คำถามกับพ่อมด


พยายาม

สอนคุณธรรมอย่างไร

ให้มีความพอเพียง

บทที่ 6

การมองโลกในแง่ดี

                                               

จุดประสงค์ :   เพื่อรู้ รัก และฝึกจนเคยชิน

นิทานคติ  เรื่อง : คำถามกับพ่อมด

 

            นานมาแล้วยังมีหัวหน้าหมู่บ้านที่ร่ำรวยผู้หนึ่ง เขามีลูกสาวที่ทั้งสวยทั้งน่ารักอยู่หนึ่งคน เธอชื่อ เกรเธน เมื่อเธอเติบโตขึ้น เขาก็ต้องการให้เธอแต่งงานกับคนที่เขาคิดว่าดีที่สุด เขาอยากให้เธอแต่งงานกับนายพรานที่เก่งที่สุด เก่งที่สุดในโลก แต่ลูกสาวของเขาไม่คิดเช่นนั้น เธอคิดว่า

ชายคนที่ฉันจะชอบต้องเป็นคนที่จิตใจดี สุภาพ และทำงานหนัก ฉันไม่สนใจหรอกว่าเขาจะล่าอะไรได้หรือไม่

            ในหมู่บ้านเดียวกันนี้ยังมีแม่หม้ายที่แสนยากจนคนหนึ่ง เธออยู่กับลูกเลี้ยงของสามีที่เสียชีวิตไปแล้วคนหนึ่งชื่อ จาคอบ เขาเป็นคนใจดี สุภาพ และทำงานนัก แต่ว่าเขาไม่ใช่นายพรานที่เก่งกาจอะไร

          แม่เลี้ยงของจาคอบอยากได้เงินของหัวหน้าหมู่บ้าน จึงสั่งจาคอบให้พยายามเอาชนะใจของเกรเธนให้ได้ แต่จาคอบบอกว่า ข้าหวังเพียงรักที่แท้จริง และจะแต่งก็แต่หญิงที่ดีและฉลาดเท่านั้น แต่ข้าไม่ใช่นายพรานที่เก่ง คงไม่มีใครชอบข้า

            แม่เลี้ยงของเขายังคงไม่ยอมแพ้ นางไปหาพ่อมดที่อาศัยอยู่แถวนั้น เพื่อขอให้เขาช่วยให้ลูกเลี้ยงของเธอได้แต่กับเกรเธนที่แสนร่ำรวย

            พ่อมดนั่งอยู่ที่โต๊ะ เมื่อได้ฟังเรื่องราวก็หัวเราะร่า แล้วบอกว่า ง่ายๆ ข้าจะทำให้มันกลายเป็นนายพรานที่เก่งที่สุดในโลกนี้ แล้วพ่อมดก็ลุกขึ้น พลางกล่าวต่อว่า ส่วนค่าตอบแทนแสนง่าย หลังจากลูกของเจ้าแต่งงานแล้วเจ็ดปี มันจะต้องมาอยู่รับใช้ข้า

            แม่เลี้ยงนำเรื่องราวมาบอกต่อจาคอบ ชายหนุ่มรู้สึกเศร้าใจ เขารำพึงรำพันว่า

          โอ เป็นคนรับใช้ของพ่อมด ชีวิตของข้าจะเป็นเช่นไรกันละ

          แต่เจ้าก็ยังได้แต่งงานกับเกรเธนนะ และข้าก็จะได้อยู่ดีกินกินในยามแก่เฒ่า แม่เลี้ยงบอกต่อเขา

            และชีวิตยามแก่ของข้า ที่ต้องเป็นคนรับใช้ของพ่อมด จาคอบพูดเบาๆ

จาคอบไม่ยอมรับข้อเสนออย่างมาก แต่แม่เลี้ยงของเขาก็ยังคงไปหาพ่อมด และบอกอีกฝ่ายว่า

จาคอบไม่ยอมรับขอเสนอของท่าน และข้าก็ไม่อาจตอบรับแทนมันได้

พ่อมดนิ่งฟัง จากนั้นตอบว่า ข้าเข้าใจ ข้าจะให้ทางเลือกแก่มันข้อหนึ่ง ถ้าเมื่อเวลาเจ็ดปีมาถึง แล้วข้าไปหามัน ให้มันถามคำถามข้าข้อหนึ่ง ถ้าข้าตอบมันไม่ได้ ข้าจะยอมปล่อยมันเป็นอิสระ

เมื่อแม่เลี้ยงนำข้อเสนอมาบอกต่อจาคอบ จาคอบรู้สึกว่ามีหนทาง เวลาตั้งเจ็ดปี เขาน่าจะคิดหาคำถามที่ไม่มีคำตอบได้ ดังนั้นเขาจึงตอบรับข้อเสนอ

            พ่อมดนำไม้เท้ามาแตะที่ปืนของจาคอบ และบอกว่านับแต่นี้ นี่จะเป็นปืนวิเศษที่ทำให้เจ้าเป็นนายพรานที่เก่งที่สุดในโลก

            จาคอบจึงได้ตรงไปยังบ้านของหัวหน้าหมู่บาน และเคาะประตูเรียกอีกฝ่าย พลางร้องบอกว่า

ข้าเป็นนายพรานที่เก่งที่สุดในโลก และข้าต้องการแต่งงานกับเกรเธน

หัวหน้าหมู่บ้านและเกรเธนมองอีกฝ่ายจากทางหน้าต่าง เกรเธนเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี จึงบอกต่อพ่อว่า เขาดูดี ท่านพ่อให้เข้ามาก่อนเถอะ

หัวหน้าหมู่บ้านไม่ชอบใจนัก เพราะว่าจาคอบนั้นยากจน แต่เขาก็ยังยอมให้อีกฝ่ายเข้ามาในบ้าน

ถ้าเจ้าว่าเจ้าเป็นนายพรานที่เก่งที่สุด เจ้าสามารถยิงปลายหางของนกแมกพายได้หรือไม่ หัวหน้าหมู่บ้านเสนอเงื่อนไข

            ข้าทำได้ จาคอบตอบรับ จากนั้นเขาเดินออกไปนอกบ้าน นกแมกพายเกาะอยู่ที่ต้นไม้ไม่ไกลนัก เขาจึงใช้ฟืนยิง นกแมกพายเป็นนกที่ว่องไวมาก แต่ปืนวิเศษก็ยิงถูกปลายหางของมัน ขนของมันร่วงหล่นลงมา เกรเธนชื่นชมอีกฝ่าย ทำได้ดีมาก แต่หัวหน้าหมู่บ้านไม่ชอบใจ เขารู้ว่าจาคอบเป็นนายพรานที่เก่ง แต่เขายังไม่ชอบอีกฝ่าย จึงโกหกว่า

ข้าต้องการลูกเขยที่สามารถเป็นชาวนาที่เก่งเช่นเดียวกับที่เป็นนายพรานที่เก่งด้วย ชาวนาเช่นนั้นต้องมีไถที่สามารถไถดินได้เอง ถ้าไม่มีก็แต่งกับเกรเธนไม่ได้

ไม่มีทางเป็นไปได้ เกรเธอร้อง

แต่จาคอบนิ่งฟังอย่างสุภาพ พลางบอกว่า ข้าจะลองพยายามดู

วันรุ่งขึ้น จาคอบตรงไปหาพ่อมด และเล่าเรื่องราวให้ฟัง พ่อมดจึงนำไม้เท่ามาแตะที่ไถที่เขานำมา และแน่นอนมันกลายไปเป็นไถวิเศษ ที่สามารถไถดินได้เอง

พบกันเมื่อครบเจ็ดปี พ่อมดกล่าวเตือน จากนั้นจาคอบนำไถวิเศษไปพบกับหัวหน้าหมู่บ้าน และแสดงไถวิเศษ ทุกคนตกตะลึก เกรเธนยินดียิ่ง เธอไม่ใช้จาคอบน้อยอีกแล้ว

แต่หัวหน้าหมู่บ้านยังไม่ยอมแพ้ เขาไม่อยากได้อีกฝ่ายมาเป็นลูกเขย จึงพูดว่า แต่ลูกเอ๋ย เจ้าสวมใส่ผ้าไหมและซาติน แน่นอนว่านายพรานและชาวนานั้นก็ดีพอแล้ว แต่เจ้าก็ต้องการคนที่มีเงินเพื่อซื้อเสื้อผ้าชั้นดีแก่เจ้านะ

            จาคอบไม่มีทางเลือก เขาไปหาพ่อมดอีกครั้ง แน่นอว่าพ่อมดมอบกระเป๋าเงินที่มีเงินไม่หมดสิ้นให้แก่อีกฝ่าย และจาคอบก็นำไปให้แก่หัวหน้าหมู่บาน คราวนี้อีกฝ่ายไม่อาจบอกปัดได้อีก ดังนั้นจาคอบและเกรเธนก็ได้แต่งงานกัน และมีความสุขอย่างยิ่ง

            เกรเธนเป็นคนฉลาด น่ารัก และจาคอบเป็นคนใจดี สุภาพ และทำงานหนัก พวกเขารักกันอย่างยิ่ง แต่แล้วเวลาเจ็ดปีก็มาถึง ช่วงรวดเร็วนักสำหรับคู่ที่รักกันเช่นนี้ จาคอบรู้ว่าเขาต้องจากเกรเธนและลูกๆ ไป เขาต้องรักษาสัญญา ดังนั้นวันหนึ่งเขาจึงตัดสินใจบอกเล่าเรื่องราวแก่เกรเธนถึงสัญญากับพ่อมด

            เกรเธนตกใจมาก เธอเอ่ยว่า ไม่นะ ท่านไม่อาจไป พ่อมดเป็นคนชั่วร้าย เขาจะทำให้ท่านชั่วร้ายไปด้วย จากนั้นเกรเธนก็ร้องไห้ พลางกล่าวต่อว่า ไม่มีทางออกอื่นเลยหรือ

            จาคอบปลอบโยนอีกฝ่าย พ่อมดเคยบอกว่าถ้าข้าสามารถตั้งคำถามที่เขาตอบไม่ได้ เขาก็จะปล่อยข้าเป็นอิสระ

            เกรเธนและจาคอบมองเห็นทางออก จึงได้ค้นในหนังสือทุกเล่มในบ้าน เพื่อหาคำถามที่ไม่มีคำตอบ พวกเขาหากันทั้งคืนทีเดียว

            ไม่เห็นมีคำถามเช่นนั้นเลย จาคอบบอกอีกฝ่าย ข้ารู้ว่าพ่อมดรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง เขาเป็นคนฉลาดนะเกรเธน

            เกรเธนไม่ยอมแพ้ เราควรลองพยายามอีกครั้ง ฉันก็เป็นคนฉลาดเช่นกันนะ และฉันก็รักเธอมาก ฉันต้องฉลาดกว่าพ่อมดนั่นให้ได้

            และในคืนนั้นเอง เกรเธนก็มีความคิดดีๆ เกิดขึ้น เธอบอกความคิดนั้นต่อจาคอบ จาคอบยินดียิ่งบอกตอบว่า เกรเธน มันช่างยอดเยี่ยมยิ่ง ต้องใช้ได้แน่ๆ

            เช้าวันรุ้งขึ้น เกรเธนอาบน้ำก่อน จากนั้นนำน้ำผึ้งมาราดรดตัวเอง และนำขนห่านจากที่นอนมาพันรอบตัว จากนั้นก็ออกไปซ่อนยังทุ่งหญ้าของพ่อเธอ

            ไม่นานหลังจากนั้นพ่อมดก็มาหาจาคอบที่บ้าน พลางถามว่า

เจ้าพร้อมหรือยัง

ข้าพร้อม จาคอบตอบ เมื่อเจ้าให้ข้าเป็นนายพรานที่เก่ง ขอข้าล่าสัตว์ไประหว่างทางได้ไหม

ได้ซิ พ่อมดตอบรับ มีนกแมกพายอยู่แถวๆ นี้ เจ้าก็ยิงพวกมันซิ

จาคอบส่ายหน้า แล้วตอบว่า ไม่หละ พวกมันตัวเล็กไป

จากนั้นพ่อมดและจาคอบก็ออกเดินทางไปด้วยกัน เมื่อพบกระต่ายป่า พ่อมดก็บอกให้จาคอบล่ามัน แต่จาคอบยังคงบอกว่ามันตัวเล็กไป จากนั้นก็เดินทางกันต่อ จนกระทั่งมาถึงทุ่งหญ้าของหัวหน้าหมู่บ้าน ทันใดนั้นพวกเขาก็เห็นสัตว์ตัวใหญ่ มีขน มันซ่อนอยู่ที่ชายป่า กระโดดไปมา พ่อมดพลันพูดว่า ถ้าเจ้าอยากยิงอะไรที่ใหญ่ๆ ก็ยิงเจ้าตัวนั้นซิ

แต่มันคือตัวอะไรละ จาคอบถามขึ้น

พ่อมดส่ายหน้าพลางตอบว่า ข้าไม่รู้

ทันใดนั้นจาคอบก็ร้องขึ้นว่า งั้นข้าก็เป็นอิสระแล้วซิ พลางมองไปที่พ่อมดซึ่งทำหน้าสงสัยยิ่ง ข้าถามคำถามที่ท่านตอบไม่ได้แล้ว พ่อมดรู้สึกแปลกใจ และงุนงง มีความรู้สึกว่าตัวเองงี่เง่า และโง่อย่างยิ่ง พ่อมดด่าว่าจาคอบว่าโกงมัน จากนั้นก็เดินจากไปอย่างหงุดหงิด

            แต่ว่าจาคอบเป็นอิสระแล้ว จากนั้นเขากับเกรเธนก็กลับบ้านด้วยกันและอยู่กันอย่างมีความสุขนับแต่นั้น

 

 

 

            ช่วยกันขยายความเพื่อสร้างความเข้าใจ

            ๑) ให้ช่วยกันหาคติพจน์และสุภาษิตส่งเสริมการคิดดีต่อคนอื่น

            ๒) ให้ช่วยกันหาคำสอนของศาสนาต่างๆ ที่กล่าวถึงการคิดดีต่อคนอื่น

            ในทั้งสองกรณีให้มีอาสาสมัครรวบรวมบันทึกไว้ เพื่อทำเอกสารแจกให้เก็บไว้ โดยลงวันที่ไว้ด้วย

 

ฝึกคุณธรรม

            ๑) ฝึกรู้รอบ : เรื่องนี้เหมาะสมสำหรับสอนเรื่องการมองโลกในแง่ดีหรือไม่ อย่างไร

            ๒) ฝึกแข็งขัน : เรามองโลกในแง่ดีอย่างเหมาะสมได้อย่างไร  แล้วเรามีความมุ่งมั่นที่จะทำแค่ไหน

            ๓) ฝึกพอเพียง : การมองโลกในแง่ดีอย่างไร จึงเรียกว่าทำได้อย่าง พอเพียง

                                    - อย่างไรเรียกว่าขาด

                                    - อย่างไรเรียกว่าเกิน

            ๔) ฝึกความยุติธรรม : การมองโลกในแง่ดีที่ดำเนินไปอย่างมีความยุติธรรมเป็นอย่างไร ให้ช่วยกันยกตัวอย่าง

 

กิจกรรมสันทนาการ

            ๑.ให้อาสาสมัครลองเล่าเหตุการณ์ที่คิดว่าไม่มีทางออก หรือว่าอับจน แล้วเกิดทางแก้ไข หรือทางออกในท้ายที่สุด ลองเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง เพื่อจะได้แลกเปลี่ยนความคิดกัน

 

เอนก สุวรรณบัณฑิต

ปรับจากหนังสือ Discovering the Real Me, Universal Peace Federation Edition

คำสำคัญ (Tags): #พยายาม
หมายเลขบันทึก: 169755เขียนเมื่อ 8 มีนาคม 2008 17:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 เมษายน 2012 21:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สนุกดีค่ะอาจารย์..ลุ้นตามเลยค่ะ..ไว้

จะเอาไปเล่าให้เด็กๆฟังค่ะ..เด็กๆชอบฟังนิทาน..แล้วได้ปลูกฝังคุณธรรมด้วย..แถมยังได้แนวกิจกรรมไปจัดด้วย..

ขอบคุณมากค่ะ..

  • แล้วตกลง เกรเธน กลับบ้านมา น่าจะคันทั้งตัวน๊ะครับ
  • อิอิ

สนุกดี

อยากอ่านอีก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท