รถยนต์ก็มีทั้งรถยุโรป รถญี่ปุ่น รถเก๋ง รถกระบะ แต่คิดว่าความเชื่อของคนส่วนใหญ่ มักจะคิดว่ารถยุโรปแข็งแรงกว่ารถญี่ปุ่น อันนี้ไม่แน่ใจ..ว่าแข็งแรงกว่าจริงหรือไม่..ณ.ปัจจุบันนี้.. แต่โครงสร้างของรถที่แข็งแรงกว่า ก็มิได้หมายความว่า รถยุโรปจะดีกว่ารถญี่ปุ่น
และแน่นอนรถญี่ปุ่นส่วนใหญ่ราคาถูกกว่ารถยุโรป..แต่ข้อดี ของรถญี่ปุ่น ก็มีหลายประการ
ข้อเสีย รถญี่ปุ่น
ข้อดี ขับรถยุโรป
ข้อเสีย รถยุโรป
ดังนั้นความเห็นส่วนตัว จึงคิดว่ารถยนต์ราคาแพง..ไม่แน่เสมอไปว่าจะดีกว่า..รถยนต์ราคาถูก...ด้วยเหตุผลข้างต้น
และ(เพิ่มเติม) ความจริงถ้าดูเครื่องเป็น ดูแลรักษารถได้บ้าง..น่าเล่นรถมือสอง..มาก เพราะอะไร..เพราะรถใหม่สมัยนี้ซื้อมาบางทีก็..เสียซะแล้ว..ยกตัวอย่างรถที่บ้าน..BMW318iซื้อใหม่ขับๆอยู่กระจกร่วงลงมา Peugeot 405ซื้อใหม่ใช้ได้หนึ่งเดือนเสียกลางทาง..บริษัทใส่อะไรผิดไม่ทราบจำไม่ได้เรียกรุ่นนี้เข้าศูนย์หมด..เป็นต้น
เพราะ รถรุ่นใหม่ อุปกรณ์กลไกทันสมัยขึ้นแต่ช่างไม่แน่ใจว่าความสามารถ ความรู้ตามทันกับระบบที่ทันสมัยหรือเปล่า..และนับวันรถรุ่นใหม่ก็จะบางลงๆแต่แพงขึ้น.. แม้รถยุโรปก็ใช่ว่าจะแข็งแรง (เคยถอดออกมาดูด้วยความที่เป็นคนอยากรู้อยากเห็น....volvo รุ่น 244 GL แข็งแรงมาก ..ตรงประตูข้างถ้างัดออกมาดูจะเห็นเหล็กท่อนใหญ่ขวางอยู่ ต่อมาพอรุ่น740 เหลือท่อนเหล็กเล็กๆ 850 GLE ก็เหลือเหล็กท่อนเล็กๆซึ่งดูแล้วไม่ได้เซฟอะไรเท่าไร.. แล้วยังไม่แน่ว่ารุ่น S 60 S 80 นี่จะมีเหล็กอะไรหรือเปล่า..สงสัยเหมือนกัน วันไหนต้องลองไปงัดดูสักหน่อย..แต่ที่แน่ๆฝาปิดน้ำมันหลุดติดมือพนักงานเติมน้ำมันเลย..แต่ก็ยังคิดว่าโครงสร้างใหญ่รถยุโรปยังคงแข็งแรงดีอยู่..)
แต่อย่างไร..ก็ตาม ก็ยังคงชอบทุกชีวิตปลอดภัยใน Volvo (ปลอดภัยบ้างไม่ปลอดภัยบ้าง) ถึงแม้มันจะมีข้อเสียมากกว่ารถญี่ปุ่นก็ตาม..ก็ขอบอกว่าชอบมาก..มากคะ.. เพราะราคาไม่แพงเกินเหตุ.. เมื่อเทียบกับคุณภาพและความปลอดภัย...ที่สำคัญคันใหญ่ดี..
ท้ายที่สุด รถยนต์จะดีหรือไม่ ส่วนหนึ่งก็อยู่ที่การดูแลรักษา ต้องดูแล และรักษาเป็น ซ่อมได้เองเบื้องต้น มีความรู้ด้านช่างบ้าง..ไม่ใช่อะไรก็เข้าศูนย์..แล้วก็โดน"ต้ม"เขาให้เปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน..ความจริงบางครั้งมันซ่อมได้..ให้แอบเข้าไปดูเวลาเขาซ่อมด้วย แล้วขออะไหล่ที่เสียคืนด้วย เพราะอะไหล่บางชิ้นยังเอาไปใช้ได้ ช่างตามศูนย์บางทีชอบเปลี่ยนยกทั้งชุด..ต้องระวัง..ถามให้ละเอียด ว่าจะเปลี่ยนอะไร แล้วเปลี่ยนให้จริงหรือเปล่า..และ หลายอย่าง(รถเรา) ซ่อมเอง..เพราะแค่ใช้ไขควงซ่อมก็ใช้ได้แล้ว เช่นสวิตช์กดกระจกไฟฟ้า หรือไฟบนหลังคารถ..เราสัมผัสปิด เปิดบ่อยๆหน้าสัมผัสมันจะห่างกัน ก็ถอดออกมาแล้วเอาไขควงดัดๆ ให้หน้าสัมผัสมันเข้ามาใกล้ๆกัน เวลากดมันก็ใช้ได้เหมือนเดิม..(ถ้าเปลี่ยนราคาเป็นหมื่น..เป็นลมก่อน..ไม่ได้เสียอะไรสักหน่อย..เกือบโดน"ต้ม"..)หรือตรงประตูข้าง ด้านในที่ปิดเปิดจะเป็นค้นโยกแล้วจะมีพลาสติกเป็นตัวต่อคันโยก เพื่อให้เปิดล็อคประตูได้เลยบอกช่างเอาลวดมัดไว้แทน...ฮิๆๆ.. ไม่ต้องเปลี่ยน..(ใครซื้อต่อคงโชคร้ายหรืออาจโชคดีก็ได้....แต่ไม่ขายหรอก..)เพราะดูแล้วอะไหล่ที่จะเปลี่ยนเป็นพลาสติก ใช้ไม่นานก็แตกอีก เอาลวดมัดแทน..ก็ใช้ได้เหมือนกัน..ดีไม่ดี อาจใช้ได้ Forever เลย..
สรุปว่ารถยนต์ราคาแพง..อาจจะไม่ดีกว่ารถยนต์ราคาถูกก็ได้..คะ...ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น..
แต่ก็ยังเห็นด้วยหากมีการรณรงค์ให้ขี่จักรยาน ในสถานที่ทำงาน..เพื่อลดมลพิษ ลดอุบัติเหตุ ฯลฯ
ด้วยรักจากใจ หมูอ้วน..I love u
ขอแจมด้วย
ถูกต้องครับ...เห็นด้วยครับ...
เราไม่จำเป็นต้องใช้รถที่ใช้สื่อล่อด้วยโฆษณาเรื่องสมรรถภาพ และความปลอดภัยขนาดนั้น
*ความปลอดภัยสิ่งสำคัญอยู่ที่คนขับ
*การเลือกประเภทรถที่ใช้ต้องให้เหมาะกับการใช้งาน
*การเลือกอู่ซ่อมอย่าเชื่อช่างมาก ควรสอบถามเพื่อน ๆ หรือคนที่รู้จักและใช้รถรุ่นเดียวกัน(หรือไกล้เคียงกัน)หรือยี่ห้อเดียวกันก่อน เพราะจะมีเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น อาการจะคล้าย ๆ อย่าเสียเงินทั้งที่ไม่จำเป็น
*ช่าง ที่เปิดอู่เองส่วนใหญ่มาจากศูนย์ ฯ พอเก่งก็ลาออกมาเปิดอู่เองและมีความรู้ในส่วนที่เคยทำงานอยู่มาใช้ทำมาหากิน แต่วิวัฒนาการทางเทคโนโลยียานยนต์พัฒนาการไปไวมาก ถ้าช่างไม่เรียนรู้เพิ่มเติมจะซ่อมไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าอู่ใหนขึ้นป้ายว่า " ซ่อมรถได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ"เป็นไปได้ยากครับ..แทบเป็นไปไม่ได้เลย ( นอกเสียจากว่าจะใช้รถของท่านเป็นหนูลองยา) แต่ถ้าจำเป็นต้องเข้าอู่จริง ๆ ควรเลือกอู่ที่เปิดเฉพาะทางเช่น แอร์ หรือ ช่วงล่าง หรือ เครื่องยนต์ เป็นต้นครับ
ควรรู้เรื่องรถบ้าง..รถท่าน..ท่านขับท่านน่าจะรู้มากกว่าคนอื่น การขับอยู่บนท้องถนนและเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเสมือนใช้ชีวิตอยู่บนเส้นด้าย สติและสัมปชัญญะของคนขับสำคัญที่สุดครับ
สวัสดีค่ะ
บันทึกนี้ดีค่ะ ให้ความรู้ดี
ดิฉัน เป็นคนดูแลรถ และใช้รถมาหลายยี่ห้อ เอาเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก
รถยุโรป บางลงๆ เพราะตัวถังและกระจกบางลง ใช้กระจกชั้นเดียวแล้ว แต่โครงสร้างดีกว่ารถญี่ปุ่น
ส่วนการตรวจสอบและซ่อม เข้าศูนย์ค่ะ ยกเว้นเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เพราะช่างนอกศูนย์ มักตามเทคโนโลยี่รถไม่ทัน ไม่ควรเสี่ยง
มีรถต้องดูแล คอยสังเกตอาการอยู่เสมอ ก็จะใช้ไปได้เรื่อยๆไม่มีปัญหาอะไรค่ะ
สวัสดีคุณพี่"วิสิทธิ์"
สวัสดีคะคุณพี่"sasinanda"
ด้วยความเคารพรัก
จากหมูอ้วน
ขออนุญาตชมคุณพี่เล็กน้อยนะคะ เห็นรูปคุณพี่มานานแล้ว..นึกในใจว่าคุณพี่"sasinanda"ยังสวยอยู่เลย..คะ แสดงว่านอกจากจะดูแลรถยนต์ได้ดีแล้ว ยังดูแลสุขภาพได้ดีด้วยคะ..ขอบพระคุณคะ
มีคนรู้จัก เป็นช่างให้คำแนะนำเล็ก ๆ มา ว่าเครื่องยนต์และตัวถังของรถทุกรุ่นทุกยี่ห้อ กว่าจะผ่านการทดสอบมาตรฐานของรถแต่ละคัน จนผ่านและนำออกมาจำหน่ายให้เรา ๆ ท่าน ๆ ใช้ ผ่านกระบวนการนับไม่ถ้วน เพราะฉะนั้นถ้าไม่แน่ใจว่ารถเราเสียจริงหรือเปล่า อย่าให้อู่ที่ไม่รู้จักดู เพราะถ้าเข้าอู่เมื่อไหร่รถท่าน " ต้องเสียและต้องเสียตังส์ " บางคนมีอาการวิตกจริต ได้ยินอะไรนิดหน่อยไม่ได้ต้องรีบเข้าอู่หรือศูนย์ฯ เงินลอยออกจากกระเป๋าเห็น ๆ ทั้งที่ไม่มีอะไรครับ
ศึกษาหาความรู้เรื่องรถ(จากคนรู้จัก,หนังสือหรือคู่มือ)ที่ท่านขับ เช่น ข้อมูลเครื่องยนต์ วิธีการดูแลรักษา ซึ่งบางอย่างเราทำเองได้ง่ายมาก จะได้ไม่ต้องเสียตังส์โดยไม่จำเป็นครับ
สวัสดีคะคุณSingha the Kop
สวัสดีค่ะ
อยากทราบว่าVolvo รุ่น XC90 ใช้ดีหรือเปล่าค่ะ..ขอบพระคุณมากค่ะที่ให้คำแนะนำที่ดีๆ
หมูอ้วนเองค่ะ
จริงค่ะ รถแพงค่าดูแลก็แพงตามไปด้วย อย่างเคยใช้อยู่คันนึง E220 สีฟ้าสวยสดใส ประกอบนอก เบาะไฟฟ้า ซันรูฟ มูนรูฟ หรูซะไม่มี เป็นมรดกตกทอด ขับมาได้ปีนึงม่ายไหว ซดน้ำมันเฮือกๆ เติมเต็มถังทีเหยียบสองพัน พอเจอค่าซ่อมบำรุงร้องเจี๊ยก หนูมันเด็กจนๆ ไม่มีปัญญาดูแล จ่ายทีร่วมแสนเพราะถึงรอบการเปลี่ยนอะไหล่หลายอย่าง น้ำตาตก T_T เลยขายกินซะ สบายใจ
หันกลับมาขับรถญี่ปุ่นคู่ชีพคันเดิม แต่งซิ่งหน่อยๆ วิ่งฉิว กินน้ำมันน้อย ซ่อมบำรุงทีหลักพันหรือไม่ก็หมื่นสองหมื่นเต็มที่ รู้สึกดีกว่าค่ะเพราะทางไกลก็ไม่ค่อยได้ขับ วนอยู่แต่ในกรุงเทพฯ เวลารถติดๆ ต้องการออกตัวไว ปราดเปรียวคล่องแคล่ว คันนี้กินขาด เสียอยู่อย่างคือ มอเตอร์ไซต์ไม่ค่อยเกรงใจ ปาดหน้าปาดหลังเล่นเอาเสียวไส้ ตอนที่ขับรถยุโรปมอเตอร์ไซต์มักจะไม่ค่อยเข้าใกล้เราค่ะ ^ ^ และข้อดีรถใหญ่อีกอย่างคือเวลาวิ่งทางไกลมันสบาย ไม่ต้องเหยียบกดตลอด มันลอยตัว มั่นคง วิ่งที่ 160 ยังรู้สึกเฉยๆ ล็อกความเร็วได้ด้วย ก็เรียกว่าดีคนละแบบค่ะ มันขึ้นอยู่กับว่าใช้งานประเภทไหนมากกว่า
หนูไม่ติดยึดหรอก มีให้ขับก็บุญแล้ว เห็นคนที่ต้องใช้รถสาธารณะเมืองไทยแล้วสงสาร ยิ่งเวลาฝนตกด้วยยิ่งแล้วใหญ่ แต่ถ้าระบบรถสาธารณะของเมืองไทยดีเหมือนเมืองนอกก็อาจจะเลือกไม่ขับรถเหมือนกันค่ะ
สวัสดีค่ะคุณน้อง Little Jazz ที่น่ารัก