วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2551 ช่วงเวลา 13.00 - 16.00 น.ผมรับงานวิทยากรอบรมครูผู้สอน เรื่องการสอนอ่านคิดวิเคราะห์และเขียน ช่วงชั้นที่ 3-4 จริงๆ แล้วก็ไม่ควรจะเรียกว่าวิทยากรหรอกครับ เพราะผมจะให้คุณครูปฏิบัติกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยเรื่องเล่าเร้าพลัง สกัดแก่นความรู้ (how to) รวมทั้งสำรวจปัญหา ช่วยกันหาข้อสรุปจากประเด็นปัญหา...การอบรมครั้งนี้ผมจะไม่ให้เบ็ดไปตกปลานะครับ แต่จะให้ปลาเลยละครับ...ปลาที่มีแต่ก้างให้คุณครูไปหาเนื้อปลา มาใส่ก้างกันเอง...ใช่ครับให้วิเคราะห์ปัญหาด้วยผังก้างปลา จนสุดท้ายร่วมกันหาทางออกของปัญหาที่เหมาะสม หากเวลาอำนวย เราก็จะได้ข้อสรุปที่อาจจะยืดเยื้อไปทำต่อกันที่โรงเรียนซึ่งอาจจะออกแนวรูปแบบ โครงการ โครงงานนักเรียนหรืออื่นๆ ซึ่งผมก็ยังไม่ทราบเหมือนกันจนกว่าจะถึงเวลาครับ...
ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีต่างๆ ก้าวล้ำนำสมัยไม่ว่าลูกเด็กเล็กแดง รู้จักมีรู้จักใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีเครือข่ายที่เรียกว่าอินเทอร์เน็ต หากคุณครูจะได้นำมาใช้ให้เป็นเครื่องมือหรือผู้ช่วยในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้หรือเป็นแหล่งเรียนรู้ สำหรับนักเรียน ประเด็นสำคัญๆ ที่คุณครูควรจะได้นำมาพิจารณาเพื่อนำไปสู่งานครูที่มีคุณภาพ ผมคิดว่ามีดังนี้
ครูผู้สอนจะพัฒนาผลงานของนักเรียนให้สูงขึ้นได้อย่างไรจากระดับต่ำไปจนถึงสูงสุด
สำหรับความสำเร็จของกิจกรรมการอบรมปฏิบัติการนั้นผมจะโยนไปเป็นภาระของผู้เข้ารับการอบรมทุกท่านที่จะต้องร่วมกันสร้างความสำเร็จโดยใช้ปริมาณและคุณภาพของบันทึก ที่จะมาบันทึกต่อในนี้เป็นตัวชี้วัด...ภายในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์...ซึ่งผมก็ไม่ทราบจะได้ผลอย่างไร...
สำหรับคุณครูที่สนใจใช้เว็บไซต์เพื่อการเรียนการสอนอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนฯ ขอแนะนำที่...
ท้ายสุดของกิจกรรมวันนี้ (8 ก.พ. 51) ผมขอให้สมาชิกกลุ่มได้มาบันทึกในประเด็นดังนี้
***การปฏิบัติที่เป็นเลิศของตัวเอง ได้แก่การทำหน้าที่ครูอาสาโครงการอ่านออกเขียนได้ภายในสี่เดือน ซึ่งต้องใช้ทั้งพลังกายพลังใจในการแก้ไขปัญหาให้นักเรียนอ่านออกเขียนได้ค่ะ***
***แก่นความรู้ที่สกัดได้จากกลุ่ม คือ การใช้กิจกรรมเพื่อนสอนเพื่อน พัฒนาทักษะการอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์***
ขอบคุณครับคุณครูกาญจนา โครงการสอนอ่านออกเขียนได้ภายในสี่เดือน น่าสนใจมากครับ หากมีโอกาสคงได้อ่านรายละเอียดการปฏิบัติงานของคุณครูบ้างนะครับ ถือว่าแลกเปลี่ยนกันครับ
ปัจจุบัน ปัญหาเรื่องการสื่อสารของนักเรียนไทย เป็นปัญหาใหญ่มาก....
ปี ๒๕๒๙ ประเทศไทยรณรงค์หมู่บ้านปลอดผู้ไม่รู้หนังสือ
ขึ้นป้ายกันทั่วประเทศ ว่าทำได้สำเร็จแล้ว
ล่วงเลยมามาถึงปัจจุบัน ๒๐ กว่าปี
ทุกวันนี้นักเรียนในทุกระดับชั้น ตั้งแต่อนุบาล ยัน ม. ๖ ส่วนหนึ่ง
อ่านหนังสือไม่ออก
เกิดอะไรขึ้นกับการศึกษาไทยครับ ?
ใครจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้
ฝากภาระนี้ไว้กับคุณครู ผู้สอนภาษาไทยด้วยนะครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ...พี่ท่านเกรงใจเกินไปแล้ว อิอิ