่เกิดมาเร็วไป หากเธอเกิดช้ากว่านี้เธออาจมีชีวิตรอดก็ได้
น้องออยไม่มีบัตรทอง ???
ใช่น้องออยไม่มีบัตรทอง ไม่สามารถเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ใครหลายคนบอกว่าทำเพื่อ "บุคคลทุกคน" แต่เมื่อปฏิบัติจริงกลับมีใครอีกหลายคนที่ยังเข้าไม่ถึง หรือว่าเขาไม่ใช่บุคคล ไม่จริงหรอกในทางกฎหมายสภาพบุคคลของน้องออยเริ่มเมื่อคลอดแล้วอยู่รอดเป็นทารก (ปพพ.มาตรา )
ทะเบียนบ้านสำหรับบุคคลที่มีสิทธิอาศัยถาวรในราชอาณาจักร ได้แก่ (๑) บุคคลสัญชาติไทยทุกคน และ (๒)บุคคลซึ่งเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองถูกกฎหมายที่ได้รับสิทธิอาศัยถาวรในราชอาณาจักรไทย
คนสัญชาติไทยมี ๒ ประเภท (๑) คนสัญชาติไทยโดยการเกิด ๑.๑ ตามหลักสืบสายโลหิต คือ เป็นบุตรของบุคคลสัญชาติไทย โดยไม่คำนึงว่าจะเกิดในหรือนอกราชอาณาจักร ๑.๒ ตามหลักดินแดน คือ เกิดในราชอาณาจักรไทย ซึ่งกรณีนี้นอกจากหมายถึงบุตรของคนสัญชาติไทยที่เกิดมนราชอาณาจักรแล้ว ยังหมายรวมถึงบุตรของบุคคลต่างด้าวที่มีสิทธิอาศัยถาวรในราชอาณาจักรด้วย (๒) คนสัญชาติไทยภายหลังการเกิด ๒.๑ โดยการแปลงสัญชาติเป็นไทยกรณีสมรสกับคนสัญชาติไทย ๒.๒แปลงสัญชาติกรณีอื่น
มาตา ๗ ทวิ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๓๕ บัญญัติว่า “ให้ถือว่าผู้เกิดในราชอาณาจักรไทยซึ่งไม่ได้สัญชาติไทยตามวรรคหนึ่งเป็นผู้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง เว้นแต่จะมีการสั่งเป็นอย่างอื่นตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น”
ร่างมาตา ๗ ทวิ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๕๑ ผู้เกิดในราชอาณาจักรไทยซึ่งไม่ได้สัญชาติไทยตามวรรคหนึ่งจะอยู่ในราชอาณาจักรไทยในฐานะใด ภายใต้เงื่อนไขใด ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรและสิทธิมนุษยชนประกอบกัน ในระหว่างที่ยังไม่มีกฎกระทรวงดังกล่าว ให้ถือว่า
ผู้นั้นเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง